เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เพิ่มสีสันวันตรุษจีน ปีหนูทองมอบอั่งเปาให้แก่ “หนูยักษ์ คาพีบาร่า”

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เพิ่มสีสันวันตรุษจีน ปีหนูทองมอบอั่งเปาให้แก่ “หนูยักษ์ คาพีบาร่า”

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 มกราคม 2563 สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี มอบอั่งเปา “บุฟเฟ่ต์ผลไม้” ให้แก่ “คาพีบาร่า” (capybara) หรือเจ้าหนูยักษ์ เป็นของขวัญต้อนรับเทศกาลตรุษจีน (ปีหนูทอง) พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสความน่ารักของคู่พี่น้องหนูยักษ์ คาพีบาร่า สัตว์ฟันแทะในตระกูลหนูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และชมการแสดงเชิดสิงโตในช่วงเทศกาลวันตรุษจีนนี้

นายอนุชา ดำรงมณี กรรมการบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาพิงคนคร เปิดเผยว่า เนื่องจากไนท์ซาฟารีมีนักท่องเที่ยวชาวจีนให้ความนิยมมาท่องเที่ยวจำนวนมาก ถึงร้อยละ 90 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด ดังนั้นเราจึงให้ความสำคัญกับวันสำคัญของชาวจีนคือ วันตรุษจีน และเพื่อเป็นการฉลองตรุษจีนรับปีชวด หรือปีหนู ซึ่งในปีนี้เป็นปีชวดธาตุทองที่ 60 ปี จะเวียนมา 1 ครั้ง ถือได้ว่าเป็นปีแห่งการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจึงต้อนรับเทศกาลวันตรุษจีน โดยมอบอั่งเปา “บุฟเฟ่ต์ผลไม้” เป็นของขวัญให้แก่ “คาพีบาร่า” (capybara) หรือเจ้าหนูยักษ์ สัตว์ฟันแทะในตระกูลหนูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อันเป็นการแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ ความเพิ่มพูน ความสุข ให้กับตัวแทนของเหล่าสรรพสัตว์ในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยจัดตกแต่งอั่งเปาด้วยผลไม้ที่ชื่นชอบ ประกอบด้วย ต้นข้าวโพด แครอท ใบไผ่ หญ้าแห้ง หญ้าสด ถั่วฝักยาว เป็นต้น พร้อมตกแต่งเป็นถ้อยคำอวยพรในภาษาจีน คำว่า 发财 (ฟา – ฉาย) แปลว่า เจริญขึ้น ดีขึ้น เพื่ออวยพรให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีน และชาวไทยเชื้อสายจีนทุกท่าน และต้อนรับปีหนูทอง 2563 นี้ด้วย

“คาพีบาร่า” (capybara) เป็นหนูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เลี้ยงลูกด้วยนม มีลักษณะเป็นทรงกระบอก หัวขนสีน้ำตาลอ่อนถึงสีดำ หูสั้น ไม่มีหาง มีพังผืดที่เท้าและขาหลัง เท้าหลังมี 3 นิ้ว ในขณะที่เท้าหน้านั้นจะมี 4 นิ้ว ขาหลังจะยาวกว่าขาหน้าเล็กน้อย เมื่อโตเต็มที่อายุ 15 – 18 เดือน จะมีน้ำหนักมากถึง 35 ถึง 66 กิโลกรัม ลำตัวยาวประมาณ 45 – 60 เซนติเมตร คาพีบาร่าเป็นสัตว์กินพืชเป็นส่วนใหญ่ จำพวกหญ้าและพืชน้ำ รวมไปถึงผลไม้และเปลือกไม้ ซึ่งปัจจุบันเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมี “คาพีบาร่า” อาศัยอยู่จำนวน 2 ตัว (เพศผู้ 1 ตัว, เพศเมีย 1 ตัว) อายุ 10 ปี 9 เดือน เป็นคู่พี่น้องที่เกิดจากแม่เดียวกัน และเกิดในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้จัดการแสดงเชิดสิงโต ในเวลา 20.00 น. ซึ่งเชื่อกันว่าใครที่ได้ชมการเชิดสิงโตจะมีโชคลาภ เจริญรุ่งเรือง และเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ในวันที่ 25 มกราคม 2563 พร้อมทั้งร่วมลุ้นรับอั่งเปา เมื่อซื้อบัตรเข้าชมครบ 2,000 บาท ในช่วงเทศกาลวันตรุษจีน ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 25 มกราคม 2563 รวมทั้งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมความน่ารักของคู่พี่น้อง “คาพีบาร่า” หรือเจ้าหนูยักษ์ ได้ในโซนจากัวร์เทล (ทางเดินรอบทะเลสาบ) ผู้ที่สนใจสามารถเที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 22.00 น. หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โทร. 053 – 999000

สสจ.เชียงใหม่ แจ้งสถานการณ์ โรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(2019-nCOV)

สสจ.เชียงใหม่ แจ้งสถานการณ์ โรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(2019-nCOV)ที่ระบาดในเมืองอู่ฮั่น มลฑลหูเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน

เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ดังนี้ องค์การอนามัยโลกได้แถลงว่า ผู้ป่วยยืนยันทั้งหมดสาธารณรัฐประชาชนจีน 217 ราย เสียชีวิต 3 ราย ส่วนสถานการณ์นอกประเทศจีน มีรายงานพบผู้ป่วยยืนยันใน 3 ประเทศ คือ ประเทศญี่ปุ่น 1 ราย ประเทศเกาหลีใต้ 1 ราย และประเทศไทย 2 ราย
สำหรับสถานการณ์ในจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์จตุชัย กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการคัดกรอง 2 ระบบ คือ การคัดกรองด้วยเครื่อง Thermo scan ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ในผู้โดยสารสายการบิน Air China เที่ยวบินตรงอู่ฮั่น-เชียงใหม่ และการคัดกรองที่โรงพยาบาลของรัฐ และเอกชนทุกแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ จากรายงานพบผู้ป่วยที่ต้องสอบสวนโรค (PUI) 5 ราย ผลตรวจ ไม่พบไวรัสโคโรนา 2 ราย อีก 3 รายอยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยัน
รายที่ 1: หญิงไทย อายุ 29 ปี เดินทางไปเที่ยวอู่เซี๊ยะ มาขึ้นเครื่องกลับที่อู่ฮั่น ผลตรวจเป็นไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ B
รายที่ 2: เด็กหญิงจีน อายุ 7 ปี คนเมืองอันหลู่ มานอนที่อู่ฮั่นเพื่อรอขึ้นเครื่องมาเชียงใหม่ ผลตรวจเป็น หลอดลมอักเสบ จากเชื้อไรโนไวรัส
รายที่ 3: หญิงจีน อายุ 23 ปี คนเมืองอู่ฮั่น ไปขึ้นเครื่องที่ฉางชา ลงเชียงราย เที่ยวเชียงราย แล้วขึ้นรถทัวร์มาเชียงใหม่ เบื้องต้นตรวจพบ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A รอผล ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
รายที่ 4: ชายจีน อายุ 28 ปี คนเมืองอู่ฮั่น ขึ้นเครื่องสายการบินคุนหมิง เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2563 เริ่มมีอาการไข้ เจ็บคอ ปวดศีรษะ วันที่ 18 ม.ค. 2563 เข้ารักษาที่ รพ. มหาราช วันที่ 20 ม.ค. 2563 รอผลตรวจยืนยัน


รายล่าสุด รายที่ 5: ชายจีน อายุ 18 ปี คนเมืองอู่ฮั่น ขึ้นเครื่องจากอู่ฮั่นมาลงเชียงใหม่ วันนี้ (21 ม.ค. 2563) เวลา 11.20 น.ตรวจพบไข้ 38.2 จากเครื่อง Thermo scan ที่ด่านควบคุมโรคท่าอากาศยานเชียงใหม่ รับเข้ารักษาที่ รพ.นครพิงค์ รอผลตรวจยืนยัน
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวย้ำว่า ขอให้ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง มั่นใจในระบบการเฝ้าระวังคัดกรอง ป้องกันและควบคุมโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของประเทศไทย และจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะสามารถทำการเฝ้าระวังและคัดกรอง กลุ่มเสี่ยงจากเมืองอู่ฮั่น
ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ทุกคน รวมทั้งการคัดกรองผู้ป่วยที่มีอาการไข้ ร่วมกับมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ และมีประวัติการเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ณ โรงพยาบาลของรัฐ และโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ทุกแห่ง หากพบผู้ป่วยสงสัยจะดำเนินการส่งต่ออย่างปลอดภัย
เพื่อแยกกักผู้ป่วยในห้องแยกกักความดันลบที่โรงพยาบาลนครพิงค์ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ พร้อมส่งตรวจหาเชื้อ และให้การรักษาพยาบาลอย่างมีมาตรฐาน และหากมีสถานการณ์ของโรคเปลี่ยนแปลง
ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ จะทำการแถลงข่าวแจ้งให้ทราบเป็นระยะๆ ต่อไป และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ กลุ่มงานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โทร.053-211048-50 ต่อ 110

อาจารย์ประสิทธิ์ ชูดวง รับรางวัลบุคคลต้นแบบ “เหมราช” ครั้งที่ 4

หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุลเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติความยิ่งใหญ่ให้กับบุคคลต้นแบบ “เหมราช” ครั้งที่ 4 จัดโดย มูลนิธิดินดีน้ำใส แห่งประเทศไทย ณ หอประชุมพุทธวิชชาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2563 เวลา 13.00 น.

สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดงานเพื่อเทิดทูนชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อปกป้องผู้ประกอบคุณงามความดีบำเพ็ญตนเป็นประโยชน์ต่อสังคม สร้างความสัมพันธ์อันดี สร้างความเป็นปึกแผ่น สร้างรากฐานที่มั่นคงในกลุ่มต่าง ๆ เช่น ครอบครัว ชุมชน องค์กร รวมไปถึงสื่อมวลชนทุกแขนง (โทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ให้ทัดเทียมเป็นที่ยอมรับทั่วโลก พร้อมทั้งเป็นการเชิดชูเกียรติประวัติ สร้างความภาคภูมิใจ และสร้างขวัญกำลังใจให้กับ องค์กร บุคคล นักธุรกิจ ศิลปิน ดารา นักร้อง ฯลฯ ให้มีพลังในการสร้างสังคมให้มีคุณภาพ คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ ตระหนักถึงอุดมการณ์ของวิชาชีพ ต่อส่วนรวมต่อไป

ด้านอาจารย์ประสิทธิ์ ชูดวง รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา เชียงใหม่ ได้รับรางวัลด้านวิชาการและพัฒนางานด้านการศึกษา เพื่อนักเรียนนักศึกษาเป็นแบบอย่างที่ดีต่อไป


ทางด้านรางวัลประกอบด้วย 10 สาขา ได้แก่ 1. สาขาผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ 2.สาขาผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา 3.สาขาผู้นำคุณประโยชน์จิตอาสา 4. สาขาผู้ทำคุณประโยชน์อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม 5. สาขาผู้นำด้านบริหารและพัฒนาองค์กร 6. สาขาผู้นำด้านวิชาการและพัฒนางานด้านการศึกษา 7. สาขาผู้นำด้านอนุรักษ์ป่า รักษาสิ่งแวดล้อม 8.สาขาผู้นำด้านพัฒนาและบริหารธุรกิจ 9. สาขาข้าราชการ 10. สาขาสื่อมวลชน

มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ จัดพิธีประสาทปริญญาบัตรครั้งที่ 17

มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ จัดพิธีประสาทปริญญาบัตรครั้งที่ 17 วันอาทิตย์ ที่ 19 มกราคม 2563 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯพิธีประสาทปริญญาบัตรครั้งที่ 17 ประจำปีการศึกษา 2562 มีผู้สำเร็จการศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิต มหาบัณฑิต และบัณฑิต เข้ารับปริญญาจำนวนทั้งสิ้น 574 คน

โดยมีอาจารย์ณรงค์ ชวสินธุ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ เป็นประธานในพิธี และเป็นผู้ประสาทปริญญาบัตรแก่ดุษฎีบัณฑิต มหาบัณฑิตและบัณฑิต แยกเป็นมหาบัณฑิตจำนวน 78 คน คือ ปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาบริหารธุรกิจ 8 คน ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา 32 คน ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาหลักสูตรและการสอน 38 คน และบัณฑิตจำนวน 496 คนคือ ปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า 26 คน

ปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ 7 คน ปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมเครื่องกล 15 คน ปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาเทคโนโลยียานยนต์ 1 คน ปริญญาเทคโนโลยีบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีก่อสร้าง 9 คน ปริญญาเทคโนโลยีบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 4 คน

ปริญญาเทคโนโลยีบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม 7 คน ปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมซอฟต์แวร์) 4 คน ปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต (เทคโนโลยีเครื่องสำอาง) 2 คนการประสาทปริญญาบัตรครั้งนี้มีบัณฑิตได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งรวมทั้งสิ้นจำนวน 33 คน


นอกจากนี้ยังมีผู้เข้ารับปริญญากิตติมศักดิ์จำนวน 3 คนมี Dr.Chad Ruel Allred ศิลปศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการจัดการ ดร.บุญทา ชัยเลิศ ศิลปศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการจัดการการท่องเที่ยวและการบริการ และนายเศรษฐี โชคดั่งน้ำไหล ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์

“ซินดี้”อเล็กซานดร้า แฮงกี่ คว้าตำแหน่งนางสาวเชียงใหม่ ประจำปี 2563พร้อมคว้า 4 ตำแหน่งพ่วง

การจัดประกวดนางสาวเชียงใหม่ ประจำปี 2563 ภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ในงานฤดูหนาวและงานโอทอปของดีเมืองเชียงใหม่ ประจำปี 2563 วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2563 ณ เวทีประกวดนางสาวเชียงใหม่ในงานฤดูหนาวและงานโอทอปของดีเมืองเชียงใหม่ ประจำปี 2563 ท่ามกลางบรรยากาศกองเชียร์แน่นขนัดโดยสาวงามทั้ง20 คนได้ออกมาเดินโชว์โฉมในชุดล้านนา,ชุดว่ายน้ำและชุดราตรี จากนั้นคัดเลือกลงเหลือ 10 คนและ 5 คนตามลำดับท่ามเสียงเชียร์ดังสนั่น

จนกระทั่งเวลา 22.30 น.วันที่ 5 มกราคม.ทางคณะกรรมการประกาศผลการประกวดนางสาวเชียงใหม่ โดยผู้ที่รับตำแหน่งนางสาวเชียงใหม่ประจำปี 2563 ได้แก่น.ส.อเล็กซานดร้า แฮงกี่ ชื่อเล่น ซินดี้ อายุ 20 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่คว้าตำแหน่งพร้อมมงกุฎเพชร และเงินสดจำนวน 100,000 บาทโดยมี หมายเลข 12 น.ส.กัลย์สุดา ชนาคีรี หรือน้องมิมี่ อายุ 21 ปี ม.ราชภัฎเชียงใหม่ รองอันดับ 1,หมายเลข 8 น.ส.พิมพ์ผกา สุวรรณรัตน์ หรือน้องพิมพ์ ได้รองอันดับ 2,หมายเลข 6 น.ส.วชิราภรณ์ นันทวาศ ชื่อเล่นแอปเปิ้ล อายุ 23 ปี ได้รองอัน 3และ น.ส.ชุติกาญจน์ อารีลักษณ์ ชื่อเล่นน้องแพม อายุ 23 ปี ได้รองอันดับ 4

น.ส.อเล็กซานดร้า แฮงกี่ มีพ่อเป็นชาวสวิสเซอร์แลนด์ แม่เป็นคนไทย เดิมอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ย้ายมาอยู่เชียงใหม่ได้ 18 ปี ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาไฟฟ้า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และอนาคตอยากจะเป็นวิศวกรเกี่ยวกับไฟฟ้า ดีใจมากที่ได้ตำแหน่งนางสาวเชียงใหม่จะเผยแพร่ชื่อเสียงของเชียงใหม่ และรณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อมและลดโลกร้อน

สำหรับการประกวดนางสาวเชียงใหม่ ประจำปี 2563 สร้างประวัติศาสตร์ตำนานความงามบนเวทีประกวดที่ยาวนานที่สุด 87 ปี เอื้องงามประกายแห่งล้านนนา ความงามคู่แผ่นดิน ภายใต้แนวคิด “งามสง่าอย่างมีคุณค่า สู่สากล”

ชิงมงกุฎนางสาวเชียงใหม่ประจำปี 2563 เหลือ 20 สาวงาม

ผู้เข้าประกวดนางสาวเชียงใหม่ มาในชุดว่ายน้ำฝ่าฟันสายลมหนาวเวทีใกล้ดอยเข้ารอบ 20 คนสุดท้าย

สุดเข้มข้น 30สาวงามผู้ประกวดนางสาวเชียงใหม่ประจำปี 2563 เดินโชว์โฉมท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นเวทีใกล้ดอยในงานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีเมืองเชียงใหม่ บริเวณหลังศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อชิงชัยเข้ารอบ 20 คนสุดท้าย เข้าไปชิงตำแหน่งนางสาวเชียงใหม่ ประจำปี 2563 พร้อมมงกุฎเพชร พร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท

โดยบรรยากาศของคืนวันที่ 3 มกราคม 2563 สาวงามผู้ประกวดนางสาวเชียงใหม่ทั้ง 30 คนจะต้องเดินโชว์ในชุดไทยล้านนา และชุดว่ายน้ำบนเวทีการประกวด ซึ่งวันนี้เนืองแน่นไปด้วยกองเชียร์ที่แห่กันเข้ามา ซึ่งสาวงามแต่ละคนมาจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งในภาคเหนือและยังเป็นตัวแทนแต่ละอำเภอทำให้มีกองเชียร์แต่ละคนเข้ามาลุ้นกันเพื่อเชียร์ให้เข้ารอบ 20 คนสุดท้าย เพื่อชิงตำแหน่งในรอบตัดสินวันที่ 5 มกราคม. ซึ่งที่ฮือฮามากในชุดว่ายน้ำ ซึ่งแต่ละสาวงามต้องผจญกับความหนาวเย็นของสายลมหนาวที่พัดลงมาจากดอยสุเทพ เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา แต่ในคืนนี้สายลมหนาวดูจะเป็นใจให้กับสาวงาม มิต้องถึงกับสะท้านกาย เพราะอากาศกลับไม่เย็นยะเยือกอย่างที่คิดกังวลกัน ทำให้การเดินโชว์โฉมเป็นไปอย่างงดงามยิ่ง จนกรรมการถึงกับกังวลแทนที่จะต้องคัดสรรสาวงามทั้ง 30 คนให้เหลือ 20 คน


ดร.อดิศร สุดดี ผอ.กองประกวดนางสาวเชียงใหม่ ได้เปิดเผยว่าในปีนี้สาวงามแต่ละคนมีตำแหน่งพ่วงท้ายการันตีความสวยมาจากเวทีต่างๆจนคณะกรรมการต้องดูอย่างละเอียด ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเวที จนสามารถคัดสาวงามเข้ารอบ 20 คนสุดท้าย โดยมี น.ส.อล็กซานดร้า แฮงกี่ อายุ 20 ปี ได้ตำแหน่งขวัญใจประชาชน เป็นตำแหน่งแรก


สำหรับสาวงามทั้ง 20 คนมี น.ส.ธรรมสิริ สบายสูงเนิน อายุ 25 ปี,น.ส.ฉัตรกาญจน์ มาสอง อายุ 23 ปี,วชิรภรณ์ นันทวาศ อายุ 23 ปี ,น.ส.เบญจณัฎฐ์ อักษรศรี อายุ 24 ปี,น.ส.พิมพ์ผกา สุวรรณรัตน์ อายุ 20 ปี ,น.ส.มนัสนันท์ ทลาบุญ อายุ 22 ปี, น.ส.ธิดารัตน์ อ่อนเส็ง อายุ 25 ปี, น.ส.กัลย์สุดา ชนาศิริ อายุ 21 ปี ,น.ส.แพรวนภา ศรีสุชา อายุ 25 ปี,น.ส.อล็กซานดร้า แฮงกี่ อายุ 20 ปี, น.ส.ธนพร สุริยะคำ อายุ 22 ปี,น.ส.เสาวภา ดามิ อายุ 21 ปี ,น.ส.พรทิพา สดใส อายุ 20 ปี ,น.ส.ธัญญารัตน์ จินาดี อายุ 24 ปี ,น.ส.อุมาวดี ปิมปา อายุ 20 ปี,น.ส.มนัสชนก มุ่งหมาย อายุ21 ปี ,น.ส.ชุติกาญจน์ อารีลักษณ์ อายุ 23 ปี ,น.ส.เอมี ลอเร้น ซานเซส อายุ18 ปี,น.ส.ภัทรวดี ไชยเทพ อายุ 20 ปี ,น.ส.ณัณณชา ณัฐปภานนท์ อายุ 24 ปีทั้งหมดจะเดินรอบสุดท้ายเพื่อคว้าตำแหน่งนางสาวเชียงใหม่ ประจำปี 2563 ในคืนวันที่ 5 มกราคม.เวลาประมาณ 22.30 น.รู้ผล

“ซากุระเมืองไทย”พญาเสือโคร่งบานสะพรั่งกลางดอยอินทนนท์

“ซากุระเมืองไทย”พญาเสือโคร่งบานสะพรั่งกลางดอยอินทนนท์

(ภาพอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์)

หน่วยพิทักษ์​อุทยานแห่งชาติ​ดอยอินทนนท์​ (อน.7)​ ดอยผาตั้งค่ะ ห่างจากที่ทำการ 6 กิโลเมตร ดอกพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งกลางดอย ภายในอุทยานแห่งชาติ​ดอยอินทนนท์​ นักท่องเที่ยวแห่ชมความงดงาม พร้อมกับบรรยากาศที่หนาวเย็นและพืชพรรณไม้งดงามตายิ่งนัก

(ภาพอุทยานดอยสุเทพ-ปุย)
นอกจากนี้ที่ลานกางเต็นท์ดอยปุย อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เช้านี้อุณหภูมิ 16 องศา ดอกนางพญาเสือโคร่งเริ่มบานทั่วลาาน มีนักท่องเที่ยวมากางเต็นท์และมาสัมผัสบรรยากาศหนาวและความสวยงามนี้ได้

ผู้ว่าฯเชียงใหม่ร่วม ผบช.ภ.5 ตรวจเส้นทางท่องเที่ยวพบ ดอยคำ ม่อนแจ่ม ดอยสุเทพแน่น

ผู้ว่าฯเชียงใหม่ร่วม ผบช.ภ.5 ตรวจเส้นทางท่องเที่ยวพบ ดอยคำ ม่อนแจ่ม ดอยสุเทพแน่น

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 30 ธ.ค.นี้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.เชียงใหม่ ได้ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวของเชียงใหม่ โดยพบว่าสถานที่นักท่องเที่ยวหนาแน่นมากจนการจราจรแออัดเป็นเส้นทางขึ้นสู่วัดพระธาตุดอยคำ ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

โดยพบรถติดยาวตั้งแต่ด้านล่าง และรองลงมาเป็นเส้นทางขึ้นสู่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ที่มีจำนวนรถเต็มความจุของลานจอดและทางขึ้น และสถานที่อีกแห่งเส้นทางขึ้นสู่ม่อนแจ่ม ที่มีปริมาณรถมากจนติดยาวตั้งแต่เส้นทางสายแม่ริมสะเมิง รถเคลื่อนไปอย่างช้าๆพร้อมกันนี้ได้มีการตรวจด่านบริการประชาชนตามจุดต่างๆรวมทั้งด่านสกัดกั้นยาเสพติดให้เป็นไปด้วยความเข้มข้น

พลตำรวจโท ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่าหลังจากมีการขึ้นบินสำรวจแล้วพบว่า เส้นทางปกติไม่หนาแน่น ส่วนการจราจรที่หนาแน่นนั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวทั้งวัดพระธาตุดอยคำและวัดพระธาตุดอยสุเทพรวมไปถึงม่อนแจ่มซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตหลังจากนี้ทางตำรวจก็จะนำข้อมูลจากการสำรวจมาปรับเปลี่ยนวิธีการจราจรในการทำงาน ยังเช่นม่อนแจ่มก็จะมีการให้รถวิ่งแบบวันเวย์เพื่อป้ องกันปัญหารถติดและจุดอื่นๆก็จะมีการจุดระเบียบระบายรถจำกัดการขึ้นเพื่อปแก้ปัญหารถติดและลดการเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ส่วนการป้องกันปราบปรามยาเสพติดในช่วงเทศกาลปีใหม่นั้นได้มีการป้องกันและปราบปรามควบคู่ไปด้วยมีชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวังตลอดถ้าหากพบมีรถต้องสงสัยหรือเป้าหมายที่ชัดเจนก็จะดำเนินการเข้าตรวจสอบทันที

ด้านนายเจริญฤทธิ์ สวงนสัตว์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า อากาศที่หนาวเย็นอย่างต่อเนื่องส่งผลทำให้ปีนี้นักท่องเที่ยวเยอะกว่าปีที่ผ่านมาทางจังหวัดจึงได้บูรณการกับทุกฝ่ายในการตั้งด่านและในปีนี้ที่สำคัญมีจิตอาสาพระราชทานเข้ามาร่วมในจุดตรวจ 2000 กว่าจุด เชื่อว่าจะดูแลนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวได้อย่างคลอบคลุมแต่จากการสังเกตพบว่าในพื้นที่จังหวัดเชียใหม่นั้นพบว่าเป็นคนในพื้นที่ๆที่ประสบอุบัติเหตุ ดังนั้นจึงขอความร่วมมือด่านครอบครัวด่านหมู่บ้านถ้าหากพบคนภายในครอบครัวเมาก็อาจจะดึงสติไม่ให้ขับรถไม่ให้ออกนอกถนนซึ่งก็จะถือว่าเป็นการช่วยลดอุบัติเหตุและความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น

ตื่นตาตื่นใจนักท่องเที่ยวยิ่งนักลูกเห็บตกบนห้วยน้ำดังขาวราวหิมะถึง 2 ครั้ง

ตื่นตาตื่นใจนักท่องเที่ยวยิ่งนักลูกเห็บตกบนห้วยน้ำดังขาวราวหิมะถึง 2 ครั้ง

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 29 ธ.ค.นี้ นายบัญชา รามศิริหัวหน้าอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ได้เผยว่าเวลาประมาณ 02.00 – 04.00 น. เมื่อคืนนี้ ได้เกิดฝนตกฟ้าคะนองและมีลูกเห็บตกหนักมาก ที่บริเวณจุดชมวิวดอยกิ่วลม และลานกางเต็นท์ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

จากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้น พบว่าไม้ดอกไม้ประดับที่กำลังเบ่งบานรอรับนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ บริเวณจุดชมวิวดอยกิ่วลมได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ส่วนเจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยวยังไม่พบว่ามีคนได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้แต่อย่างใด

ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายของเต็นท์ อุปกรณ์ อาคารสิ่งปลูกสร้าง ยานพาหนะและอื่นๆ นับว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงฤดูหนาว สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างมาก

ซึ่งตอนนี้บรรยากาศบนดอยท้องฟ้ายังมืดครึ้ม คาดว่ายังจะมีฝนตกอยู่ ขอให้นักท่องเที่ยวเดินทางด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะถนนสาย 1095 แม่มาลัย-ปาย


ต่อมาเมื่อเวลา 16.55 – 17.10 น. วันที่ 29 ธันวามคม ที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ได้เกิดอากาศยังแปรปรวน เกิดฝนฟ้าคะนองและมีลูกเห็บตกอย่างหนัก เป็นครั้งที่ 2

ทางนายบัญชา รามศิริ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้รายงานว่าเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2562 เวลา 16.55 – 17.10 น. ที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง อากาศยังแปรปรวน เกิดฝนฟ้าคะนองและมีลูกเห็บตกอย่างหนัก เป็นครั้งที่ 2 ในรอบหนึ่งวัน

ตั้งแต่ถนนทางเข้าอุทยานฯ ด่านเก็บค่าบริการเข้าอุทยานฯ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ลานกางเต็นท์ และบริเวณจุดชมวิวดอยกิ่วลม อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังกวาดลูกเห็บออกจากถนน เนื่องจากถนนลื่นมาก ทำให้รถติดช่วง 3 กม.ก่อนถึงจุดชมวิวดอยกิ่วลม

จากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้นยังไม่พบความเสียหายหรือเกิดอุบัติเหตุในอุทยานฯแต่อย่างใด ขณะนี้ยังคงมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาท่องเที่ยวสัมผัสอากาศหนาวและพบกับปรากฏการณ์ลูกเห็บตกเป็นบริเวณกว้างอีกครั้งในตอนเย็น

จึงได้ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวที่มากางเต็นท์พักแรมในอุทยานแห่งชาติ ดูแลสุขภาพด้วยหากมีคนเจ็บป่วยหรือต้องการความช่วยเหลือ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการการบริการและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ที่ลานกางเต็นท์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
(ขอขอบคุณภาพจากอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง)

ครูบาน้อยให้พรปีใหม่ 2563 ให้ใช้สติคิดดีทำดี สู่ดี

เนื่องในวาระดิถีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พระครูสิริศิลสังวรณ์ หรือ ครูบาน้อย เตชปัญโญ เกจิอาจารย์ล้านนา เจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ใด้เมตตาให้พรบรรดาศิษยานุศิษย์เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา

โดยในปีนี้ ครูบาน้อยได้ให้พรส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ “เจริญสุข เจริญพร ญาติโยมทุกคนทุกท่าน ในโอกาสไม่กี่วันข้างหน้านี้ เราท่านทั้งหลาย ก็จะได้ส่งท้ายซึ่งวันเก่า เดือนเก่า ปีเก่าก็จะได้ล่วงล้นพ้นผ่านไปแล้ว จงตั้งสติดีๆ เพื่อจะเป็นการส่งสิ่งที่หรุ่มร้อนวุ่นวายนานาต่างๆให้มันกลับไหลไปตามวัน เดือน ปีเก่าที่จะล่วงล้นพ้นไป ต่อไปอีกไม่กี่วันเราก็จะได้รับเอาซึ่งวันใหม่เดือนใหม่ ปีใหม่ การส่งท้ายของเก่าออกไปนั้นให้สำรวมกายวาจาใจให้ดี อดีตที่ผ่านมาก็ขอให้พ้นจากภัยไกลจากทุกข์ พ้นจากสรรพทุกข์ สรรพโศก สรรพโรค สรรพภัย สะปะเสนียดจังไรทั้งปวงทั้งหลายเช่น โลภะ โมหะ โทสะ ความอิจฉาริษยา ความรักและความชัง ทั้งมวลทั้งหลายให้มันไหลไปตามแม่น้ำคงคา มหาสมุทรสาคร หนักให้เป็นเบา ร้อนให้เป็นเย็น มืดให้สว่าง ขุ่นมัวให้ได้แจ่มใส โอกาสต่อไปให้คลี่ไปได้ด้วยดี แล้ววันที่ 1 มกราคม ที่จะเกิดขึ้นมีขึ้นให้มีความตั้งอกตั้งใจให้มีสติทุกเมื่อ ให้มีสติเป็นที่ตั้ง มีสติเป็นที่มั่นหมาย ทุกอริยบทการยืนการเดินการนั่ง การนอนก็ต้องอาศัยสติเป็นหลัก ทุกอริยบท คิดก่อนคิด คิดก่อนทำ อย่าทำแล้วคิด คิดก่อนคิด คิดก่อนพูดอย่าพูดแล้วคิด เราคิดดีก็ต้องสู่ดี ซึ่งในวันให่ เดือนใหม่ ปีใหม่ เกิดขึ้นมีขึ้นตั้งสติดีๆเมื่อสติเกิดขึ้น จิตเป็นหนึ่งกายเป็นสอง เมื่อเราตั้งอกตั้งใจดีๆแล้วเมื่อเกิดสติขึ้นจะตั้งอกตั้งใจกอบกิจใดๆคล้องจองถูกต้องก็จะทำให้เกิดความโปร่งใสเกิดขึ้น เมื่อจิตเกิดขึ้นจิตเป็นหนึ่งกายเป็นสอง จิตตั้งแล้วปัญญาเกิด เมื่อปัญญาเกิดก็จะทำให้เกิดความสว่างขึ้น ศิลเป็นที่ตั้งศิลเกิดสมาธิเกิด ปัญญาเกิด คิดดีเพื่อดี คิดดีสู่ดี ของจริงทำจริงสู่จริงของดีทำดีสู่ดี ทำดีเพื่อดี ทำดีสู่ดี มันเกิดคุณค่า ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน ผลของงานอยู่ที่การกระทำ คุณค่าและราคาตามมนุษย์เราก็ทำ ครั้นเมื่อเราตั้งอกตั้งใจก่อกิจที่ถูกต้องคล้องจองจะทำให้เกิดความสบาย เกิดความร่มเย็นเป็นสุข เกิดความเจริญก้าวหน้า ทุกวันในโลกนี้อยู่เป็นคู่ๆมีลาภหนึ่งไม่มีลาภหนึ่ง มียศหนึ่งไม่มียศหนึ่ง นินทาหนึ่ง สรรเสริญหนึ่ง สุขหนึ่งทุกข์หนึ่งดังนั้นจึงต้องตั้งออกตั้งใจ สิ่งไหนดีก็ต้องตั้งใจเอาสิ่งนั้น สิ่งไม่เข้าท่าก็พยายามหลีกเลี่ยง หลีกเว้น เพื่อหนักจะได้เป็นเบา ร้อนได้เป็นเย็น มืดได้สว่าง ขุ่นได้เป็นใส ดังนั้นในโอกาสขึ้นปีใหม่จึงขอให้ทุกๆท่านพ้นจากภัยไกลจากทุกข์พ้นจากสรรพทุกข์ สรรพโศก สรรพโรค สรรพภัย สะป๊ะเสนียดจังไรทั้งปวงทั้งหลายจนห่างหายคลี่คลายไปในทางที่ดี ขอให้ทุกท่านจงเจริญด้วยยศสรรเสริญคิดเงินให้ได้เงิน คิดทองให้ได้ทองคิดการงานขอให้สำเร็จผล การเงินการงานการข้าวการของสมปรารถนา การค้าการขายสมปรารถนา การกอบกิจที่ดีสมปรารถนา จงโชคดี โชคดีตลอดปี 2563
ที่จะถึงนี้้เพื่อจะได้ตั้งอกตั้งใจดีๆเพื่อให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข เจริญด้วยลาภยศสรรเสริญทั่วถึงถึงทั่วได้ทั้งทรัพย์ภายนอกและทรัพย์ภายใน จงโชคดีมีโชค มีความเย็นกายเย็นจิตไปตลอดไป