• แสนสิริ คาดอสังหาฯ เชียงใหม่ขยายตัวจากศักยภาพทำเล ขึ้นแท่นเมืองน่าอยู่ระดับ International จากการมีโรงเรียนนานาชาติมากเป็นอันดับ 2 ในไทยรองจากกรุงเทพฯ รั้งอันดับ 2 เมืองน่าอยู่ ติดอันดับ Top5 Best places for Expats และเมืองยอดนิยมของชาวต่างชาติวัยเกษียณ พร้อมแนวโน้มการเติบโตจากแผนเมกะโปรเจ็กต์ ทั้งสนามบินเชียงใหม่ 2 รองรับนักท่องเที่ยว 20 ล้านคนต่อปี และโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ – เชียงใหม่
• เดินหน้าตามโรดแมป Strategic Location ขยายโครงการอสังหาฯ ตามหัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในเชียงใหม่ รองรับการขยายตัวจากลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติที่มีดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
• ย้ำ “เชียงใหม่ต้องแสนสิริ” ลุยพัฒนาต่อเนื่อง 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 5,600 ล้านบาท ตอกย้ำความสำเร็จและความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริที่กลุ่มลูกค้าเชียงใหม่ให้ความไว้วางใจในคุณภาพโครงการ ดีไซน์ที่โดดเด่น พร้อมฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย ตลอดจนบริการดูแลหลังการขาย
• ล่าสุดเผยโฉม “เศรษฐสิริ รวมโชค” บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ วิวดอยสุเทพ ชูนวัตกรรมบ้านปลอดฝุ่น สู้ PM 2.5 และนวัตกรรมบ้านสีเขียวเพื่อการอยู่อาศัย ระดับราคา 20 – 35 ล้านบาท* กระแสสุดฮอต กวาดยอดจองทะลัก พร้อมเตรียมเปิดขายเฟสใหม่ต่อทันที จ่อคิวพรีเซลล์ 25 – 26 พ.ค.นี้
• ขณะที่ “อณาสิริ พายัพ” บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในโครงการเดียว ภายใต้แนวคิด “Feel Just Right ความพอดีที่ลงตัว” ตรงใจไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าชาวเชียงใหม่ ตอบรับล้น Sold out! ปิดการขาย 2 เฟสรวด รวม 50 ยูนิต เตรียมเปิดการขายต่อเนื่องในเฟสที่ 3 เดือน มิ.ย. นี้
• เผยจ่อคิวขายคอนโดใหม่จากแสนสิริ ทำเลใจกลางเมือง เพียง 200 ม.จาก เซ็นทรัล เชียงใหม่ สไตล์รีสอร์ทส่วนกลางครบทั้งสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิค 55 ม.และ Pet Yard พร้อมโอนคอนโดตึกสูงแห่งแรกจากแสนสิริในเชียงใหม่ “เดอะ เบส ไฮท์ เชียงใหม่” หนุนรายได้โตแข็งแกร่ง และดันยอดขายตลาดต่างจังหวัดตามเป้า 10,000 ล้านบาท
นายอาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงศักยภาพของจังหวัดเชียงใหม่ว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมา ภาพรวมเศรษฐกิจมีสัญญาณบวกที่เข้ามาสร้างบรรยากาศให้เชียงใหม่มีความคึกคัก ทั้งการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะเชียงใหม่ยังนับเป็นจุดหมายปลายทางที่
ชาวเกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง ชาวจีน และยุโรป เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและมีแนวโน้มการพักอาศัยระยะยาวเพิ่มมากขึ้น โดยมียอดจองโรงแรมเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีและยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลถึงดีมานด์การซื้อที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้น จากศักยภาพของเชียงใหม่ ที่นับเป็นเมืองน่าอยู่ระดับ International จากการมีโรงเรียนนานาชาติมากเป็นอันดับ 2 ในไทยรองจากกรุงเทพฯ รวมทั้งยังติดอันดับโผระดับอินเตอร์หลายรายการ อาทิ อันดับ 2 เมืองน่าอยู่ จาก Conde’ Nast Traveler ติด Top5 เมืองสำหรับ Expat จาก International living และเมืองยอดนิยมของชาวต่างชาติวัยเกษียณ และติดอันดับเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก จาก Travel & Leisure ประกอบกับแนวโน้มการเติบโตของเชียงใหม่ จากแผนเมกะโปรเจ็กต์ ทั้งสนามบินเชียงใหม่2 รองรับนักท่องเที่ยว 20 ล้านคนต่อปี และโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ รวมถึงจำนวนประชากรเชียงใหม่ที่เติบโตขึ้นต่อเนื่องในปี 2564 – 2566 และการเพิ่มขึ้นของจำนวนของชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในระดับ High Skill สะท้อนถึงความเชื่อมั่นและแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับแผนธุรกิจที่สำคัญของแสนสิริในปี 2567 เดินหน้าเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเติบโตสูงและมีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ชัดเจน ผ่านกลยุทธ์ Strategic Location โดยในปีนี้แสนสิริมีแผนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ตอบรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในเชียงใหม่รวม 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5,600 ล้านบาท ประกอบด้วยแนวราบ 2 โครงการและคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ครอบคลุมตอบรับเกือบทุกความต้องการ
“แสนสิริ นับเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยว จนถึงล่าสุดรวม 15 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนสะสมรวม 16,500 ล้านบาท สามารถพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้าครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ และเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำอสังหาฯ รายใหญ่ที่กลุ่มลูกค้าในเชียงใหม่ให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจในแบรนด์แสนสิริ คุณภาพโครงการ ดีไซน์ที่โดดเด่น พร้อมฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย ตลอดจนบริการดูแลหลังการขายกับทุกกลุ่มลูกค้า”นายอาณัติ กล่าว
รุกตลาดแนวราบ เปิด “เศรษฐสิริ รวมโชค” บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ วิวดอยสุเทพ ชูนวัตกรรมบ้านปลอดฝุ่น สู้ PM 2.5
ล่าสุด แสนสิริเปิดตัวบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี แบรนด์ เศรษฐสิริ ต่อยอดความสำเร็จจากการปิดการขายโครงการเศรษฐสิริ สันทราย ด้วยโครงการบ้านเดี่ยวใหม่ล่าสุด “เศรษฐสิริ รวมโชค” วิวดอยสุเทพ สไตล์ Modern Classic ที่เรียบง่ายแต่ยังคงมีความโดดเด่นและความร่วมสมัยในทุกรายละเอียด เป็น Timeless Design ที่จะอยู่เหนือกาลเวลาไปตลอดกาล โดดเด่นครบครันทุกฟังก์ชัน รวมถึงนวัตกรรมบ้านปลอดฝุ่น สู้ PM 2.5 และนวัตกรรมบ้านสีเขียวเพื่อการอยู่อาศัย ทั้งการติดตั้ง Solar Panel ให้กับบ้านทุกหลัง และ EV Charger รองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงยกระดับการอยู่อาศัยให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัย LIV-24 จากแสนสิริ ศักยภาพที่ตั้งอยู่ในทำเล “รวมโชค” ถือว่าเป็นย่านเศรษฐกิจศูนย์กลางเมืองแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ที่มีการเติบโตอย่างมาก มีการขยายตัวของศูนย์การค้าชื่อดังและพื้นที่ทางการค้า รวมถึงใกล้แหล่งสถานศึกษา ใกล้สถานพยาบาล และยังสามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ได้อย่างสะดวก
โครงการเศรษฐสิริ รวมโชค มีพื้นที่ขนาด 29 ไร่ จำนวนทั้งหมด 84 ยูนิต รูปแบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ราคาเริ่มต้น 20 – 35 ล้านบาท* มีแบบบ้านให้เลือกถึง 4 แบบ ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 251-407 ตารางเมตร โดยแบบบ้านขนาดใหญ่ที่สุด คือ GRANDEUR โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน Double Volume Living โถงต้อนรับสูงกว่า 6.4 เมตร ลงตัวด้วย 5 ห้องนอน สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบรองรับทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว เช่น คลับเฮาส์, สระว่ายน้ำระบบเกลือเชื่อมพื้นที่สวน, สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก, ฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ, สวนส่วนกลาง, Co-Working Space รวมถึง Sansiri Backyard แปลงผักสวนครัว และอื่นๆ
“เศรษฐสิริ รวมโชค มีกระแสตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า โดยเปิดชมครั้งแรกปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปรากฎว่าเพียง 2 วัน มีลูกค้าตบเท้าเข้าชมโครงการมากกว่า 200 ราย และยังทยอยเข้าชมโครงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด สร้างกระแสกวาดยอดจองเฟสแรกหมดก่อนเปิดการขายอย่างเป็นทางการ เตรียมเปิดขายเฟสใหม่ต่อทันที ในวันที่ 25 – 26 พฤษภาคมนี้” นายอาณัติ กล่าว
ส่งแบรนด์ “อณาสิริ” เปิดตัวครั้งแรกในเชียงใหม่ ยอดตอบรับล้นนายอาณัติ กล่าวต่อว่า ขณะที่โครงการอณาสิริ พายัพ ประสบความสำเร็จ ปิดการขาย 2 เฟสรวด รวม 50 ยูนิต หลังเปิดพรีเซลล์ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากการมีโปรดักส์ที่ครอบคลุมทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ภายใต้แนวคิด “Feel Just Right ความพอดีที่ลงตัว” ตรงใจไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าชาวเชียงใหม่ รวมถึงราคาที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหาบ้านหลังแรกที่มีความคุ้มค่าในการครอบครอง ทั้งแบรนด์ ราคา ฟังก์ชันต่างๆ รวมไปถึงพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยและเตรียมพร้อมเปิดการขายต่อเนื่องในเฟสที่ 3 ในเดือนมิถุนายนนี้
อณาสิริ พายัพ เป็นโครงการที่มีทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในโครงการเดียว รูปแบบ Modern Barn house บ้านดีไซน์ใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโรงนาในประเทศตะวันตก เรียบง่ายแต่อบอุ่น และคำนึงถึงการใช้ชีวิตที่พอดีและสมดุลในทุกด้าน ทั้งการพักผ่อน การทำงาน พร้อมดีไซน์ที่สวยงามและฟังก์ชันที่ใช้ได้จริง ประกอบด้วยบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด จำนวน 101 ยูนิต มี 3 แบบบ้านให้เลือก ได้แก่ GLEN บ้านแฝด 145 ตารางเมตร 4 ห้องนอน DALE บ้านเดี่ยว 156 ตารางเมตร 4 ห้องนอน และ LARK บ้านเดี่ยว 235 ตารางเมตร 4 ห้องนอน พร้อมลงตัวกับส่วนกลางที่ครบครัน อาทิ คลับเฮาส์ขนาดใหญ่ ส่วนกลางร่มรื่น ฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ครบ สระว่ายน้ำระบบเกลือ สนามเด็กเล่น แสนสิริ แบคยาร์ด และ LIV-24 เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัย ยกระดับความปลอดภัยมั่นใจ 24 ชั่วโมง ทำเลโครงการอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ใกล้ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ และเซ็นทรัล เชียงใหม่ เพียง 15 นาทีถึงนิมมานฯ และสนามบินเชียงใหม่ ราคา 8 – 13 ล้านบาท
โอน “เดอะ เบส ไฮท์ เชียงใหม่” หนุนรายได้โตแข็งแกร่ง จ่อคิวเปิดขายคอนโดใหม่จากแสนสิริ ทำเลใจกลางเชียงใหม่
แสนสิริยังพร้อมรองรับการเติบโตของตลาดคอนโดมิเนียมในเชียงใหม่ รองรับดีมานด์ครอบคลุมเช่นกัน โดยเตรียมเปิดการขายคอนโดใหม่จากแสนสิริ ทำเลใจกลางเมือง เพียง 200 เมตร จาก เซ็นทรัล เชียงใหม่ ดีไซน์สไตล์รีสอร์ทส่วนกลางครบครันทั้งสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิค 55 เมตร และ Pet Yard พร้อมจุดเด่นสเปซห้องกว้างเหมือนอยู่บ้าน ขนาด 1 ห้องนอน ราคาเริ่ม 2.99 ล้านบาท และ 2 ห้องนอน เริ่ม 5.59 ล้านบาท* พร้อมชมห้องตัวอย่างแล้ววันนี้ และรับส่วนลดสูงสุด 400,000 บาท* ที่สำนักงานขายในซอยดีคอนโด รวมถึงการโอน “เดอะ เบส ไฮท์ เชียงใหม่” คอนโดตึกสูงแห่งแรกจากแสนสิริที่เชียงใหม่ เพียง 3 นาทีจากเซ็นทรัล พร้อมจุดเด่นเห็นวิวดอยสุเทพและดอยสะเก็ดจากห้องพัก และส่วนกลางครับครันที่อัพเกรดฟังก์ชันกรองฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด ตอกย้ำความสำเร็จด้วยยอดขายโครงการแล้วกว่า 70% และพร้อมเปิดชมตึกจริงแล้ววันนี้ พร้อมรับส่วนลดพิเศษสูงสุด 150,000 บาท และฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า* เริ่ม 2.69 ล้านบาท*
“แสนสิริ เชื่อมั่นว่า กลุ่มลูกค้าเชียงใหม่จะให้การตอบรับอย่างดีต่อเนื่องในทุกโครงการ ซึ่งจะส่งผลให้แสนสิริสามารถสร้างยอดขายจากตลาดต่างจังหวัดได้ตามเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท ตามที่วางไว้ในปีนี้” นายอาณัติ กล่าวสรุป