สังคม » คุณหญิงสุดารัตน์ เปิดตัวว่าที่่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ 9 เขต

คุณหญิงสุดารัตน์ เปิดตัวว่าที่่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ 9 เขต

12 ธันวาคม 2018
866   0

Spread the love

ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมาคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางจากที่ทำการสาขาพรรคเพื่อไทย ถนนลอยเคราะห์ ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ได้เดินทางไปที่โรงแรมสเตย์ วิช นิมมานด์ ถนนสิริมังคลาจารย์ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อไปพบปะกับกลุ่มสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว และสมาคมโรงแรม เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดและรับทราบปัญหาต่างๆของการท่องเที่ยว โดยนำกลุ่มว่าที่ผู้สมัคร สส.เชียงใหม่ทั้ง 9 เขตไปร่วมร่วมฟังปัญหาด้วย โดยมีการใช้เวลาพูดคุยร่วม 2 ชั่วโมง ก็เดินทางต่อมายังสถานที่จัดงานเชียงใหม่ ดีไซน์ วีค ที่หอศิลปกรรมท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ดูงานออกแบบและร่วมสินค้าเสื้อผ้าชาวเขา ซึ่งภายในงานมีการสาธิตทำ” ตาแหลว”ไม้ไฝ่สาน โดยทางชนเผ่่าหรือคนล้านนา ถือว่าเป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่งที่ป้องกันสิ่งชั่วร้ายและสิงอัปมงคลที่จะเข้ามาในบ้านหรือหมู่บ้าน ซึ่ง คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ทดลองทำ โดยพูดในเชิงทีเล่นทีจริงว่าจะนำตาแหลว ไปไว้ที่หน้าพรรคเพื่อป้องกันสิ่งไม่ดีจะเข้ามาสู่พรรค


จากนั้นได้พาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ทั้ง 9 เขตมาไหว้อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เพื่อขอพรให้พรรคมีแต่ความร่มเย็นและ ส.ส.เพื่อไทยที่เชียงใหม่ ยกทีม โดยมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเข้ามาทักทาย คุณหญิงสุดารันต์ พร้อมพากันถ่ายรูป จากนั้นทาง คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังจากที่ได้พบปะกับกลุ่มสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว และสมาคมโรงแรม ได้ประโยชน์มากเพราะเชียงใหม่เป็นอันดับหนึ่งจากการท่องเที่ยวโดยมีการรับฟังถึงปัญหาด้านการท่องเที่ยวที่ลดลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่ลดลงไปถึง 60 เปอร์เซ็นทำให้เกิดผลกระทบในวงกว้างตั้งโรงแรม เกรสเฮ้าน์ โฮมสเตย์ จนไปถึงผู้ทำอาหารขายเล็ก นักท่องเที่ยวโดยรวมของประเทศลดลงไปถึง 4 ล้านคนทำให้รายได้หายไปหลายหมื่นล้านบาท หลังจากสถานการณ์เรือล่มที่ภูเก็ตการบริหารจัดการของเราที่ไม่สามารถกู้ภัยได้ทันท่วงทีรวมทั้งมีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่เข้าใจใช้คำพูดที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจกับรัฐบาลและผู้ท่องเที่ยวชาวจีน ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงจึงเกิดปัญหาหลักขึ้นมา ดังนั้นจะต้องสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนและทั่วโลกในเรื่องของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เรื่องของมาตรฐานต่างๆจึงต้องมีความมั่นใจให้เป็นวาระแห่งชาติ ว่านักท่องเที่ยวที่มาเมืองจะมีความมั่นใจในเรื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจะสร้างสิ่งเหล่านี้ให้ได้

ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงเรื่องการเมือง ข้อห่วงใยของพรรคการเมืองต่างๆที่กังวลอยู่กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บัตรเลือกตั้งจะไม่มีการให้ใส่โลโกพรรค ชื่อพรรคลงไปในบัตรเลือกตั้ง ซึ่งพรรคเพื่อไทยมองดูเรื่องนี้ อย่างไรคุณหญิงสุดารัตน์ ได้ให้ความเห็นว่าในเรื่องนี้ไม่ใช้เฉพาะพรรคเพื่อไทยพรรคเดียว ประชาชนเองก็มองเห็นเป็นเรื่องตลกไปแล้วว่าตกลงมันคืออะไร การเลือกตั้งมันเป็นการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยในรัฐธรรมนูญก็กำหนดให้บุคคลที่จะลงสมัครเลือกตั้งต้องสังกัดพรรคในนิยามความหมายหรือเป้าหมายก็คือว่าพรรคการเมืองต้องรับผิดชอบต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งก็คิดคนที่ดีในการลงสมัครรับเลือกตั้งและถ้าคนนั้นไปแสดงพติกรรมที่ไม่ดีพรรคต้องรับผิดชอบตามนิยามความหมายและตามกฎหมายด้วย แต่ถึงเวลาแล้วในบัตรเลือกตั้งไม่มีชื่อพรรค ไม่มีโลโก้พรรค เป็นใครอะไรก็ได้มันขัดกันไปหมดไม่เห็นถึงแนวทางการปฎิรูปให้การเมืองมันดีขึ้น นอกจากเห็นแต่สิ่งที่พยายามจะเอารัดเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นๆให้มากที่สุดไม่คำนึงว่าหลักเกณฑ์ที่จะทำนั้น มันไม่ถูกหลักเกณฑ์มันไม่มีหลักเกณฑ์ด้วยซ้ำไปไม่หลักเกณฑ์และยังบิดเบี้ยวไปจากหลักเกณฑ์ในปกติ หรื่อจากที่สากลเขาทำ มันไม่ใช่การเลือกตั้งครั้งแรกในโลก ในโลกเลือกตั้งมาไม่รู้เท่าไหร่แล้วเป็นหลายๆร้อยปีแล้ว หลักการมันมีอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันมีความพยายามที่จะทิ้งหลักเกณฑ์ทิ้งหลักการอะไรก็ได้ที่จะเอารัดเอาเปรียบ มันไม่มีประโยชน์ ไม่ให้ใส่ชื่อพรรคไม่ให้ใส่โลโก้พรรค ถ้าอย่างนี้ก็กลายเป็นว่าระบบพรรคการเมืองทีบอกว่าพรรคการเมืองต้องมีคุณภาพในการกำกับควบคุมตัว ส.ส.ตัวนักการเมืองที่เลือกมาก็ไม่ได้มีความหมายอะไร ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ กกต.ไม่ควรอยู่ใต้อำนาจของ คสช. เราต้องเรียกร้องเกียรติยสศักดิ์ศรีและความกล้าหาญของ กกต. ซึ่งอยากจะให้กำลังใจ กกต. และเรียกร้องถึงการรักษาเกียรติยศศักดิ์ศรีและก็อำนาจหหน้าที่ที่จะจัดการเลือกตั้งให้บริสุุทธิ์ยุติธรรมปราศจากการซื้อเสียงปราศจากการใช้อำนาจรัฐ การที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีคำสั่งปกาศิตบอกว่าห้ามใส่ชื่อพรรค และกกต.ทำตาม มันเป็นสิ่งที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง อันนี้ก็ต้องฝากด้วยและฝากประชาชนรณรงค์ให้มีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ช่วยกันเรียกร้อง แค่ขอการเลือกตั้งที่ปราศจากการซื้อเสียง ขอแค่การเลือกตั้งที่ปราศจากการใช้อำนาจรัฐ การโกงการเลือกตั้ง แค่นี้ก็จะเป็นผลดีต่อประเทศแล้ว

“ความจริงน่าจะเป็นเบอร์เดียวทั้งประเทศ แต่ไปเขียนให้สับสนมั่วๆเข้าไว้ ผลการเลือกตั้งจะได้คะแนนแตกกระจาย ก็กลายเป็น 1 เขต 1 เบอร์ลองคิดดู อย่างอยู่ที่กรุงเทพถนนลาดพร้าว มี 4 เขต ขับรถข้ามสะพานฝั่งซ้ายเป็นอีกเขต ฝั่งขาวเป็นอีก 1 เบอร์ ขับรถเลยไปอีกคลองก็เป็นอีกเบอร์ แล้วประชาชนจะสับสน หรือมีประโยชน์อะไร วันนี้เห็นผลแล้วของการทำแบบนี้ ก็มาอ้างแล้ว ไม่ทราบว่าเป็นแผนตั้งแต่ต้นหรือไม่ อยู่ในแผนโรดแมปหรือเปล่าที่จะให้มันวุ่นๆแบบนี้ ม.44 ใช้อะไรได้เยอะมาก ก็ลองใช้ ม.44ให้เขตเดียวเบอร์ทั่วประเทศ อันนี้ถือเป็นการส่งเสริมประชาธิปไตยพรรคเลือกคนประชาชนเลือกพรรค พรรคต้องรับผิดชอบต่อการกระทำทุกการกระทำ และพรรคก็พร้อมที่จะได้รับการตัดสินจากประชาชน แต่วันนี้สับสนปนเปไปหมด เอา ม.44 แบ่งเขตยังได้เลย ลองเอา ม.44 เขตเดียวเบอร์เดียวทั้งประเทศได้ไหม”คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าเห็นว่า อดีต กกต.ออกมาให้ความเห็นหากการเลือกตั้งครั้งนี้มันการฟ้องร้องมากที่สุด สุดท้ายอาจจะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะมันจะทำให้เสียเปล่า คุณหญิงสุดารัตน์ตอบว่า ไม่ทราบจะใช้คำพูดไหนแล้ว ต้องให้ประชาชนตัดสินใจกันเองแล้วกับสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ในวันที่กำลังจะคืนประชาธิปไตยและเกิดเหตุการณ์ที่มันไม่ได้พัฒนาประชาธิปไตยให้ดีขึ้นก็ฝากประชาชนให้ช่วยกันดู ส่วนที่จะมีการเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.นี้ในส่วนพรรคการเมืองเองก็อยากให้มีการเลือกตั้งอยู่ แต่ก็ไม่ทราบว่าจะมีเทคนิคแทรกติกอะไรอีกหรือเปล่า