เทศกาลเด็ก Glom Glom! 2025 – “Tom Yum Fun””ต้มยำมหาสนุก พาเด็กๆ สนุกกับดนตรี ละครเวที และเวทมนตร์ในวันเด็กแห่งชาติ!”

เทศกาลเด็ก Glom Glom! 2025 – “Tom Yum Fun””ต้มยำมหาสนุก พาเด็กๆ สนุกกับดนตรี ละครเวที และเวทมนตร์ในวันเด็กแห่งชาติ!”
เทศกาลงานวันเด็ก: “ต้มยำมหาสนุก”เชียงใหม่, ประเทศไทย – มกราคม 2025กลับมาอีกครั้งเป็นปีที่ 3 พร้อมความยิ่งใหญ่กว่าเดิม! เทศกาลงานวันเด็ก กลม กลม! 2025 จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2025 ตั้งแต่เวลา 15:00 – 21:00 ณศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่เก่า ภายใต้ธีม “ต้มยำมหาสนุก” ที่จะมอบความสุข เสียงหัวเราะ ดนตรี ความคิดสร้างสรรค์ และเซอร์ไพรส์มากมายให้กับเด็กๆ และครอบครัว


เทศกาลปีนี้พร้อมพาทุกคนร่วมผจญภัยไปกับ เวิร์กช้อปสุดสนุก นักมายากลเคลื่อนที่ และ ละครเพลงแบบอินเทอร์แอคทีฟ “ต้มยำมหาสนุก” ที่จะสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม


ไฮไลท์กิจกรรม
🎭 การแสดงละครเพลง “ต้มยำมหาสนุก”พบกับกิจกรรมหลักของเทศกาล ละครเพลงแบบอินเทอร์แอคทีฟที่เต็มไปด้วยตัวละครสีสันสดใส เรื่องราวแสนสนุก และการมีส่วนร่วมของผู้ชม
🎨 เวิร์กช้อปสร้างสรรค์ (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
* ปิกนิคเพลย์โดว์และมุมแปะภาพ (250 บาท): สร้างสรรค์ศิลปะด้วยเพลย์โดว์สีสันสดใสและภาพตัดปะ
* สตูดิโอแห่งการสาดและลงฝีแปรง (200 บาท): สร้างงานศิลปะด้วยเทคนิคการสาดสี
* คุกกี้อาร์ตคาเฟ่ (250 บาท): ตกแต่งคุกกี้แสนอร่อยด้วยน้ำตาลไอซิ่งและเกล็ดน้ำตาล
* ห้องทดลองแว็กซ์พิศวง (350 บาท): สร้างเทียนหอมในแบบของคุณเอง
🎩 นักมายากลเคลื่อนที่นักมายากลจะเดินรอบเทศกาลพร้อมสร้างความอัศจรรย์และเสียงหัวเราะ
🍴 โซนอาหารและเครื่องดื่ม (เปิดให้เข้าชมฟรี)พบกับอาหารว่าง ขนมหวาน และเครื่องดื่มที่หลากหลายตั้งแต่เวลา 11:00 – 21:00
🎤 ปาร์ตี้ร้องเพลง มา-ร้อง-ด้วยกันนะปิดท้ายวันด้วยการร้องเพลงร่วมกันในบรรยากาศสนุกสนาน


ตารางกิจกรรม
* 11:00 – 21:00: โซนอาหารและเครื่องดื่ม (เปิดให้เข้าชมฟรี)
* 14:00 – 15:00: การแสดง The Akynum Dream Wagon (เข้าฟรี)
* 15:00: ประตูเปิด
* 15:00 – 18:00: เวิร์กช้อปและสนามเด็กเล่น
* 15:00 – 18:00: นักมายากลเคลื่อนที่
* 18:00 – 20:00: การแสดงละครเพลง “ต้มยำมหาสนุก”
* 20:00 – 21:00: ปาร์ตี้ร้องเพลง มา-ร้อง-ด้วยกันนะ


รายละเอียดงาน
วันที่: วันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2025
เวลา: 13:30 – 21:00
สถานที่: ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่เก่า
ค่าบัตร: 100 บาท (ซื้อตั๋วได้ที่ Ticketmelon)
เว็บไซต์: www.glomglom.fun
หมายเหตุ: ไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์ เพื่อดื่มด่ำกับกิจกรรมอย่างเต็มที่

เตรียมตัวให้พร้อม!
ร่วมเล่น สร้างสรรค์ และหัวเราะไปด้วยกันใน เทศกาลงานวันเด็ก กลม กลม! 2025 แล้วพบกันในวันเสาร์ที่ 11 มกราคมนี้

บรรยากาศสุด Exclusive 𝐌𝐎𝐑𝐘𝐈𝐍𝐆 𝐓𝐇𝐗 𝐘𝐎𝐔 𝐏𝐀𝐑𝐓𝐘 𝟐𝟎𝟐𝟒” 𝐆𝐀𝐌𝐁𝐋𝐄 𝐆𝐀𝐋𝐀 𝐍𝐈𝐆𝐇𝐓 “สุดยิ่งใหญ่ประทับใจ

ย้อนชมบรรยากาศสุด Exclusive 𝐌𝐎𝐑𝐘𝐈𝐍𝐆 𝐓𝐇𝐗 𝐘𝐎𝐔 𝐏𝐀𝐑𝐓𝐘 𝟐𝟎𝟐𝟒” 𝐆𝐀𝐌𝐁𝐋𝐄 𝐆𝐀𝐋𝐀 𝐍𝐈𝐆𝐇𝐓 ”
อีกครั้งกับบรรยากาศแสนอบอุ่นสุดพิเศษของครอบครัวหมอหญิงคลินิกที่มอบความสนุกตื่นตาตื่นใจ ทั้งโชว์สุดพิเศษ
เพลงเพราะๆจาก คุณเปอร์ติ๊ด – 𝐓𝐡𝐞 𝐕𝐨𝐢𝐜𝐞 𝐓𝐡𝐚𝐢𝐥𝐚𝐧𝐝 𝐒𝐞𝐚𝐬𝐨𝐧 𝟒และมินิคอนเสิร์ตจากวง 𝐒𝐞𝐚𝐬𝐨𝐧 𝐅𝐢𝐯𝐞


รวมทั้งเหล่า 𝐁𝐫𝐚𝐧𝐝 𝐀𝐦𝐛𝐚𝐬𝐬𝐚𝐝𝐨𝐫 หลากหลายท่านอาทิ คุณพลอย ชิดจันทร์, คุณแม่อี๊ด ดวงใจ และคุณปรางค์ อภินรา
พร้อมบรรยากาศสุดประทับใจ กับการประมูลเพื่อการกุศลเพื่อนำรายได้ทั้งหมดกว่า 1,100,000 บาท บริจาคให้กับโรงพยาบาลจอมทอง เชียงใหม่

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษ
📬Line : @moryingclinic
• สาขาเชียงใหม่ 052-010233
• สาขากรุงเทพ 0804915289

เชิญชมฟรี ฟุตบอล7คนคาราบาว พร้อมฟรีคอนเสิร์ต After Match Party ความมันส์สนั่นแดนเหนือที่เชียงใหม่

คาราบาวยกทัพแจกความมันส์สนั่นแดนเหนือกับฟรีคอนเสิร์ต After Match Party ใน Carabao 7-a-Side Cup 2024 รอบชิงแชมป์ ภาคเหนือ พบศิลปินอย่างปู่จ๋าน ลองไมค์, เคนน้อย ร้อยลีลา และอภิรมย์มาเชียร์บอลเชียร์บาวให้สุดแรง ไปพร้อมเครื่องดื่มเย็นๆ มาตรฐานเยอรมันกันได้ที่นี่ ย้ำ งานนี้เข้าฟรี!
​แล้วพบกันวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม นี้ ณ สนามฟุตบอล รวมโชค สปอร์ตคลับ อ.เมือง จ.เชียงใหม่



เชียร์บอลแล้ว เชียร์บาวต่อทั้งคืน​ ครบรสทุกสนาม อลังการทุกการแข่งขัน ​ ติดตามความสนุกหรือรับชมถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Thairath Sport (https://bit.ly/46YXWj2)​

เปิดแล้ว..งาน “บอก มอก” โชว์นวัตกรรม-วัสดุก่อสร้างพร้อมผังเมือง หวังลด PM2.5 เข้าตัวอาคาร

วันที่ 14 ธันวาคม 2567 ที่ เชียงใหม่ฮอลล์เซ็นทรัล เชียงใหม่แอร์พอร์ต จ.เชียงใหม่ คุณอเส สุขยางค์ นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานเปิดงานสถาปนิกล้านนา 2567 ภายใต้ชื่องาน “บอก มอก.” ที่ทางสถาปนิกล้านนาจัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ผลงานทางวิชาชีพ ผลงานวิชาการ ผลงานวิจัยทางสถาปัตยกรรม และกิจกรรมของสถาปนิกภาคเหนือ โดยมีนายสันธยา คชสารมณี ประธานกรรมาธิการสถาปนิกล้านนา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ วาระ 2567 -2569 พร้อมคณะกรรมการให้การต้อนรับ

นายสันธยา คชสารมณี ประธานกรรมาธิการสถาปนิกล้านนา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ วาระ 2567 -2569 กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญในการเผยแพร่ผลงานทางวิชาชีพ ผลงานวิชาการ ผลงานวิจัยทางสถาปัตยกรรม และกิจกรรมที่ผ่านมาของสถาปนิกภาคเหนือ รวมทั้งมีการจัดแสดงนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และวัสดุการก่อสร้างของผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคเหนือและทั่วประเทศ

ซึ่งงานครั้งนี้จะเป็นเวทีสำคัญของแวดวงวิชาชีพสถาปนิกภาคเหนือที่มีการจัดประจำทุกปี ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาศักยภาพให้กับสถาปนิก โดยในครั้งนี้มีแนวคิดการนำเสนอภายใต้ ชื่อว่า “บอก มอก.” ซึ่งเป็น อัตลักษณ์ด้านภาษาอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของชาวล้านนา ถูกนำมาสรรค์สร้าง ต่อยอด ใช้นิยามงานสถาปนิกล้านนา’67 จากความหมายเดิมอันหมายถึงการล้างแค้นหรือการกระทำให้สาแก่ใจ แต่กลายเป็นนัยยะใหม่ที่กล่าวถึง “ความเป็นมาตรฐาน ในการสร้างสรรค์ผลงานทางสถาปัตยกรรมผ่าน กระบวนคิดของสถาปนิกล้านนา

การจัดงานในปีนี้ต้องการเผยแพร่ผลงานและความรู้เชิงสถาปัตยกรรมของสถาปนิกล้านนาให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ บอก มอก. ที่ 1 : พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ Showcase นิทรรศการภายใต้แนวคิด “บอก (ห) มอก.”นิทรรศการวิชาชีพทางสถาปัตย กรรมของสถาปนิกภาคเหนือกว่า 30 บริษัท นิทรรศการแสดงผลงานออกแบบสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การ อนุรักษ์ นิทรรศการแสดงผลงาน VERNADOC (Vernacular Architecture Documentation) นิทรรศการแสดงผลงานของสถาบันการศึกษา นิทรรศการของศูนย์ออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน(UDC : Universal Design Center)

ส่วนกิจกรรม บอก มอก.ที่ 2 : เป็นเวทีเสวนาและแลกเปลี่ยนความคิด (ASA Talk) หัวข้อเรื่อง “เตคเฮาสู้ฝุ่น”Tects (how fight the dust) ปัญหามลพิษหมอกควันภาคเหนือ สถานการณ์ฝุ่นในภาคเหนือ จะได้นำมาร่วมพูดคุยและถกประเด็นสำคัญ พร้อมกระบวนการออกแบบทางผังเมืองที่จะช่วยลดและป้องกันฝุ่น และวิธีออกแบบพื้นที่สีเขียวในบ้านและรั้วเพื่อช่วยลดฝุ่นผ่านมุมมองของวิทยากรเหล่าสถาปนิก นักวิจัย นักเคลื่อนไหวเพื่อสังคม โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน

สำหรับในวันที่ 15 ธันวาคม 2567 มีการจัดเสวนา หัวข้อเรื่อง “เตค ต่าง ต่าง” ร่วมรับฟังแนวคิดและไอเดียที่สร้างสรรค์ของสถาปนิกในการออกแบบสถาปัตยกรรมเพื่อการแก้ปัญหาเรื่องฝุ่น หรือ PM2.5 และการออกแบบสร้างสถาปัตยกรรม ด้วยระบบเครื่อง กลหรือระบบอื่นๆ เพื่อการป้องกันฝุ่นเข้าบ้านและตัวอาคาร จุดประกายแนวคิด และแชร์ประสบการณ์แห่งความสำเร็จ โดยเหล่าสถาปนิกผู้ผันตัวเองไปสู่บทบาทอาชีพอื่น ๆ

นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรม บอก มอก.ที่ 3 : พื้นที่ให้ความรู้ ให้บริการ และกิจกรรมเวิร์กช็อป
• กิจกรรมสถาปนิกน้อย (Junior Architect) กิจกรรมเวิร์กช็อปสอนวาดรูป Sketch เทคนิคลงสีน้ำ และเวิร์กช็อปสอนปั้นพอร์ต (Portfolio) เข้ามหาวิทยาลัย สำหรับนักเรียน นักศึกษา
• สถาปนิกและสถาบันการเงิน เปิดบริการให้ความรู้ด้านที่อยู่อาศัย สินเชื่อทางการเงิน ให้คำปรึกษาเรื่องต่างๆแก่ประชาชน
• บูธจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ สินค้า และวัสดุก่อสร้างจากบริษัทชั้นนำภาคเหนือ

สำหรับ บอกมอก.ที่ 4 : พื้นที่สำหรับสมาชิกอาษาล้านนาคลับ (ASA Club) และ ASA Member (บริการสมาชิกฯ)
• โซน ASA Member : จุดให้บริการต่างๆ สำหรับสมาชิกสถาปนิกล้านนา และจำหน่ายของที่ระลึกของสถาปนิก
• โซน ASA Club พื้นที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม นั่งพักผ่อนรับฟังดนตรีขับกล่อม และผ่อนคลายกับกิจกรรมสันทนาการ

อย่างไรก็ตามการจัดงานสถาปนิกล้านนา’67 “บอก มอก.” ยังได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในการร่วมสนับสนุนและผลักดันทำให้เกิดการจัดงาน โดยหวังให้การจัดงานในครั้งนี้เกิดผลกระทบเชิงบวกให้กับแวดวงวิชาชีพสถาปนิก สถาปนิกรุ่นใหม่ หน่วยงานภาคการศึกษา ภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคการท่องเที่ยว ภาคประชาชน ต่อไป

ศูนย์ความงาม สุขภาพ และชะลอวัย หมอหญิงคลีนิค จัดงาน Gamblers Gala night ภายใต้ตรีม Casino Theme

ศูนย์ความงาม สุขภาพ และชะลอวัย หมอหญิงคลีนิค จัดงาน Gamblers Gala night ภายใต้ตรีม Casino Theme นำรายได้จากการประมูลบริจาคให้ รพ. จอมทอง จ.เชียงใหม่

 

ที่ Intercontinental Chiangmai Hotel เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 -แพทย์หญิงศุภักษณา สิงห์ยะบุ เจ้าของ ศูนย์ความงาม สุขภาพ และชะลอวัย MORYING Clinic จัดงานขอบคุณลูกค้า ภายใต้ตรีมงาน Casino Theme พร้อมร่วมสัมผัสกับโมเม้นต์แห่งความประทับใจสุด Excutive กับดารา Brand Ambassador 3 ท่าน คุณดวงใจ หทัยกาญจน์ ,ปราง อภินรา ศรีกาญนา และคุณพลอย ชิดจันทร์ ที่จะมาเล่าประสบการณ์ในการดูแลสุขภาพ และที่สำคัญทุกท่านจะได้มีส่วนร่วมในการประมูลคร์อสต่างๆ เพื่อนำรายได้จากการประมูลบริจาคซื้อเครื่องมือแพทย์ให้ รพ. จอมทอง จ.เชียงใหม่ มูลค่าการประมูลทั้งหมดกว่า 1,100,000 บาท และสนุกส่งท้ายไปกับ Season Five ที่มาร่วมสร้างสีสันให้กับครอบครัวศูนย์ความงาม สุขภาพ และชะลอวัย MORYING Clinic ในปีนี้

สำหรับ MORYING Clinic Aesthetic & Wellness Center ศูนย์ความงาม สุขภาพ และชะลอวัย อยู่ภายใต้การกำกับดูแล โดย “แพทย์หญิงศุภักษณา สิงห์ยะบุศย์” หรือ “หมอหญิง” เปิดให้บริการด้านความงาม ทุกรูปแบบ รวมไปถึงบริการด้านสุขภาพและชะลอวัยทั้ง การตรวจสุขภาพประจำปี วินิจฉัยและรักษาโรคทั่วไป ให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพ การฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุสำหรับป้องกันโรค

ติดตามข้อมูลข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ https://www.facebook.com/moryingclinic

เชียงใหม่เปิดงาน “มนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองตอกไม้งาม” ยิงใหญ่สวยงามตระการตา

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับจังหวัดเชียง เชียงใหม่ เปิดงาน “มนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม” เพื่อกระตุ้นเครษฐกิจแล ะการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ณ ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่


วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เวลา 19.00 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดงานมนต์เสน่ห์เชียงไหม เ (CHARMING Chiang Mai Flower Festival) โดยมี นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัด เชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ และ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าววัตถุประสงค์การจัดงาน เพื่อพัฒนาและสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมท่องเทียว รวมถึงเป็นการ ส่งเสริมการตลาดและการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่ปลอดภัย มีเสน่ห์ ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ซึ่งในปีนี้มีแนวคิดในการจัดงาน คือ THE GOLDEN OF LANNA หรือ “ความเรืองรองแห่งวิถีล้านนา” ตั้งแต่วันที่29 พฤศจิกายน 2567-5 มกราคม 2568 ณ ศูนย์ราชการจังหวัด เชียงใหม่ (สวน อบจ.เชียงใหม่) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยสามารถเข้าชมได้ทั้งแต่ เวลา 08.30 – 23.00 นโดยมีกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้


1) นิทรรศการสวนไม้ดอกไม้ประดับ (The Wonder Flower Land) : เชียงใหม่ดินแดนแห่ง ดอกไม้ที่มีทั้งพันธุ์ไม้เขดหนาว พันธุ์ไม้เขตร้อน อาทิ ดอกทิวลิป,ลิลลี่, คาราลิลลี่, บลูขันเรีย มากาเร็ด, ดอกไฮเดรนเยียร์, อาซาเลีย เวอร์บีน่า และนาร์ซิสซัส หรือ คอกดารารัตน์ ซึ่งเป็นดอกไม้ทรงโปรดของในหลวงรัชกาลที่ 9 และดอกไม้อีกหลากหลายสายพันธุ์ หลากหลายสีสัน นับล้านดอก


2) นิทรรศการกล้วยไม้: การจัดแสดงกล้วยไม้ไทยที่หาชมได้ยาก อาทิ กล้วยไม้สกุลฟาแลน, แวนด้า, แอสโค, ออนซิเดี่ยม, ซิมบิเดี้ยม เป็นต้น ผสมผสานด้วยไม้คลุมดิน ตระกูลเฟิร์น และมอส ตกแต่งประดับประดาด้วย ไม้สกุลคาคบ เช่น เคราฤๅษี, สับปะรดสี เป็นต้น


3) สีสันแห่งน้ำพุดนตรี ประกอบมัลติมีเดีย สุดยิ่งใหญ่ การแสดงน้ำพุดนตรีประกอบแสง สี เสียง และพลุเอฟเฟคสุดตระการตา โดยจัดแสดงวันละ 4 รอบ ช่วงเวลา 19.00 น. 20.00 น. 21.00 น. และ 22.00 น.


4) ทุ่งไฟประดับที่ใหญ่และสวยที่สุดยามค่ำคืน สวนแสงอัจฉริยะ The Golden of Lanna ตั้งแต่เวลา 17.00 – 22.00 น. โดยมี Zone การจัดแสดงดังนี้
5) การแสดง โชว์ศิลปะ วัฒนธรรมผสมสาน ประกอบแลง สี เสียง เป็นประจำทุกคืน โดยแต่ละคำคืน ชุดการแสดงจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ไม่ซ้ำกัน โดยจัดแสดงวันละ 2 รอบ ในเวลา 19.50 น. และ 21.30 น.


6) กิจกรรมดนตรีในสวน ซึ่งจะคอยบรรเลงเพลง สร้างความเพลิดเพลินให้กับนักท่องเที่ยว เป็นประจำทุกวัน สลับสับเปลี่ยนกับการแสดง Light of Glory และพิเศษสำหรับวันศุกร์ เสาร์//

เริ่มแล้วงาน Lanna Expo 2024 “BCG Creative Lanna”ที่ลานดินหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ หวังฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาคเหนือ

เริ่มแล้วงาน Lanna Expo 2024 “BCG Creative Lanna”ที่ลานดินหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ หวังฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาคเหนือเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 67 นางสาวพลอย ธนิกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงาน Lanna Expo 2024 ซึ่งเป็นงานแสดงนวัตกรรมและจำหน่ายสินค้า Lanna Expo 2024 ถือเป็นที่มีการบูรณาการ ความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาคเหนือ โดยเฉพาะครั้งนี้ได้จัดงานภายหลังจากที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่ผ่านมา จึงเป็นโอกาสสำคัญ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ ให้สามารถขยายช่องทางการตลาดสินค้าและการบริการ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนเผยแพร่ประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมล้านนา ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น


นางสาวพลอย ธนิกุลผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า การจัดงาน Lanna Expo 2024 ครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการรับเคลื่อนโยบายรัฐบาลและกระทรวงวัฒนธรรม ในการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ผ่านการนำทุนทางวัฒนธรรมและการขับเคลื่อน “Soft Power” ทางด้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังช่วยในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และการเพิ่มรายได้ ให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดเหนือตอนบน 1 (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน) ให้สามารถพลิกเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ยิ่งช่วงนี้ใกล้เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเป็นจำนวนมาก และได้จับจ่ายซื้อของขวัญของที่ระลึกจากสินค้าทางวัฒนธรรม รวมทั้งได้เที่ยวชมงาน และเรียนรู้วัฒนธรรมล้านนาที่น่าประทับใจร่วมกัน

ทางด้านนายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ ในการจัดกิจกรรม ข่วงวัฒนธรรมล้านนาสร้างสรรค์และจัดแสดงนวัตกรรมและจำหน่ายสินค้า ในงาน Lanna Expo 2024 ภายใต้ “BCG Creative Lanna” สุดยอดผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ อัศจรรย์ภูมิปัญญา เพื่อส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2567 เวลา 10.00 – 21.00 น. ที่ลานด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

ภายในงานจำแนกเป็น 4 กลุ่ม ในพื้นที่ 4 โซน ได้แก่ โซนกลุ่มเฟอร์นิเจอร์และตกแต่ง, โซนกลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม สมุนไพร , โซนค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่นและสิ่งทอ ของฝาก ของที่ระลึก และอื่น ๆ และโซนกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมทั้งมีกิจกรรมเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการในกลุ่มภูมิภาค เพื่อพัฒนาฐานการตลาดสู่ระดับนานาชาติ.

ททท. เรียกรวมพลสายเข้มคอกาแฟ ในงาน Northern Coffee Gathering 2024 ชวนสัมผัสเสน่ห์และวัฒนธรรมกาแฟภาคเหนือ 28 พฤศจิกายน -1 ธันวาคม นี้ ที่จังหวัดเชียงใหม่

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ จัดงาน “Amazing Northern Coffee Gathering 2024 ชุมนุมคนรักกาแฟ” ในวันที่ 28 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งของโครงการ Thailand Winter Festivals เพื่อกระตุ้นบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น โดย ครั้งนี้ ททท. เสนออีเวนต์สร้างสรรค์เอาใจ คนรักกาแฟล้อมวงเรียนรู้เรื่องราวของกาแฟแบบถึงแก่น ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ พร้อมพบปะกับเกษตรกร ผู้ปลูกกาแฟ นักคั่วกาแฟ และผู้ประกอบการในวงการกาแฟชั้นนำ เพื่อนำส่งประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและความหมาย พร้อมช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชางต่างชาติได้มาสัมผัสถึงวัฒนธรรมด้านกาแฟแถบภาคเหนือของประเทศไทย


นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่างาน Amazing Northern Coffee Gathering 2024 ชุมนุมคนรักกาแฟ เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Thailand Winter Festivals 2024 ภายใต้นโยบาย IGNITE Thailand’s Tourism ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรม อีเวนต์ และเฟสติวัลอันหลากหลายและครอบคลุมในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด “7 Wonders of Thailand” ตามเป้าหมายผลักดันประเทศไทยไปสู่ World Class Event Hub ประกอบกับเพื่อกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวไทยในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมซึ่งเป็นไฮซีซันหรือฤดูกาลท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวออกนิยมเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก และงาน Amazing Northern Coffee Gathering 2024 ชุมนุมกาแฟ เป็นหนึ่งในอีเวนต์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในหมวดเทศกาลอาหารที่จะช่วยสร้างบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่รักกาแฟ ให้มาสัมผัสถึงวัฒนธรรมด้านกาแฟแถบภาคเหนือของประเทศไทย ให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางยิ่งขึ้น

นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางทางการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาตินิยมเดินทางมาท่องเที่ยว ด้วยศักยภาพของโครงสร้างพื้นฐานทั้งโรงแรมที่พัก ระบบขนส่งการคมนาคมที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว รวมทั้งวัฒนธรรมอันงดงาม ความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ งานศิลปะและหัตถกรรม Art & Craft สินค้าท้องถิ่นที่เป็นอัตลักษณ์น่าสนใจ โดยเฉพาะเมล็ดกาแฟ สินค้าที่โดดเด่นของจังหวัดเชียงใหม่และพืชเศรษฐกิจหลักของภาคเหนือ ตอนบน

ซึ่งได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เห็นได้จากการประกอบกิจการธุรกิจกาแฟและคาเฟ่ที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ในรูปแบบต่าง ๆ ตลอดเส้นทางการท่องเที่ยวทั่วทุกพื้นที่ของภาคเหนือ และเชื่อว่าการจัดงาน Amazing Northern Coffee Gathering 2024 ชุมนุมกาแฟ จะช่วยสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ที่สอดคล้องกับสินค้าบริการทางการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ตอบโจทย์ความสนใจและต่อยอดกระแสการท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม รวมทั้งส่งแรงกระเพื่อมถึงผู้ประกอบการร้านกาแฟและคาเฟ่ให้ตระหนักถึงการยกระดับคุณภาพของสินค้า เชื่อมโยงจุดเด่นนอกเหนือจากรสชาติ ไปยังคุณค่าของเรื่องราว กรรมวิธีการผลิตและแหล่งปลูกที่ได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้หมุนเวียนแก่เศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า งาน “Amazing Northern Coffee Gathering 2024 ชุมนุมคนรักกาแฟ” เป็นหนึ่งใน Event Marketing ที่ ททท. ตั้งใจสร้างการรับรู้กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวผ่านรูปแบบกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ โดยมุ่งนำเสนอเสน่ห์ไทยของภาคเหนือ ภายใต้แนวคิด 5 Must Do in Thailand เพื่อต่อยอดความสนใจของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางท่องเที่ยวเชิงกาแฟเรียนรู้ประสบการณ์ด้านกาแฟของจังหวัดเชียงใหม่ และกระตุ้นการจับจ่ายช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของท้องถิ่น

โดยงานนี้รวมคนรักกาแฟจากทั่วประเทศ มาสัมผัสเสน่ห์ของกาแฟไทยแท้จากแหล่งปลูกอันดับต้นๆ ของประเทศ เรียนรู้เรื่องราวของกาแฟแบบถึงแก่น ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ พร้อมพบปะกับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ นักคั่วกาแฟ และผู้ประกอบการในวงการกาแฟชั้นนำ เพื่อนำส่งประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและความหมาย สร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวที่คึกคักในช่วงไฮซีซั่น และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาด ส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในภาคเหนือให้มีช่องทางในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้น

 

ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ได้แก่ 1) กาดชาวสวนกาแฟ ตลาดรวมพลเกษตรกร ผู้ปลูกกาแฟจากทั่วภาคเหนือ นำกาแฟคุณภาพดีหลากหลายสายพันธุ์มาจำหน่าย พร้อมให้คำแนะนำและแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการปลูกกาแฟ 2) ชุมชนนักคั่วกาแฟเมืองเหนือ รวบรวมนักคั่วกาแฟฝีมือดีจากทั่วภาคเหนือ มาโชว์ฝีมือและแบ่งปันเทคนิคการคั่วกาแฟ พร้อมจำหน่ายกาแฟคั่วสดใหม่ 3) มุมญาติมิตรของกาแฟ พบกับผลิตภัณฑ์จากกาแฟและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ชา โกโก้ ข้าว และผลิตภัณฑ์จากพืชเศรษฐกิจอื่นๆ ของภาคเหนือ และ 4) ลานกิจกรรม จัดกิจกรรมเสิร์ฟความสุขในหลากหลายรูปแบบ อาทิ การเสวนาเกี่ยวกับกาแฟ การสาธิตการชงกาแฟ การแข่งขันชงกาแฟ และการแสดงดนตรี

Amazing Northern Coffee Gathering 2024 ชุมนุมกาแฟ ไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมกาแฟของภาคเหนือ แต่ยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมกาแฟไทย ททท. จึงอยากขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมสัมผัสประสบการณ์พิเศษ และดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟชั้นเลิศได้ที่งาน Amazing Northern Coffee Gathering 2024 ชุมนุมคนรักกาแฟ ในวันที่ 28 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 1672 Travel Buddyและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ โทร. 053 248 604

“ราโด” (Rado) แบรนด์นาฬิการะดับแถวหน้าสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์จัดงานเปิดตัวบูติกสาขาแรกในประเทศไทย

“ราโด” (Rado) แบรนด์นาฬิการะดับแถวหน้าสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์จัดงานเปิดตัวบูติกสาขาแรกในประเทศไทย ณ ศูนย์การค้า เซ็นทรัล เชียงใหม่พร้อมการตกแต่งร้านในสไตล์เรียบหรู สง่างามและไร้กาลเวลาพร้อมเอาใจเหล่าคนรักนาฬิกาและนักสะสมให้ได้เลือกสรรเรือนเวลาหรูสัญชาติสวิสที่โดดเด่นด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีลํ้าสมัยเข้ากับดีไซน์ที่งดงาม รวมถึงความเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้วัสดุอย่าง “ไฮเทค เซรามิก” จากแบรนด์ “ราโด” (Rado) ที่ล่าสุด มร. แดเนียล กาเซีย รองประธานฝ่ายการขายแบรนด์ราโด พร้อมด้วยคุณธีรเนตร ภัทรวุฒิพงศ์ ผู้บริหารแบรนด์ “ราโด” (Rado) ประเทศไทย ได้จัดงานเปิดตัวบูติกแห่งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ ด้วยคอนเซ็ปต์การตกแต่งร้านที่เน้นความสง่างามไร้กาลเวลา เพื่อนำเสนอสุดยอดเรือนเวลาจากแบรนด์ “ราโด” (Rado) กว่า 250 รุ่น ให้ได้เลือกสรรพร้อมกันแล้ววันนี้

“ราโด” (Rado) แบรนด์นาฬิกาหรูสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1917 โดยพี่น้องตระกูล Schlup ณ เมืองเลงนาว ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ราโด (Rado) นับได้ว่าเป็นผู้สรรสร้างนวัตกรรมเรือนเวลาระดับโลกที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “Master of Materials” ด้วยสุดยอดผลงานออกแบบไฮเทค เซรามิก (High-Tech Ceramics) อันล้ำสมัยไม่เหมือนใคร ผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีด้านวัสดุศาสตร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้อย่างลงตัว

คุณธีรเนตร ภัทรวุฒิพงศ์ ผู้บริหารแบรนด์ “ราโด” (Rado) ประเทศไทย กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ว่า “เรารู้สึกภาคภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งในการเปิดตัวบูติก ราโด (Rado) แห่งแรกในประเทศไทยที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์เป็นเอกลักษณ์ เรารู้สึกประทับใจเป็นอย่างยิ่ง และยังเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของโลก ที่นับได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางของเหล่านักท่องเที่ยวหลายคนอยากจะมาเยือน และเราเชื่อมั่นว่าเชียงใหม่เป็นเมืองที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ “ราโด” (Rado) ที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์นาฬิกาที่มีดีไซน์ทันสมัย และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์ที่บุกเบิกนวัตกรรมไฮเทค เซรามิก ที่โดดเด่นเรื่องรูปลักษณ์และมีผิวสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ โดยบูติกแห่งนี้ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ ตกแต่งในสไตล์หรูหรา สวยงาม ไร้กาลเวลา เพื่อที่จะสร้างประสบการณ์ในการเลือกชมนาฬิกาอย่างเหนือระดับให้กับลูกค้า นอกจากนี้เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองเปิดตัวบูติกแห่งนี้เราภูมิใจนำเสนอนาฬิการุ่นไอคอนิกอย่างอะนาตอม (Anatom) รุ่น R10204712 ซึ่งเป็นนาฬิกายอดนิยมประดับเพชรแท้ เปิดตัวครั้งแรกและวางขายที่บูติกแห่งนี้ที่เดียวในประเทศไทย”

บูติก “ราโด” (Rado) แห่งแรกในประเทศไทยตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ บริเวณชั้น 1 ด้วยขนาดพื้นที่ร้านขนาด 75 ตารางเมตร ถูกออกแบบให้ร้านมีความโปร่ง โล่งสบาย พร้อมการตกแต่งที่หรูหราสง่างามและไร้กาลเวลา โดยดีไซน์จะเน้นลายเส้นที่ดูเรียบง่ายสะอาดตากับพื้นผิวที่ดูแวววาว และยังมีการใช้สีบรอนซ์โทนอุ่นบริเวณบานประตู พร้อมกันนี้ยังมีการจัดแสงไฟอย่างละมุนสายตา ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่จะสร้างประสบการณ์ในการเลือกสรรเรือนเวลาได้อย่างผ่อนคลาย

นอกจากนี้ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับผนังแบบอินเตอร์แอคทีฟที่จะสามารถสัมผัสกับวัสดุอันเลื่องชื่ออย่าง “ไฮเทค เซรามิก” ที่เป็นเอกลักษณ์ของเรือนเวลาแบรนด์ราโด (Rado) ได้อย่างใกล้ชิด เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสวัสดุและค้นพบความหลากหลายของสีสันที่มีให้เลือกอย่างเต็มที่ ส่วนบริเวณส่วนด้านหลังร้านบูติก มีโซนเลานจ์แสนอบอุ่นที่จะมอบบรรยากาศเป็นกันเองและน่าต้อนรับแก่ลูกค้าผู้มาเยือน
อีกหนึ่งความพิเศษเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองเปิดบูติกแห่งนี้ ที่จะมีวางขายนาฬิการุ่นไอคอนิกอย่าง “อะนาตอม” (Anatom) ไอคอนิกที่เปิดตัวในปี 1983 นาฬิการุ่นนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของดีไซน์สุดล้ำที่เขย่าวงการและใส่สบายที่สุด

โดยเรือนไฮไลท์ของบูติกแห่งนี้คือนาฬิการุ่น R10204712 ที่เปิดตัวและวางขาย ณ บูติกแห่งนี้ แห่งแรกในประเทศไทย ในดีไซน์โดดเด่นสะดุดตา ด้วยเอกลักษณ์คือคริสตัลแซฟไฟร์เคลือบโลหะทรงกระบอกที่ทำมุมเอียงทั้งสองด้าน และเชื่อมกับตัวสายนาฬิกาไฮเทคเซรามิกได้อย่างแนบเนียน ทำให้เกิดรูปทรงที่กลมกลืนและสอดผสานตัวเรือนและสายนาฬิกาเข้ากันได้อย่างแยบยล โดยสายนาฬิกาทำจากข้อต่อไฮเทคเซรามิกสีดำขัดเงาและข้อต่อตรงกลางเป็นสแตนเลสขัดเงา พร้อมประดับเพชรฟูลคัต Top Wesselton 162 เม็ดมีบานพับล็อก 3 ทบที่ทำจากสแตนเลสแบบปัดเงาคอยยึดเอาไว้อย่างพิถีพิถัน ส่วนหน้าปัดเคลือบแลกเกอร์สีดำที่เผยให้เห็นขีดบอกเวลาซึ่งพิมพ์สีดำเนื้อแมตต์ที่จะอยู่ข้างใต้คริสตัลอันเป็นเอกลักษณ์นี้ พร้อมประดับเพชรฟูลคัต Top Wesselton 3 เม็ดและเข็มนาฬิกาสีโรเดียมเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova® สีขาว ที่ดูตัดกับความลุ่มลึกของหน้าปัดอย่างเจิดจรัส

โดยมีรูปสมอเคลื่อนที่อันเป็นเอกลักษณ์อยู่ตรงหน้าปัดที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และเสริมความงดงามด้วยหน้าต่างบอกวันที่ตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา มาพร้อมกลไกการเดินแบบออโตเมติก R766 ที่ประดับอัญมณี 21 เม็ด ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญและมองเห็นได้ผ่านทางฝาหลังคริสตัลแซฟไฟร์ โดยกลไกการเดินนี้ได้ผ่านการทดสอบในห้าตำแหน่งอย่างละเอียดและมาพร้อมแฮร์สปริง Nivachron™ ที่มาพร้อมคุณสมบัติด้านความแม่นยำ พร้อมสำรองพลังงานได้นานถึง 72 ชั่วโมงอย่างยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะรังสรรค์นาฬิกาที่สมบูรณ์แบบของ “ราโด” (Rado)

นอกจากนี้ทางแบรนด์ “ราโด” (Rado) ยังได้คัดสรรนาฬิการุ่นยอดนิยมกว่า 250 เรือน รวมถึง 3 นาฬิการุ่นใหม่จากคอลเลกชั่น Festive 2024 ได้แก่ กัปตัน คุก (Captain Cook) รุ่น R32192152 เรือนเวลาที่มีทั้งความเท่และสุขุมนุ่มลึก ด้วยตัวเรือนและสายนาฬิกาไฮเทค เซรามิกสีดำด้าน ขอบหน้าปัดกับเม็ดมะยมสแตนเลสสีโรสโกลด์ชุบ PVD และกระจกหน้าปัดเป็นคริสตัลแซฟไฟร์ มาพร้อมหน้าปัดเปลือยสีรมควันเผยให้เห็นกลไก R808 ที่บรรจงสร้างสรรค์ขึ้นอย่างประณีต ขัดลาย Côtes-de-Genève นาฬิกาสไตล์สปอร์ตที่มีทั้งความงดงามและทนทานเรือนนี้ สำรองพลังงานได้สูงสุดถึง 80 ชั่วโมง

ถัดมาที่ ทรู สแควร์ โอเพน ฮาร์ท (True Square Open Heart) รุ่น R27073702 เรือนสีขาวที่เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนช่วงเวลาแห่งความสุขอันสว่างไสวและเจิดจ้า โดยตัวเรือนและสายนาฬิกาทำจากไฮเทค เซรามิก หล่อขึ้นรูปเป็นทรงสี่เหลี่ยมโค้งมนอย่างลงตัว ด้านในใช้กลไกการเดินคาลิเบอร์ R734 ซึ่งสามารถมองเห็นกลไกการทำงานอันมีเสน่ห์นี้ได้ผ่านดีไซน์แบบโอเพนฮาร์ทบริเวณด้านหน้า ในขณะเดียวกันบริเวณฝาหลังไทเทเนียมก็มีคริสตัลแซฟไฟร์ที่สามารถมองทะลุเข้าไปในตัวเรือนได้เช่นกัน ประกอบกับงานฝีมือด้านในที่มีความวิจิตรบรรจงทั้งการขัดลาย Côtes-de-Genève พร้อมพื้นผิวประดับมุก ทั้งหมดนี้ทำให้ ทรู สแควร์ โอเพน ฮาร์ท เหมาะจะเป็นส่วนหนึ่งแห่งมนต์เสน่ห์ของช่วงเวลาแห่งความสุขส่งท้ายปี


และเซนทริกซ์ โอเพน ฮาร์ท ซูเปอร์ จูบิลี่ (Centrix Open Heart Super Jubilé) รุ่น R30029942 เรือนเวลาที่มีความระยิบระยับแวววาว ดั่งท้องฟ้าในค่ำคืนสำคัญที่เต็มไปด้วยดวงดาวและแสงสีแห่งการเฉลิมฉลอง โดดเด่นด้วยดีไซน์ด้านหน้าที่ให้ความรู้สึกเหมือนมีสะพานทรงโค้งเชื่อมวันเวลา ประดับเพชร Top Wesselton ฟูลคัต 86 เม็ด รวมถึงตำแหน่งบอกเวลาหลักชั่วโมงที่ประดับเพชรไว้จำนวน 12 เม็ดเช่นกัน ทั้งหมดนี้รังสรรค์อยู่บนตัวเรือนสแตนเลสเคลือบ PVD สีโรสโกลด์โทนอุ่น พร้อมหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีน้ำตาลเข็ม บริเวณครึ่งบนของหน้าปัดหรือบริเวณท้องฟ้าเหนือสะพาน สามารถมองผ่านคริสตัลแซฟไฟร์ไปยังกลไกการเดินออโตเมติก R734 ที่ทันสมัย ซึ่งมาพร้อมแฮร์สปริง Nivachron™คุณภาพสูงที่ดูแลปกป้องนาฬิกาเรือนสำคัญจากสนามแม่เหล็กรอบตัว ส่วนสายนาฬิกามาในดีไซน์ผสมผสานระหว่างไฮเทค เซรามิกสีน้ำตาลเฉดเดียวกับหน้าปัดจับคู่กับขอบและข้อต่อสแตนเลสเคลือบ PVD สีโรสโกลด์ นาฬิกาแห่งเทศกาลเฉลิมฉลองเรือนนี้สำรองพลังงานได้ยาวนาน 80 ชั่วโมง ที่จะพร้อมจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวที่จะได้มาเยือนที่บูติกแห่งนี้


ด้านเหล่าเซเลบริตี้ยังได้ร่วมเผยเคล็ดลับการเลือกนาฬิกาและมิกซ์แอนด์แมทช์ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง พร้อมเผยการเลือกนาฬิกามอบเป็นของขวัญให้คนพิเศษในช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีนี้ เริ่มที่สาวสังคม หม่อมราชวงศ์แม้นนฤมาส ยุคล สวัสดิ์-ชูโต เผยว่า “ส่วนตัวเราเป็นคนที่ชอบสวมเสื้อผ้าแนวเรียบๆ เน้นความคลาสสิก ไทม์เลส ในโทนสีเอิร์ธโทนเป็นหลัก ซึ่งเราเองก็จะเลือกเรือนเวลาหรูที่มีประวัติศาสตร์แบรนด์ยาวนาน มีชื่อเสียงในด้านการผลิตและเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เรียบหรู สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์เข้ากับเสื้อผ้าของเราได้หลากหลายลุค

อย่างวันนี้เลือกสวมเป็นนาฬิกาแบรนด์ราโด (Rado) รุ่นเซนทริกซ์ โอเพน ฮาร์ท ซูเปอร์ จูบิลี่ เป็นเรือนที่โดดเด่นด้วยตัวเรือนในโทนสีน้ำตาลเข้มมีเพชรประดับเสริมความหรูหรา ช่วยเสริมลุคของเราให้ดูเรียบหรูและมีความสง่างามมากยิ่งขึ้น และในช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีนี้ ของขวัญที่จะมอบให้แก่คนพิเศษที่เรามองไว้ คิดว่าจะเลือกเป็นเรือนเวลาหรูที่ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ แข็งแรงและทนทาน อย่างเซรามิก ไฮเทค ในรุ่นกัปตัน คุก เพราะสามีชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อย ทั้งไดรฟ์กอล์ฟและว่ายน้ำ ซึ่งนาฬิการุ่นนี้จะเป็นของขวัญแทนใจที่คิดว่าถ้ามอบให้สามีแล้วเขาจะได้ใช้งานได้จริงด้วย”

และหนุ่มนักธุรกิจ รักพงศ์ จันทรมังกร เล่าว่า “โดยปกติเรามักจะเลือกสวมเสื้อผ้าในสไตล์มินิมัล แต่หากวันทำงานหรือออกงานสำคัญก็จะเลือกสวมเป็นชุดสูทเน้นความสุภาพเรียบร้อยให้ดูเข้ากับงาน ซึ่งนาฬิกาที่เลือกใส่จะเน้นเลือกในโทนสีดำ เพราะสามารถแมทช์กับเสื้อผ้าได้หลากหลายลุคทั้งวันปกติและวันทำงานได้อย่างลงตัว นอกจากนี้จะเลือกจากแบรนด์นาฬิกาที่มีมาตรฐานการผลิตจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งการันตีได้ถึงคุณภาพ อย่างวันนี้เลือกสวมเป็นเรือนเวลาจากแบรนด์ราโด (Rado) ในรุ่นกัปตัน คุก สีดำด้าน ซึ่งเป็นเรือนเวลาที่มีทั้งความเท่และสุขุม ส่วนของขวัญสุดพิเศษในช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี หากมองหาเรือนเวลาสักเรือนให้คนที่รัก จะเลือกเรือนเวลาที่มีดีไซน์สวยหรู อย่างรุ่นทรู สแควร์ โอเพน ฮาร์ท เป็นเรือนที่มีความโดดเด่นด้วยหน้าปัดตัวเรือนสี่เหลี่ยมที่สามารถมองเห็นกลไกการทำงานของตัวเรือนได้อย่างชัดเจน และยังมีหน้าปัดที่ดูสวยหรูเพราะประดับด้วยอัญมี ซึ่งคิดว่าน่าจะถึงถูกใจคนรักเป็นอย่างมาก”
ยลโฉมเรือนเวลาหรูสัญชาติสวิสแบรนด์ “ราโด” (Rado) ที่บูติกแห่งแรกในประเทศไทย ที่บริเวณชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ ได้แล้ววันนี้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.02-610-0284 และLine Official Account: @radothailand

@rado เฉลิมฉลองเปิดตัวบูติกแห่งแรกในประเทศไทยที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ ที่ตกแต่งร้านในสไตล์เรียบหรู เน้นความสง่างามและไร้กาลเวลา เพื่อสร้างประสบการณ์เลือกชมนาฬิกาในบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และอีกหนึ่งไฮไลท์ในโอกาสสุดพิเศษนี้ทางแบรนด์ได้เปิดตัวและวางขายนาฬิการุ่น Anatom R10204712 ครั้งแรกที่บูติก ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ที่เดียวในประเทศไทย

พัฒนาชุมชนจังหวัดหนองบัวลำภู ขนทัพสินค้าด้านผ้าทอ และสินค้า OTOP บุกเมืองเหนือ “งานแพรพรรณลุ่มภูสู่ลุ่มปิง”

สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดหนองบัวลำภู ขนทัพสินค้าด้านผ้าทอ แล วันที่ะสินค้า OTOP บุกเมืองเหนือ “งานแพรพรรณลุ่มภูสู่ลุ่มปิง” 21-25 พฤศจิกายน 2567ณ ลานกิจกรรมชั้น1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่

โดยนำผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน ผลิตภัณฑ์สินค้า OTOPจัดแสดงและจำหน่าย ให้เลือกซื้อมากมายอาทิเช่น ผลิตภัณฑ์ผ้าทอเครื่องแต่งกาย เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีคุณภาพและ ชมการเดินแบบชุดผ้าไทยจากผ้าทอจังหวัดหนองบัวลำภู

สนุกกับมินิคอนเสิร์ต ..• 21 พฤศจิกายน พบกับ “เต้ย จักร์รินทร์”
• 22 พฤศจิกายน พบกับ “วงดนตรีลูกทุ่งร่มแดง โรงเรียนสันกำแพง” ฟังดนตรีโฟล์คซองเพราะๆทุกวัน
พบกับกิจกรรมสาธิตวัสดุจากเศษผ้าพร้อมด้วยกิจกรรม ชอป ลุ้นโชคทุกวันและลุ้นรับทีวีรางวัลใหญ่ในวันสุดท้ายของงาน

ขอเชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมชมและเลือกซื้อสินค้าของดี มีคุณภาพ และเอกลักษณ์ของจังหวัดหนองบัวลำภู
จัดโดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดหนองบัวลำภู แพรพรรณลุ่มภูสู่ลุ่มปิง
#CentralChiangmai