ช่วงนี้ปิดเทอมภาคเรียนที่1 ปี 2562 ขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองนักเรียนใส่ใจต่อการดูแลสั่งสอนลูกหลานอย่างใกล้ชิด เพราะมันส่งผลในเรื่องของการประสบความสำเร็จของลูกหลานในอนาคต แท้จริงแล้วระหว่างโรงเรียนดีมีชื่อเสียง กับการเลี้ยงดูลูกให้ดีนั้น มีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ทำการทดสอบกับเด็กวัยรุ่น 10,000 กว่าคนจากโรงเรียน 1,000 โรงเรียนทำการติดตามผลการเรียนของเด็กนักเรียนแต่ละคนในระยะยาว วัดคะแนนสอบจาก 4 วิชา คือ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ(การอ่าน) วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ พบว่า ปัจจัยจากโรงเรียนและปัจจัยจากพ่อแม่นั้น มีความสำคัญต่อประสิทธิภาพในการเรียนของเด็กและเห็นได้ชัดว่า การมีส่วนร่วมของพ่อแม่ผู้ปกครองนักเรียนนำไปสู่การประสบความสำเร็จในการเรียนได้มากกว่า
นักวิจัยยังพบว่า เด็กนักเรียนวัย 18 ปี ที่เรียนอยู่ในโรงเรียนธรรมดา แต่พ่อแม่ผู้ปกครองให้ความเอาใจใส่ดูแลในด้านการเรียนของลูกหลาน ทำคะแนนสอบได้ดีกว่าเด็กนักเรียนที่เรียนโรงเรียนดี แต่พ่อแม่ไม่ได้ใส่ใจในด้านการเรียน โดยความใส่ใจของพ่อแม่ผู้ปกครองวัดจากพ่อแม่ผู้ปกครอง ช่วยตรวจทานเวลาลูกทำการบ้าน มีการพูดคุยเรื่องกิจกรรมของลูกที่โรงเรียน และพ่อแม่เข้าไปร่วมกิจกรรมกับทางโรงเรียน
พ่อแม่ผู้ปกครองทำแค่นี้ ลูกหลานของท่านก็เก่งเป็นคนดีในสังคมแล้วยิ่งในสภาพเศรษฐกิจอย่างนี้ และแหล่งเรียนรู้มี มากมายทั่วไป ท่านไม่ต้องพยายามหาโรงเรียนดีๆ ให้ลูกเข้าเรียน ยิ่งโรงเรียนที่มีชื่อเสียงแล้ว ค่าเล่าเรียนยิ่งแพงมาก จ่ายแพงแล้วยังไม่รับประกันความสำเร็จของลูกหลานเราในอนาคตอีกด้วย
ในระดับประถมศึกษา การที่พ่อแม่ผู้ปกครองมีเวลา เอาใจใส่ พูดคุยเรื่องการเรียนกับลูก เป็นการสื่อสัญญาณให้ลูกรับรู้ว่า การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเขา จากงานวิจัยทำให้เห็นว่า พ่อแม่ผู้ปกครองควรตระหนักให้ความสำคัญในเรื่องของความเอาใจใส่และให้เวลากับลูกๆมากขึ้น หมั่นตรวจ สอบ การบ้านของลูก การเข้าร่วมกิจกรรมกับโรงเรียน พูดคุยกับลูกเรื่องการเรียนอย่างสม่ำเสมอ การให้ความสำคัญกับบทบาทหน้าที่ของพ่อแม่ ซึ่งมันดีกว่า การลงทุนสูงให้ลูกได้เข้าโรงเรียนดี มีชื่อเสียงซึ่งไม่ประกันความสำเร็จของลูกหลานในอนาคต