สังคม » พรรคประชาชาติขึ้นเหนือจัดเวทีสัมนา “เรื่องการเมืองระบอบประชาธิปไตยกับสังคมพหุวัฒนธรรม” ที่จังหวัดเชียงใหม่

พรรคประชาชาติขึ้นเหนือจัดเวทีสัมนา “เรื่องการเมืองระบอบประชาธิปไตยกับสังคมพหุวัฒนธรรม” ที่จังหวัดเชียงใหม่

23 พฤศจิกายน 2019
731   0

Spread the love

พรรคประชาชาติขึ้นเหนือจัดเวทีสัมนา “เรื่องการเมืองระบอบประชาธิปไตยกับสังคมพหุวัฒนธรรม” ที่จังหวัดเชียงใหม่โดยมีประชาชนและกลุ่มชาติพันธ์ กว่า 300 คนเข้าร่วมงาน

เมื่อเวลา 08.30ป น.ถึง 12.00 น.วันที่ 23 พ.ย.นี้ ประชาชนชาวชียงใหม่ลำพูน และกลุ่มชนชาติพันธุ์ ประมาณ 300 คนเข้าร่วมสัมนา”เรื่องการเมืองระบอบประชาธิปไตยกับสังคมพหุวัฒนธรรม ขึ้นที่โรงแรมวินทรีซิตตี้ ตำบลช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ซึ่งเป็นเวทีระดับภาคเหนือโดยมีวิทยากรฝีปากกล้าหลายคนเข้าร่วมเสวนาและให้ความรู้กับประชาชนทีเข้ามาร่วมงาน โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ดร. ยุทธพล อิสระชัย สาขาภาควิชารัฐศาตร์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช ร้อยตำรวจเอก ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ นางสาวลักขณา ปันวิชัย (หรือคำผกา )และนักเขียนและพิธีกร และมีวิทยากรอีกหลายคนมาร่วมเวทีสัมมนาให้ความรู้กับสมาชิกพรรคและผู้มาร่วมงาน

ซึ่งการจัดงานครั้งนี้พรรคประชาชาติ จัดขึ้นเพื่อให้สมาชิกพรรคและประชาชนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยได้มีความรัก ความเข้าใจ ในมนุษยชาติและการอยู่ร่วมกัน พร้อมกันนี้เพื่อเป็นการสร้างความสมานฉันท์พร้อมกับมีการแลกเปลี่ยน แบ่งปันความรู้ ความคิดตลอดจนวัฒนธรรมให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจสังคมและเพื่อให้กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าและมีบทบาทมีสิทธิ์มีเสียงในเรื่องการเสนอความคิดแนวทางในการแก้ไขปัญหาการเมืองเพื่อให้เป็นระบอบประชาธิปไตย เนื่องจากภาคเหนือนั้นมีประชากรหลากหลายชาติพันธุ์ หลากหลายค่านิยม ตลอดจนวัฒนธรรม ซึ่งมีประชากรชาติพันธุ์จำนวนไม่น้อยยังประสบปัญหาในการดำรงชีวิตในสังคมประชาธิปไตย โดยเฉพาะการเข้าไม่ถึงสิทธิ์ประโยชน์ในสวัสดิการสังคมด้านต่างๆ และการขาดการมีส่วนร่วมทางการเมืองเนื่องจากไม่มีสัญชาติไทยและปัญหาอื่นๆอีกมากมายจึงได้ทำให้พรรคประชาชาติเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้

นายวันมูหะมัดนอร์มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เปิดเผยว่า โดยวันนี้เป็นกิจกรรมของพรรคประชาชาติโดยการสนับสนุนกับคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อมาให้มาพบปะกับสมาชิกพรรคการเมืองเพื่อความรู้เกี่ยวกับการเมืองและเศรษฐกิจให้กับประชาชนและสมาชิกเพื่อให้ประชาชนได้มีความรู้ซึ่งถือว่ามีประโยชน์มากโดยเนื่องจากได้ทำทุกภาคแล้วซึ่งพรรคได้มารายงานให้กับสมาชิกและประชาชนทราบว่าตั้งแต่ได้ตั้งพรรคและรับเลือกไปแล้วได้ทำอะไรไปบ้างรวมไปถึงรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนว่าต้องการให้ทางพรรคประชาชาติช่วยยเหลืออะไรบ้าง

นอกจากนี้แล้วหัวหน้าพรรคประชาชาติยังได้กล่าวปฐากถาพูดคุยกับพี่น้องประชาชนและสมาชิกพรรคประชาชาติขณะที่อยู่บนเวทีอีกว่าเขาในนามหัวหน้าพรรคถึงแม้จะเป็นพรรคฝ่ายค้านพรรคเล็กมีสมาชิกเพียง 7 คน แต่เมื่อเสนอปัญหาต่างๆขึ้นไปในสภาหลายฝ่ายก็ยังให้การตอบรับและฟังเสียงซึ่งตั้งแต่พรรคได้รับเลือกและเข้าไปบริหารประเทศจนถึงทุกวันนี้ก็พบว่ามีปัญหาใหญ่ที่ประเทศไทยประสบคือปัญหาประชาธิปไตยและปัญหาเศรษฐกิจที่ต้องเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน

ด้านพ.ต.อ.เอก ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เปิดเผยว่า กิจกรรมครั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกนำประชาธิปไตยกลับมาสู่บ้านเมืองรวมทั้งมาส่งเสริมประชาธิปไตย ให้กับกลุ่ม 70 ชาติพันธุ์ให้ทุกคนต้องมีสิทธิเท่าเทียมกันทุกวัฒนธรรมต้องมีโอกาสเข้าถึงประชาธิปไตยได้ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ โดยเฉพาะด้านกฎหมาย ไม่ใช่ง่อยเปลียเสียขา เพื่อให้ประชาชนตระหนัก ในระบอบประชาธิปไตยโดยคาดหวังเมื่อบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยแล้วประชาชนจะอยู่ดีกินดีขึ้น ในส่วน เป็น 1 ใน 7 พรรคการเมือง ฝ่ายค้านหลังนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถูกศาลไม่ให้ไปอยู่ในสภาไม่ได้เป็นก็ไม่มีผลต่อการเป็นการพรรคฝ่ายค้านเนื่องจากทางฝ่ายค้านก็มียุทธศาสตร์ร่วมอยู่แล้วอาจจะเข้มแข็งกว่าเดิม เพราะคุณธนาธร เนื่องจาก 6 ล้านคนเลือกคุณธนาธรแต่มาถูกออกมาจาก คน 5 คน แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเราก็จะทำให้กระแสในการที่จะทำให้บ้านเมืองมาสู่ประชาธิปไตยมีความเด่นชัดขึ้นและการทำงานของ 7 พรรคฝ่ายค้านก็ยังเป็นเอกภาพเช่นเดิม

ผู้สื่อข่าวได้ถาม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พันสภาพการเป็น ส.ส.จะส่งผลกระทบกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างไร พ.ต.อ.ทวี ตอบว่า 7 พรรคฝ่ายค้านเรามีอุดมการณ์ร่วมกันว่าเราจะทำเพื่อประชาชน เราจะะเอาสังคมไปสู่ประชาธิปไตย นายธนาธร เป็นนักต่อสู่เพื่อประชาชน การที่นายธนาธรได้โดนศาลไม่ให้เข้าไปอยู่ในสภาครั้งนี้ก็ไม่มีผลต่อทางพรรคฝ่ายค้านเพราะเรามียุทธศาสตร์ร่วมกันอาจจะทำให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น นายธนาธรก็เป็นตัวแทนคน 6 ล้านคนที่เลือกนายธนาธรเข้ามา การมาถูกตัดสินโดยคน 5 คนที่ไม่ได้มาจากประชาชน อันนี้จะเป็นเสียงสะท้อนไปสู่คนที่ต่อสู้โดยสันติวิธีด้วยประชาธิปไตย

ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์นายธนาธร เหมือนกับเป็นการเตือนบางอย่างให้กับฝ่ายค้าน พ.ต.อ.ทวี ให้ความเห็นว่าตนเห็นมาโดยตลอดเห็นว่าคนที่ต้องการสืบทอดอำนาจ แม้จะมีรัฐธรรมนูญฉบับนี้ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังต้องมีการแก้ไข เรื่องที่เกิดขึ้นกับนายธนาธร เราต้องให้กำลังใจนายธนาธร ที่สำคัญนายธนาธรเป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายธนาธรจะมีคนแบบคุณธนาธร เกิดขึ้นในประเทศไม่ใช่ธนาธรเดียว แต่ในขณะนี้มี 6 ล้านคนที่เลือกนายธนาธร แล้ว ต่อไปก็คงเป็น 60 ล้านคนที่จะเลือก อันนี้ก็เป็นสิ่งเร่งให้พรรคฝ่ายค้านนำมาเป็นบทเรียนว่าการที่จะไปสู่ประชาธิปไตยนั้น พรรคฝ่ายค้านต้องบเดินหาประชาชน หาเราไปเดินหาองค์อิสระ หรือรัฐราชการที่ถูกสถาปนาโดย คสช. อย่างน้อยเขาก็ไปรับใช้ผู้ที่จัดตั้งเขามา เป็นบทเรียนที่ดีที่เราจะนำมาปรับยุทธศาสตร์กัน