ทั่วไป » ช้างชนช้าง ศึกเลือกตั้ง นายก อบจ.เชียงใหม่ “บุญเลิศ เชียงใหม่คุณธรรม”ชน”พิชัย พรรคเพื่อไทย”

ช้างชนช้าง ศึกเลือกตั้ง นายก อบจ.เชียงใหม่ “บุญเลิศ เชียงใหม่คุณธรรม”ชน”พิชัย พรรคเพื่อไทย”

2 พฤศจิกายน 2020
748   0

Spread the love

ศึกช้างชนกันที่สนามเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เสียงมโหรทึกครึกโครมมาแต่เช้าของวันที่ 2 พฤศจิกายน ที่บริเวณลานหน้าที่ทำการ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่(อบจ.เชียงใหม่)

เมื่อมีกลุ่มผู้สนับสนุนการเมืองท้องถิ่นฝ่ายละไม่ต่ำกว่า 500 คนในมือถือดอกไม้นานาพรรณมายืนแบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจน มีป้ายสนับสนุนที่ชัดเจน เห็นชื่อนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ อดีตนายก อบจ.เชียงใหม่ ที่นำธงกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม ประกาศตัวชัดเจนไม่ฝักไฝ่พรรคการเมืองฝ่ายไหนทั้งสิ้น มารอกันเต็มไปหมดส่งเสียงเชียร์ บุญเลิศ บุญเลิศ จนกระหึ่มไปหมด และตามด้วยกองเชียร์ของ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง ที่ลงในสีเสื้อของพรรคเพื่อไทย ที่มีแฟนคลับมาเชียร์อย่างเหนียวแน่น บรรยากาศการส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่มไม่แพ้กัน และสองสองฝ่ายยืนเผชิญหน้ากัน แต่เต็มไปด้วยไมตรีจิตอันดียิ่งต่อกัน

 

จนถึงเมื่อเวลา 08.30 น. ที่หอประชุมสภา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ การเปิดรับสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่โดยมีผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ 2 ราย มาลงทะเบียนเพื่อยื่นใบสมัครก่อนเวลา คือนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ”สว.ก๊อง” อดีต ส.ว. เชียงใหม่ ที่มาลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย ตามด้วยนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ อดีตนายก อบจ.เชียงใหม่

ซึ่งประกาศตัวชัดเจน นำกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม มาชูธงอีกครั้งเพื่อรักษาตำแหน่งนายก อบจ.เชียงใหม่ ด้วยเชื่อมั่นในฝีมือที่ผ่านมาในการพัฒนาเคียงข้างพี่น้องประชาชนทุกอำเภอว่า จะกำชัยชนะไว้ได้ในที่สุด ซึ่งทั้งสองฝ่ายนำทีมผู้สมัคร ส.อบจ.มาสมัครครบทั้ง 42 เขต นอกจากนี้ยังมีผู้สมัคร ส.อบจ. กลุ่มประชารัฐเชียงใหม่ มาสมัครในวันแรก 18 เขต จากทั้งหมด 42 เขต แต่ผู้สมัครนายก อบจ. เชียงใหม่ของกลุ่มประชารัฐเชียงใหม่ชื่อ นายบดินทร์ กินาวงศ์ หัวหน้ากลุ่มประชารัฐเชียงใหม่ ยังไม่เดินทางมายื่นใบสมัคร

จากนั้นการจับหมายเลขระหว่างผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ 2 คนในวันแรก หลังยื่นใบสมัครแล้ว ปรากฎว่า นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร จับสลากได้หมายเลข 1 ส่วนนายบุญเลิศ บูรณถปกรณ์ ได้หมายเลข 2 ท่ามกลางเสียงกองเชียร์ที่รอฟังการจับหมายเลข อยู่ด้านล่างต่างส่งเสียงเฮลั้น พร้อมทั้งชูนิ้วขึ้นตามหมายเลขที่ฝ่ายของตนจับได้ และมีทั้งสองลงมาพบกับแฟนคลับต่างส่งเสียงตะโกนเชียร์กันดังลั่นอย่างสนุกสนานยิ่ง โดยทั้งนายบุญเลิศ และนายพิชัย ได้จับมือกันจะทำหหน้าที่ในการหาเสียงอย่างบริสุทธิ์ สมานฉันฑ์ ไม่ซื้อเสียง ไม่โจมตีใส่ร้ายป้ายสีกัน หลังเลือกตั้งเสร็จไม่ว่าฝ่ายไหนจะแพ้หรือชนะ ทั้งสองก็ยังจะคงเป็นพี่น้องกัน ช่วยกันทำงานเพื่อบ้านเพื่อเมืองเชียงใหม่

นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ อดีตนายกอบจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ตนได้เบอร์ 2 แสดงถึงความโชคดี ชู 2 นิ้ววิคตอรีหมายชัยชนะ สิ่งสำคัญคืนนโยบายที่จะให้กับคนเชียงใหม่เป็นสิ่งสำคัญ นโยบนายเรื่องสิ่งแวดล้อมและคุณภาพของคนเรื่องการศึกษารวมถึงเรื่องต่างๆที่ตนยังทำคั่งค้างไว้ไม่เสร็จ เพราะคิดว่าเราคงต้องใช้เวลาในอีก 4 ปีข้างหน้าสานต่อเพื่อให้ภาระกิจสำเร็จในทุกๆด้านโดยเฉพาะปัญหาหมอกควันและฝุ่นpm2.5 ซึ่งคาดว่าปีนี้สถานการณ์จะหนักกว่าปีที่ผ่านมาเนื่องจากความแห้งแล้งและปริมาณน้ำน้อย อย่างไรก็ตามมีความมั่นใจเต็มร้อยว่าจะได้กลับมาบริหารอบจ.เชียงใหม่อีก โดยในส่วนของผู้สมัครส.อบจ.80%เป็นคนเดิมส่วน การหาเสียงจะเน้นแบบคนรุ่นใหม่ ไม่โจมตีกัน ได้คุยกับผู้สมัครอีกฝ่ายแล้วว่าจะมีการรณรงค์หาเสียงแบบคนรุ่นใหม่

“ผมในฐานะนำกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรมมีความพร้อม 100%เราส่งครบ 42 เขต ผู้สมัครของเราทุกคนคุณภาพคับแก้ว และตนก็ตั้งใจทำงานเพื่อท้องถิ่นอย่างชัดเจน จึงมีความมั่นใจว่าจะกลับมารับใช้พี่น้องประชาชนอีกครั้ง”อดีต นายก อบจ.เชียงใหม่ 2 สมัยกล่าว

ทางด้าน “สว.ก๊อง”นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร เพราะได้คุยกับทางนายบุญเลิศแล้วว่าเรารู้จักกันมานาน เป็นพี่เป็นน้อง เสร็จเลือกตั้งก็เป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม และมีความมั่นใจมากเพราะลงพื้นที่มาตั้งแต่ปี 57 ลงพื้นที่พบพี่น้องประชาชนครบทั้ง 25 เขตและหลังจากสมัครจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่โรงยิมเนเซี่ยม 2 สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี

นายมงคล สุกใส ประธานกกต.ประจำอบจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ในระหว่างวันที่ 2-6 พ.ย.63 เป็นช่วงรับสมัครผู้บริหารท้องถิ่นทั้ง 42 เขต โดยวันนี้เป็นวันแรกของการรับสมัคร ในฐานะประธานกกต.ท้องถิ่นขอยืนยันว่ากระบวนการรับสมัครและเลือกตั้งได้มีการเตรียมการและซักซ้อมมาหลายวันโดยเฉพาะกระบวนการก่อนออกใบสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งได้มีการซักซ้อมทีมงานและยืนยันว่าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทุกคนเข้าใจบทบาทของตัวเอง