“ช้าง” มอบความสุข..เตรียมต้อนรับซัมเมอร์   เปิดลาน “Chang Chill Park ในคอนเซ็ปต์ Food Fun Friend เสิร์ฟความสนุกรัวๆ กับ 9 ศิลปินจัดเต็มไม่ซ้ำแบบ #ชิลล์ไม่มีพัก  ณ ลานประเสริฐแลนด์ เชียงใหม่    

“ช้าง” มอบความสุข..เตรียมต้อนรับซัมเมอร์  เปิดลาน “Chang Chill Park ในคอนเซ็ปต์ Food Fun Friendเสิร์ฟความสนุกรัวๆ กับ 9 ศิลปินจัดเต็มไม่ซ้ำแบบ #ชิลล์ไม่มีพัก  ณ ลานประเสริฐแลนด์ เชียงใหม่   

 ช้าง มอบความสุข เตรียมต้อนรับซัมเมอร์ เปิดลาน “Chang Chill Park ในคอนเซ็ปต์ Food Fun Friend ให้ทุกความเป็นเพื่อนได้ปลดปล่อย เสิร์ฟความสนุกรัวๆ แบบ #ชิลล์ไม่มีพัก  เติมเต็มไลฟ์สไตล์ให้ครบทุกด้านทั้ง ดนตรี อาหาร และ เครื่องดื่ม ที่ช้างคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อมอบให้เพื่อนๆ อย่างต่อเนื่อง ภายใต้วิถี New Normal ที่มีมาตรการดูแลอย่างดีที่สุด พบทัพดีเจและศิลปินระดับชั้นนำ ตลอด 9 วัน ไม่มีซ้ำ ได้แก่  บิ๊กแอส, เดอะทอยส์, ไวโอเลต, ค็อกเทล, โจอี้บอย, โปเตโต้, ลาบานูน, ปาล์มมี่ และ เสก โลโซ  ตั้งแต่วันที่ 18 – 26 มีนาคม นี้ ที่ลานประเสริฐแลนด์ จังหวัดเชียงใหม่

เครื่องดื่มธรรมชาติตราช้าง ในฐานะ แบรนด์ชั้นนำด้านดนตรี และไลฟ์สไตล์อีเว้นท์ ประเดิมงานแรกก่อนเริ่มต้นฤดูร้อน โดยจัดให้มีลานกิจกรรม Chang Chill Parkภายใต้แนวคิด Food Fun Friend ตกแต่งพื้นที่ให้อยู่ในบรรยากาศสุดชิลล์ๆ นั่งสบาย และเหมาะกับการสังสรรค์ของกลุ่มเพื่อน ให้สามารถร่วมรับชมดนตรีจากศิลปินชั้นนำ ลิ้มรสอาหารจากร้านดังของ จังหวัดเชียงใหม่ และสดชื่นกับเครื่องดื่มตราช้างที่จัดเต็มให้ตลอดงาน  เพื่อร่วมต้อนรับฤดูร้อนอย่างมีชีวิตชีวา เริ่มตั้งแต่วันที่ 18-26 มีนาคม 2564 ที่ลานประเสริฐแลนด์ จังหวัดเชียงใหม่ ติดตามรายละเอียดได้ที่Facebook: Changworld หรือ Line: @ChangworldTH

         Chang Chill Park พร้อมเสิร์ฟความอร่อย ด้วยเมนูอาหารที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี กว่า 60 ร้านดัง พร้อมเติมเต็มอรรถรสความสนุก ด้วยเสียงดนตรีกับศิลปินระดับชั้นนำ อาทิ โดยจะนำทัพดีเจและศิลปินระดับชั้นนำ ได้แก่ บิ๊กแอส, เดอะทอยส์, ไวโอเลต, ค็อกเทล, โจอี้บอย, โปเตโต้, ลาบานูน, ปาล์มมี่ และ เสก โลโซ โดยจะหมุนเวียนกันมามอบความบันเทิงให้กับ ชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง ได้สนุกสุดชิลล์พร้อมกัน ตลอด 9 คืน ภายใต้แนวความคิด Food Fun Friends ที่ให้ความสำคัญทั้งเรื่อง อาหาร ดนตรี และบรรยากาศในการตกแต่ง ที่ต้องการนำเสนอประสบการณ์ #ชิลล์ไม่มีพัก ให้กับทุกๆ คนที่เข้ามาสัมผัสใน Chang Chill Park ครั้งนี้

นอกจากนี้ Chang Chill Park ยังให้ความสำคัญต่อวิถี New Normal โดยจัดเตรียมรูปแบบในการให้บริการอย่างดีที่สุด ตั้งแต่การคัดกรอง ตรวจอุณหภูมิ การเว้นระยะห่าง การจัดโต๊ะที่นั่งและการจัดเตรียมอาหาร-เครื่องดื่ม เพื่อมอบความสุขให้กับทุกๆ คน ที่จะมาร่วมสังสรรค์ต้อนรับฤดูร้อนกันแบบปลอดภัยหายห่วง ภายใต้แนวคิด Food Fun Friends งานดีๆ ที่จะทําให้ทุกคนและเพื่อนซี้มา #ชิลล์ไม่มีพัก ตลอด 9 คืน ติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook: Changworld และLine: @ChangworldTH

 

 

 

 

“ฤกษ์ดี” SUN ทำพิธีบวงสรวงตั้งศาลเจ้าที่ เสริมมงคลแก่ธุรกิจ

 

นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยทีมผู้บริหาร และ พนักงาน บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ร่วมทำพิธีบวงสรวงเจ้าที่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นสิริมงคล และถ่ายภาพร่วมกัน ณ ไร่ตะวันหวาน ตำบลทุ่งปี้ อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่

ในการเตรียมพื้นที่ 1,007 ไร่โครงการขยายพื้นที่สำหรับรองรับการปลูกข้าวโพดหวาน และพืชผลทางการเกษตรอื่น ๆ พร้อมประกาศแผนขับเคลื่อนธุรกิจข้าวโพดหวาน มั่นใจในการลงทุนโครงการดังกล่าวจะช่วยรองรับวัตถุดิบ และกำหนดทิศทางการจัดส่งได้เป็นอย่างดีในช่วง Low Season ที่หาวัตถุดิบได้ยาก ประกอบกับระยะทางจากไร่ตะวันหวาน ไปโรงงานงานมีระยะทางเพียง 15 กิโลเมตร ซึ่งไม่ไกลมาก วัตถุดิบจะยังคงความสด ใหม่หลังจากออกแปลงเพาะปลูก พร้อมเข้าสู่กระบวนการผลิต ยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้บริษัทจะใช้พื้นที่ “ไร่ตะวันหวาน” ดังกล่าวเป็นโมเดลธุรกิจต้นแบบให้กับเกษตรกรในเครือข่าย จะมุ่งเน้นและส่งเสริมการพัฒนา นวัตกรรมการเกษตรเพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่างการพัฒนาการเกษตรกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ สร้างกลไก การพัฒนาใหม่ให้แก่การเกษตรกร ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจของ SUN ได้อย่างก้าวกระโดด

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดกิจกรรมสร้างสีสัน “ตรุษจีนแห่งความรัก” มอบอั่งเปา เที่ยวเป็นคู่ รับส่วนลด 50% พร้อมเชิญชม “เสือโคร่งขาว” หนึ่งในสัตว์เทพของชาวจีนโบราณ

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดกิจกรรมสร้างสีสัน “ตรุษจีนแห่งความรัก” มอบอั่งเปา เที่ยวเป็นคู่ รับส่วนลด 50% พร้อมเชิญชม “เสือโคร่งขาว” หนึ่งในสัตว์เทพของชาวจีนโบราณ

สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดกิจกรรมสร้างสีสันวันตรุษจีน 2564 ขึ้น ในบรรยากาศงาน “ตรุษจีนแห่งความรัก” เชิญชวนถ่ายภาพกับจุดถ่ายภาพแห่งความรักนิรันดร์ พร้อมแจกอั่งเปา ส่วนลด 50% ให้กับนักท่องเที่ยวคู่รัก หรือคู่ซี้ ที่แต่งกายเหมือนกัน และเชิญชม “เสือโคร่งขาว” หนึ่งในสัตว์เทพตามความเชื่อของชาวจีนโบราณ
นายเบญจพล นาคประเสริฐ กรรมการบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงนคร เปิดเผยว่า เนื่องจากวันตรุษจีนถือเป็นวันสำคัญของชาวจีน เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจึงจัดกิจกรรมต้อนรับเทศกาลตรุษจีน 2564 และสร้างสีสันในบรรยากาศ “ตรุษจีนแห่งความรัก” ให้กับทุกคู่รัก หรือคู่ซี้ ที่แต่งกายหรือใส่เสื้อเหมือนกัน รับอั่งเปาส่วนลด 50% เพียงถ่ายรูปเช็คอินที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ระหว่างวันที่ 12 – 14 กุมภาพันธ์ 2564 โดยคู่นักท่องเที่ยว 3 คู่แรก ในแต่ละวัน จะได้รับของขวัญพิเศษจากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นเสื้อ I Love Chiang Mai Night Safari และตุ๊กตาเสือโคร่งขาว จำนวน 1 ตัว พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมบันทึกภาพในจุดถ่ายภาพแห่งความรักนิรันดร์ ที่ตกแต่งด้วยดอกไม้สีแดง และคำอวยพรในภาษาจีน “百年好合” (ป่าย – เหนียน – ฮ่าว – เฮ๋อ) ซึ่งมีความหมายว่า “รักกันยาวนาน/ รักกันตลอดไป” เพื่ออวยพรให้ผู้ที่มาถ่ายภาพในจุดถ่ายภาพนี้สมหวังในความรักและมีความรักที่เป็นนิรันดร์ โดยจุดถ่ายภาพได้จัดตกแต่งไว้บริเวณประตูทางเข้าเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาเก็บภาพความประทับใจ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายตลอดเดือนกุมภาพันธ์
นอกจากนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเชิญชม “เสือโคร่งขาว” (White Bengal Tiger) สัตว์ป่าที่หาพบได้ยากในธรรมชาติ หนึ่งในสี่สัตว์เทพศักดิ์สิทธิ์ 4 ตน คือ เสือขาว, มังกรเขียว, หงส์แดง และเต่าดำ ตามความเชื่อของชาวจีนโบราณ ซึ่งเสือขาวเป็นสัตว์เทพที่จะประจำอยู่ทิศตะวันตก เป็นเทพแห่งสงครามและการต่อสู้ เป็นสัญลักษณ์ของการปกป้องและคุ้มครอง คอยขับไล่ปีศาจ เป็นตัวแทนของอำนาจบารมีและความเคารพยำเกรงของสัตว์นักล่าทั้งมวล โดยเสือโคร่งเบงกอลและเสือโคร่งขาวนับเป็นเสือที่มีความเชื่องและดุร้ายน้อยที่สุด จนผู้เลี้ยงสามารถดูแลให้ความสนิทสนมได้อย่างใกล้ชิด และปัจจุบันเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี มีเสือโคร่งขาว จำนวน 28 ตัว (เพศผู้ 9 ตัว เพศเมีย 19 ตัว) โดยในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ เชิญนักท่องเที่ยวชมความสง่างามและความน่ารักของเหล่าครอบครัวเสือโคร่งขาวได้ ในกิจกรรม Tiger Show ซึ่งจัดแสดงในรอบเวลา 17.00 น., 18.15 น. และ 19.30 น.
ทั้งนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารียังคงเน้นย้ำมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด -19 อย่างต่อเนื่อง โดยนักท่องเที่ยวต้องลงทะเบียนจองการนั่งรถชมสัตว์ผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น https://faceticket.net/queues/night-safari/ จำกัดการเข้าชมเพียงรอบละ 300 คน และต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง พร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจคัดกรองก่อนการเข้าใช้บริการ รวมทั้งปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 อย่างเคร่งครัด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โทร. 053 – 999000 หรือ Line@ : nightsafari, Facebook: เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari

SUN รุกเดินหน้าก่อสร้าง Mini Factory ขยายตลาดสินค้าในประเทศเต็มรูปแบบ

SUN รุกเดินหน้าก่อสร้าง Mini Factory ขยายตลาดสินค้าในประเทศเต็มรูปแบบ

(22 ธ.ค. 63) นายสนิท ศรีสุวรรณ กรรมการบริหาร ผู้แทน บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ลงนามสัญญาการก่อสร้างโครงการอาคารผลิตขนาดเล็กสำหรับสินค้าพร้อมทาน ร่วมกับ นายพิชาญ ด่านกิจยิ่งยง กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.ซี.เอ.เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ผู้รับเหมางานโครงสร้างและงานสถาปัตยกรรม และ นายอรุณ บุญฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริปเปิล พี เอ็นจิเนียริ่ง โซลูชั่น จำกัด ผู้รับเหมางานระบบสุขาภิบาล งานเครื่องกล และ ระบบไฟฟ้า เพื่อยกระดับทั้งด้านคุณภาพและปริมาณการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยบริษัทฯ ได้มอบหมายให้นายณรงค์ศักดิ์ ตามสุนทรพานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัทอาร์ชิแพลน จำกัด เป็นผู้บริหารและควบคุมงานก่อสร้าง ร่วมดูแลและให้คำแนะนำตลอดการดำเนินโครงการ ซึ่งมีระยะเวลาก่อสร้าง 4 เดือน สำหรับอาคารขนาด 1,440 ตารางเมตร เพื่อรองรับการผลิตที่ถูกสุขลักษณะและถูกต้องตามระบบคุณภาพมากยิ่งขึ้น และตอบสนองความต้องการสินค้าพร้อมทานจากลูกค้าที่มีปริมาณสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด หลังจากโครงการแล้วเสร็จจะส่งผลให้มีกำลังการผลิตสินค้าพร้อมรับประทานถึง 100,000 ชิ้นต่อวัน

โครงการอาคารผลิตขนาดเล็กสำหรับสินค้าพร้อมทาน ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าของพืชผลทางการเกษตร โดยนำมาผลิตเป็นสินค้าพร้อมทานเพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค ภายใต้แบรนด์ KC ที่หลากหลายมากกว่าเดิม คาดว่าในระยะ 3-5 ปี บริษัทฯ จะมียอดขายสินค้าพร้อมทานประมาณ 500-1,000 ล้านบาทต่อปี

ธ.ก.ส.ก้าวสู่ปีที่ 55 ร่วมพัฒนาชนบทไทยให้ยั่งยืน​ “Better Life Better Community Better Pride”

ธ.ก.ส.ก้าวสู่ปีที่ 55 ร่วมพัฒนาชนบทไทยให้ยั่งยืน​ “Better Life Better Community Better Pride”

ธ.ก.ส.ก้าวสู่ปีที่55 ก้าวข้ามวิกฤตเศรษฐกิจและ COVID-19 มุ่งสู่เป้าหมายการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ชุมชนที่ดีและความภาคภูมิใจในอาชีพเกษตรกรรม ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ “เป็นธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน มุ่งสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชนบท”โดยประสานเครือข่ายภาครัฐภาคเอกชน สถาบันศึกษาเติมความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรมและการตลาด สร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ

นายภูมิ เกลียวศิริกุล ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนบน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เปิดแถลงข่าวถึงผลการดำเนินงานของฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนบนที่ดูแลรับผิดชอบในพื้นที่ 8 จังหวัด ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 จนถึงปัจจุบัน ได้ดำเนินโครงการและมาตรการเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรและประชาชนทั่วไปตามนโยบายของธนาคารและรัฐบาล ดังนี้
1. มาตรการช่วยเหลือด้านภาระหนี้สิน เพื่อลดภาระและผ่อนคลายความกังวลในช่วงวิกฤต ให้สามารถดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพได้อย่างต่อเนื่อง โดยการปรับปรุงโครงสร้างการชำระหนี้ (Loan Review) ให้สอดคล้องกับที่มาของรายได้ และการพักชำระหนี้ต้นเงินและดอกเบี้ยเงินกู้ทั้งระบบเป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่งวดเดือนเมษายน 2563 ถึงงวดเดือนมีนาคม 2564 โดยมีเกษตรกรลูกค้า สหกรณ์ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนได้รับประโยชน์กว่า 1.8 แสนราย วงเงินที่ได้รับพักชำระหนี้กว่า 40,000 ล้านบาท และมาตรการชะลอการชำระหนี้แก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ SMEs (Loan Payment Holiday) ที่มีหนี้กับธนาคารไม่เกิน 100 ล้านบาท ให้ชะลอการชำระหนี้ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ย เป็นเวลา 6 เดือนโดยอัตโนมัติ ตั้งแต่ 23 เมษายน 2563 ถึง 22​ ตุลาคม 2563 และปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศขยายระยะเวลาต่ออีก 6 เดือน ไปสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2564 มีผู้ประกอบการได้รับความช่วยเหลือจำนวน 1,259 ราย เป็นเงินกว่า 1,000 ล้านบาท

2. มาตรการสนับสนุนสินเชื่อ เพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ ลดปัญหาการว่างงาน กระตุ้นกลไกการซื้อขายผลผลิตทางการเกษตร ได้แก่

2.1 โครงการสนับสนุนสินเชื่อธุรกิจ SME โดยใช้ Soft Loan ธปท. อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี ซึ่งมีเกษตรกร ผู้ประกอบและวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ใช้สินเชื่อ จำนวน 2,131 ราย วงเงินกู้
กว่า 2,100 ล้านบาท

2.2 โครงการสินเชื่อฉุกเฉิน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและครอบครัวบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายจำเป็นและฉุกเฉินภายในครัวเรือน วงเงินกู้รายละไม่เกิน 10,000 บาท โดยไม่ต้องมีหลักประกัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.1 ต่อเดือน กำหนดชำระคืนไม่เกิน 2 ปี 6 เดือน นับจากวันกู้ และปลอดชำระคืนต้นเงินและดอกเบี้ยใน 6 เดือนแรก มีเกษตรกรและครอบครัวลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านระบบ LINE Official BAAC Family โดย ธ.ก.ส.ทำสัญญาผ่านระบบอิเลคทรอนิคส์ เพื่ออำนวยความสะดวกและเป็นไปตามมาตรการรักษาระยะห่างในช่วง Covid-19 โดยจ่ายสินเชื่อไปแล้วจำนวน 65,646 ราย วงเงินกู้กว่า 650 ล้านบาท 2.3 มาตรการสินเชื่อผ่อนปรนเพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่เกษตรกรและผู้ที่สนใจ จำนวน 3 โครงการ เพื่อรองรับเกษตรกรหรือทายาทเกษตรกร หรือNew Gen ที่ประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจและโรคโควิด 19 ที่กลับภูมิลำเนาเพื่อประกอบอาชีพเกษตรและอาชีพอื่น ธนาคารจึงมีโครงการรับเกษตรกรรุ่นใหม่ควบคู่กับการพัฒนาให้เป็น Smart farmer โดยการสนับสนุนสินเชื่อผ่อนปรน ผ่านโครงการต่าง ๆ ดังนี้
1) โครงการสินเชื่อพอเพียงเพื่อเลี้ยงชีพ (Sufficient Loan) วงเงินรวม 10,000 ลบ. เดือนที่ 1- 3 คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 0 ต่อปี เดือนที่ 4 เป็นต้นไปคิดดอกเบี้ยในอัตรา MRR
2) โครงการสินเชื่อ New Gen Hug (ฮัก) บ้านเกิด วงเงินรวม 60,000 ลบ. เดือนที่ 1- 3 คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 0 ต่อปี เดือนที่ 4 เป็นต้นไปคิดดอกเบี้ยในอัตรา MRR
3) โครงการสินเชื่อระยะสั้นฤดูการผลิตใหม่ (Jump Start Credit) วงเงินรวม 100,000 ลบ. ปีที่ 1 คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 4 ต่อปี ปีที่ 2 เป็นต้นไปคิดดอกเบี้ยในอัตราปกติ

3. มาตรการช่วยเหลือของรัฐผ่านระบบ ธ.ก.ส. ได้แก่ การจ่ายเงินชดเชยรายได้สำหรับผู้ประกอบการ​ อาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 “เราไม่ทิ้งกัน” ของกระทรวงการคลัง (พฤษภาคม – กรกฎาคม 2563) ซึ่งผลการดำเนินงาน จ่ายเงินผ่านระบบ ธ.ก.ส. ไปยังผู้ใช้สิทธิ์ที่ลงทะเบียนในโครงการกว่า 2.7 ล้านราย​ เป็นเงินกว่า 43,015 ล้านบาท โครงการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกร รายละ 15,000 บาท โดยจ่ายเดือนละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน จำนวน 771,032 ราย จำนวนเงิน 11,518.81 ล้านบาท และจ่ายเงินโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 ให้เกษตรกรชาวสวนล าไยอัตราไร่ละ 2,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่​เป็นจำนวนกว่า 175,000 ราย เป็นเงินกว่า 2,200 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ตามโครงการประกันรายได้เกษตรกร ในสินค้าเกษตร 5 ชนิดประกอบด้วย ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ยางพาราและ ปาล์มน้ำมัน ในส่วนของการประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวนาปี ได้มีการโอนเงินชดเชยส่วนต่าง งวดที่ 1 รวม 2 รอบให้แก่เกษตรกรแล้ว จำนวน 203,978 ราย เป็นเงินกว่า 1,028 ล้านบาท และจะทยอยโอนเงินชดเชยตามภาวะราคาพืชแต่ละชนิดตามช่วงเวลาที่กำหนดต่อไป

ทั้งนี้ธนาคารยังได้ดำเนินโครงการประกันภัยพืชผล เพื่อจัดการความเสี่ยงด้านการผลิตให้กับเกษตรกร โดยร่วมกับบริษัทประกันภัยเอกชน ประกันภัยพืชผลให้กับผลผลิตลำไย ข้าวโพด ข้าว เพื่อสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้เกษตรกร

นายภูมิ กล่าวอีกว่าในโอกาสใกล้วาระดิถีขึ้นปีใหม่ ธ.ก.ส.ได้เตรียมของขวัญปีใหม่ให้กับเกษตรกรลูกค้าที่ช าระหนี้ได้ดีอีก 2 โครงการคือ โครงการชำระดีมีคืน สำหรับลูกค้าเกษตรกรและบุคคล จะได้รับคืนดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระ ไม่เกินรายละ 5,000 บาท และลูกค้ากลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกรสหกรณ์ นิติบุคคล กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จะได้รับคืนดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราร้อยละ 10 ของดอกเบี้ยที่ชำระ ไม่เกินรายละ 50,000 บาท และโครงการลดภาระหนี้สำหรับลูกค้าที่มีหนี้ NPL หรือมีดอกเบี้ยค้างช าระเกิน 15 เดือน คืนดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ​20 ของดอกเบี้ยที่ลูกค้าชำระได้ ส าหรับลูกค้ากลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกรสหกรณ์ นิติบุคคล กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง คืนดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 10 ของดอกเบี้ยที่ชำระได้ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 เท่านั้น จึงขอฝากประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าว ถึงพี่น้องเกษตรกรและประชาชนทั่วไปให้รับทราบ​ หากสนใจสามารถ สอบถามข้อมูลได้ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมทั้งรับทราบข่าวสารทางสื่อออนไลน์ต่างๆไม่ว่าจะเป็น LINE Official : BAAC Family หรือทาง Facebook BAAC Thailand ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย สถาบันการเงินไทยแห่งแรกที่คว้ารางวัล ‘AsiaRisk Awards 2020 Winner:Thailand house of the year’

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย

สถาบันการเงินไทยแห่งแรกที่คว้ารางวัล

‘AsiaRisk Awards 2020 Winner:Thailand house of the year’

ธุรกิจบริหารเงิน (Treasury & Markets) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทยนำทีมโดยเพา จาตกานนท์(กลาง) รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจบริหารเงินภูดินันท์ เศรษฐนันท์(ที่2จากซ้าย)ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ พัฒนาผลิตภัณฑ์การเงิน และสมชาย ยงกฤตยา (ขวาสุด) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารความเสี่ยงด้านตลาด ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทยได้รับรางวัล‘AsiaRisk Awards 2020 Winner:Thailand house of the year’จัดโดยAsiaRisk Magazineรางวัลนี้มอบให้สถาบันเงินที่แสดงความสามารถในการนำตราสารอนุพันธ์มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในตลาดการเงิน และการบริหารความเสี่ยง และการลงทุนให้เหมาะสมกับภาวะตลาด ควบคู่ไปกับแสดงความพร้อมของระบบงานการบริหารความเสี่ยงภายในองค์กร โดยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เป็นสถาบันการเงินไทยแห่งแรกที่ได้รับรางวัลนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจของธนาคาร และสถาบันการเงินของไทย ในการคว้ารางวัลอันมีชื่อเสียงที่สุดสำหรับ องค์กร และบุคคลผู้เกี่ยวข้องกับตลาดอนุพันธ์ของเอเชียและการบริหารความเสี่ยง

1.เสริมศักดิ์ อ่อนสมา
ผู้บริหารพัฒนาธุรกิจและกลยุทธ์

2.ภูดินันท์ เศรษฐนันท์
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ พัฒนาผลิตภัณฑ์การเงิน

3.เพา จาตกานนท์
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจบริหารเงิน

4.ศรินทร สุรี
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ การตลาดผลิตภัณฑ์การเงิน

5.สมชาย ยงกฤตยา
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารความเสี่ยงด้านตลาด

Muzik Move และ Warmup cafe ร่วมมือกันครั้งแรก กับ เทศกาลดนตรีกลางหุบเขา ลมหนาว และธรรมชาติแบบ 360 องศา “Leo Present ม่อนจ็อดเฟส”

Muzik Move และ Warmup cafe ร่วมมือกันครั้งแรก กับ เทศกาลดนตรีกลางหุบเขา ลมหนาว และธรรมชาติแบบ 360 องศา “Leo Present ม่อนจ็อดเฟส”

ภายในงานนอกจากธรรมชาติที่โอบล้อม รับพลังกันแบบเต็มที่แล้ว ยังจัดเต็มด้วยกิจกรรมอีกมากมาย ทั้ง ศิลปินจัดเต็ม 3 เวที, ตลาด Cheeze Market, Food Truck ที่นำร้านชั้นนำทั่วเชียงใหม่ มาไว้ที่นี่ และภายในงาน ยังมีลานกางเต็นท์ ให้ผู้ร่วมงานเข้าพักผ่อนสูดบรรยากาศให้เต็มปอด อีกด้วย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีด้วยการจำหน่ายบัตร Early Bird จำนวน 2,000 ใบ หมดภายในเวลาอันรวดเร็ว

ซึ่งกำหนดการเดิมของ ม่อนจ็อดเฟส คือวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม  แต่เมื่อวันที่  26  ตุลาคม  ทาง    กกต.ได้แจ้งการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด ในวันที่ 20 ธันวาคม ตามกฏหมายทำให้ทางผู้จัดงาน ไม่สามารถจัดงานและจำหน่ายเครืองดื่มแอลกอฮอร์ได้ จึงมีความจำเป็นจะต้องเลื่อนวันจัดงาน เนื่องด้วยเหตุสุดวิสัย ไปเป็นวันเสาร์ที่ 16 มกราคม โดยทางผู้จัดงานได้ให้ทางลูกค้าที่ซื้อบัตร, จองพื้นที่การเต็นท์ สามารถคืนเงินได้เต็มจำนวน รวมถึงลูกค้าที่จองที่พักหรือโรงแรมภายนอกงาน ทางผู้จัดอาสาจัดการเรื่องเลื่อนการเข้าพักให้อีกด้วย

ถึงแม้จะเลื่อนวันจัดงานแต่ศิลปินและกิจกรรมทุกอย่างยังคงเดิม โดย ม่อนจ็อดเฟส จะจัดที่สถานที่เดิม คือที่ ม่อนจ็อด ต. โป่งแยง อ. แม่ริม เชียงใหม่ แลนด์มาร์คแห่งใหม่ ที่ใกล้จะเปิดให้เข้าชม และอนุญาติให้จัดเทศกาลดนตรีแบบเต็มรูปแบบ เป็นครั้งแรกในเชียงใหม่ ศิลปิน จัดเต็ม 3 เวที คงเดิม

Hill Stage ศิลปินมาเเรงเเห่งปี ที่จะให้คุณได้ตะโกนร้องตามไปกับเพลงฮิตสุดปัง.

Phum Viphurit                                                               Moderndog x Burin Boonvisut

Ink Waruntorn                                                              Zeal x Silly Fools

Bowkylion

 

Chill Stage เต็มอิ่มไปกับบรรยากาศลานจ๊อดการ์เด้นและเสียงเพลงแบบชิวๆ

Greasy cafe                                                                 Safe Planet

Telex Telexs                                                                Whal & Dolph

Yented                                                                         Biw Jaroonwit x Jesse Mek

Zommarie

 

Moon Stage ดาวเต้นต้องเวทีนี้ เต้นกันให้ภูเขาสะเทือน ไปกับดีเจมากมาย ที่อัดแน่นกันแบบยาวๆ

DJ Roxy June x MC Ling Of King                                 DJ Nengnoi

DJ Gail Werner x MC Ben10                                        DJ Koala

DJ Shockko                                                                 DJ Scoobydoo

DJ Underrated

 

ทางทีมงานผู้จัดงานมีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้เทศกาลดนตรีครั้งนี้ออกมาให้ดีที่สุดหลังจากเหตุการณ์ เปลี่ยนแปลงอย่างสุดวิสัย แล้วเจอกัน วันที่ 16 มกราคม 2564 บัตรราคา 799 บาท                      ซื้อได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-11 ทุกสาขา ทั่วประเทศ และที่ร้าน วอร์มอัพคาเฟ่

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ FB FANPAGE : MONJODDFEST

CSE จับมือ แม่โจ้ และ บัวขาว ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2563 บริษัท เชียงใหม่วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด หรือ CSE ร่วมกับ ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเห็ดป่าแม่โจ้ นำโดย ดร. สุมิตร อธิพรหม และ ดร.สุดเขต สกุลทอง ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ สืบสานประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงาม ส่งมอบกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ จากโครงการการเพิ่มมูลค่าใบตองตึงเพื่อลดเชื้อไฟ สลายฝุ่นควันและทดแทนพลาสติก ให้ร้อยตรี สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และสนับสนุนให้คนไทยร่วมกันลอยกระทงอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ณ บัวขาว วิลเลจ จังหวัดเชียงใหม่

ดร.สุมิตร อธิพรหม กล่าวว่า สืบเนื่องจากปัญหาฝุ่นควันในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสาเหตุหนึ่งเกิดจากใบตองตึงแห้งที่ทับถมกันเป็นเชื้อไฟในช่วงฤดูแล้งและทำให้เกิดไฟป่า CSE และศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเห็ดป่าแม่โจ้ คณะผลิตกรรมการเกษตรมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่ จึงได้จัดทำโครงการการเพิ่มมูลค่าใบตองตึงเพื่อลดเชื้อไฟ สลายฝุ่นควันและทดแทนพลาสติกขึ้น เพื่อเป็นการพัฒนา “เพิ่มมูลค่าใบตองตึง ลดเชื้อไฟ สลายฝุ่นควัน”

ด้านบัวขาว ก็เชิญชวนให้เลือกลอยกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เพื่อย่อยสลายได้ง่าย ซึ่งกระทงที่ทำจากใบตองตึงนี้ จะเป็นการช่วยเปลี่ยนเชื้อไฟ เป็นรายได้ให้แก่คนในชุมชน และช่วยลดขยะจากพลาสติกได้

มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้เล็งเห็นประโยชน์จากการนำใบไม้และวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรมาขึ้นรูปภาชนะ จึงได้สนับสนุนและจัดทำโครงการนี้ขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพแก่ชาวบ้านในชุมชนให้มีรายได้ และยังเป็นการช่วยกันดูแลพื้นที่ในชุมชนเพื่อการไม่ให้เกิดไฟป่าอีกด้วย ดร.สุดเขต กล่าวทิ้งท้าย

“การจัดทำแผนที่การใช้ประโยชน์ที่ดินตามหลักการอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เพื่อชุมชนยั่งยืน”บ้านแม่จอนอุทยานศรีลานนา

“การจัดทำแผนที่การใช้ประโยชน์ที่ดินตามหลักการอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เพื่อชุมชนยั่งยืน” ในพื้นที่ชุมชนป่าต้นน้ำบ้านแม่จอน ถือเป็นหนึ่งตัวอย่างความร่วมมือของทุกฝ่าย ในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของราษฎรที่อยู่ในพื้นที่ป่าในเขตอุทยานศรีลานนา
ตั้งแต่การสำรวจ รับฟังความคิดเห็น การออกแบบการใช้ประโยชน์พื้นที่ตามหลักการอนุรักษ์ดิน และน้ำ ตลอดจนการพัฒนาอาชีพที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ เพื่อให้ชุมชนสามารถอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืนต่อไป

https://www.facebook.com/safethainature/videos/363508184704469/http://

“ซันสวีท” รุกเข้ม เปิดตัว ไอศกรีมข้าวโพดหวาน เสิร์ฟความสดชื่น

 

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2563 บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวาน ภายใต้ตราสินค้า KC ร่วมเป็นพันธมิตรในการทำธุรกิจด้านไอศกรีมกับ บริษัท กู๊ด ดริ้งค์ 2018 จำกัด ผู้ผลิตไอศกรีมระดับพรีเมี่ยม เร่งเครื่องเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “ไอศกรีมข้าวโพดหวาน” รสชาติหวานละมุน กลมกล่อมด้วยเนื้อสัมผัสข้าวโพดหวาน

นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในการแปรรูปข้าวโพดหวานสู่ผลิตภัณฑ์ ข้าวโพดหวานกระป๋อง ข้าวโพดหวานบรรจุถุงสุญญากาศ และข้าวโพดหวานแช่แข็ง ซึ่งจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ และในส่วนของตลาดในประเทศ ได้วางจำหน่ายสินค้าพร้อมรับประทาน (ready to eat) ตราสินค้า KC หลายชนิด ผ่านร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ ได้แก่ ข้าวโพดหวาน ถั่วลายเสือ มันหวานญี่ปุ่นเผา และมันม่วงญี่ปุ่นเผา ซึ่งได้ผลตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี และยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้บริษัทมีแผนการขยายตลาดให้กว้างขึ้น และนำสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด รวมถึงมองหาช่องทางการขายให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคทุกกลุ่ม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลายหลาก จึงได้ทำการต่อยอดธุรกิจแปรรูปเป็นไอศกรีมข้าวโพดหวาน คาดว่าจะสามารถขยายตลาดในประเทศและเพิ่มรายได้มากขึ้น เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคสามารถรับประทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยมีแผนจัดจำหน่ายในเขตพื้นที่ภาคเหนือเป็นที่แรก ใน Super Market และร้านอาหาร ชั้นนำ

ทั้งนี้ได้ร่วมมือกับ บริษัท กู๊ด ดริ้งค์ 2018 จำกัด ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ผู้ผลิตไอศกรีม ที่มีนวัตกรรมและกระบวนการผลิตที่ทันสมัย ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP ในขั้นตอนการผลิตใช้อุปกรณ์ที่สะอาดปลอดภัย โดยจะผลิตไอศกรีมข้าวโพดหวาน ตราสินค้า KC จัดเต็มถึง 4 รสชาติ (ไอศกรีมนมรสข้าวโพดหวาน ไอศกรีมนมผสมข้าวโพดหวาน ไอศกรีมนมรสข้าวโพดหวานราดคาราเมล และไอศกรีมนมรสข้าวโพดหวานผสมชีส) ผู้บริโภคจะได้รับประทานไอศกรีมข้าวโพดหวานที่คัดสรรมาพิเศษ หอม หวาน มัน เข้มข้น อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณประโยชน์ และมีใยอาหารสูง เอาใจคนชอบทานข้าวโพดหวาน ทั้งไอศกรีมในรูปแบบถ้วยและแบบแท่ง

การผสานความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านของสองธุรกิจเข้าด้วยกัน จะเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยพัฒนาต่อยอดสินค้าข้าวโพดหวานให้มีความหลายหลายมากยิ่งขึ้น สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบข้าวโพดหวาน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ในระยะยาวต่อไป