PEA ร่วมกับเทศบาลนครเชัยงใหม่ เปิดนครเชียงใหม่ เมืองสวย ไร้สาย @พระปกเกล้า then, the old Town

PEA ร่วมกับเทศบาลนครเชัยงใหม่ เปิดนครเชียงใหม่ เมืองสวย ไร้สาย @พระปกเกล้า then, the old Town

วันที่ 25 ธันวาคม 2562 เวลา 18.30 น. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 1 ภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่ ประกอบพิธีเปิด “นครเชียงใหม่ เมืองสวยไร้สาย @พระปกเกล้า then, the old Town”

โดยมี นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด โดยมี นายประพันธ์ สีนวล ผู้อำนวยการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 1 (ภาคเหนือ) จังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้กล่าวรายงาน และได้รับเกียรติจาก นายธีรพงษ์ บุรีรักษ์รองผู้ว่าการ การไฟฟ้าภาค 1 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นายชีวิน พัฒนคูหะ รองผู้ว่าการธุรกิจ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานด้านสื่อสาร โทรคมนาคม ต่างๆ ในพื้นที่ร่วมพิธี ณพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

“นครเชียงใหม่ เมืองสวย ไร้สาย @พระปกเกล้า then, the old Town” เป็นความร่วมมือกันระหว่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกับเทศบาลนครเชียงใหม่ ดำเนินโครงการจัดระบบสาธารณะใต้ดินเพื่อพัฒนานครเชียงใหม่ บริเวณถนนพระปกเกล้า เส้นทางตั้งแต่ประตูช้างเผือก ถึง ประตูเชียงใหม่ โดยรื้อถอนเสาไฟฟ้าออกจากเส้นทางจำนวน 108 ต้น รวมทั้งการรื้อถอนสายไฟฟ้าและสายสื่อสาร ออกจากเส้นทาง รวมระยะทางรวม 2 กิโลเมตร

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคใช้งบประมาณดำเนินการทั้งสิ้น 180 ล้านบาท ประกอบด้วยงบประมาณในการปรับปรุงระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำนวน 44 ล้านบาทและงบประมาณในการวางท่อร้อยสายระบบสื่อสาร ของผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 99 ล้านบาทและงบประมาณในการปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคของของเทศบาลนครเชียงใหม่ อาทิ ระบบแสงสว่าง และการปรับปรุงทางเท้า 37 ล้านบาท โดย PEA เป็นผู้รับผิดชอบ ในการออกแบบ ดำเนินการก่อสร้าง ร่วมกับ เทศบาลนครเชียงใหม่ และบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมที่พาดสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าของ PEA เช่น บริษัท ทีโอที จำกัด มหาชน (TOT) ,บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด มหาชน (CAT) , บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน (TRUE) , บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด มหาชน (DTAC) และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด มหาชน (AIS) โดยปัจจุบัน PEA กำลังดำเนินการโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าในเมืองใหญ่ บริเวณถนนโดยรอบคูเมือง และ ถนนสายหลักรอบคูเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเส้นทางสายวัฒนธรรม และโบราณสถานที่สำคัญ เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ ให้นครเชียงใหม่ เป็นเมืองปลอดสาย ไร้เสาไฟฟ้า มีความปลอดภัย และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วย

 

“เซ็นทรัล…ปลุกกระแส 3 ล้อถีบ ชูวัฒนธรรมเชียงใหม่

“เซ็นทรัล…ปลุกกระแส 3 ล้อถีบ ชูวัฒนธรรมเชียงใหม่ สร้างปรากฏการณ์เดินทางด้วย 3 ล้อ กลับมาเป็นวีถีชีวิตในชุมชน ส่งเสริมการท่องเที่ยวเอาใจลูกค้ายุค 5.0”

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ และสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ เปิดโครงการ “เชียงใหม่ 3 ล้อถีบ : One Day Trip” ต้อนรับเทศกาลการท่องเที่ยวภาคเหนือ เที่ยวเชียงใหม่ต้องไปแบบโลคอล ร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สืบสานวิถีล้านนาดั้งเดิม สร้างรายได้ของคนในชุมชน และรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวเข้าใจถึงวัฒนธรรมอันดีงามของจังหวัดเชียงใหม่

ชวนชาวเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยว ร่วมสัมผัสบรรยากาศวิถีวัฒนธรรมท้องถิ่นล้านนากับการนั่งสามล้อถีบสุดคลาสิก ตามรอยคนวิถีล้านนาโบราณ เยี่ยมชมบรรยากาศสองข้างทางในชุมชนช่างศิลป์วัวลาย เข้าวัด ทำบุญ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ วัดศรีสุพรรณ วัดหมื่นสาร วัดนันทาราม เป็นต้น เยี่ยมชมหมู่บ้านเครื่องเงินอันเก่าแก่มีชื่อเสียง เเละได้ร่วมเปิดประสบการณ์ในการทำเครื่องเงินด้วยตนเองอีกด้วย

โครงการนี้ นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการได้ 2 เส้นทางดังนี้
1. เส้นทางจากศูนย์การค้าฯ ไปสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ราคา 69 บาท
2. เส้นทางจากศูนย์การค้าฯ ไปตามรอยวิถีชุมชนคนวัวลาย ราคา 399 บาท
พิเศษ เฉพาะวันที่ 24 ธันวาคม 2562 – 20 มกราคม 2563 ให้บริการฟรี!
หมายเหตุ จำกัดจำนวนสิทธิ์ต่อวัน

สามารถสอบถามเพิ่มเติม และรับบริการได้ที่ เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 โซนนอร์ทเทิร์น วิลเลจ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต หรือ โทร.053-999-199 ต่อ 0 หรือ 1026

สำหรับพิธีเปิด “โครงการเชียงใหม่ 3 ล้อถีบ : One Day Trip” ได้รับเกียรติจาก คุณอรชร จันทร์วิวัฒนา ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มงานปฎิบัติการสาขาเขตภาคเหนือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน), คุณภัคนันท์ วินิจชัย ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่, คุณปริษา ปานพรหม ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่, คุณธนัชชพร พงษ์เย็น ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และคุณนฤมล สิทธิวัง นางสาวเชียงใหม่ 2562 และ Top 20 Miss Universe Thailand ร่วมงาน ณ บริเวณลานน้ำพุโขลงช้าง หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีโชว์ผลงานผลงานการประกวดประติมากรรมหุ่นสัตว์ซาฟารีจากวัสดุธรรมชาติ

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมอบของขวัญให้นักท่องเที่ยว เปิดตัวนิทรรศการ ต้อนรับเทศกาลปีใหม่

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2562 สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี มอบของขวัญให้นักท่องเที่ยว เปิดนิทรรศการประติมากรรมหุ่นสัตว์จากวัสดุธรรมชาติ กว่า 10 รูปแบบ ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมชมนิทรรศการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยได้รับเกียรติจาก นายวิรุฬ พรรณทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงาน

นายอนุชา ดำรงมณี กรรมการบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้จะถึงนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้มอบของขวัญให้แก่นักท่องเที่ยว พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมชมนิทรรศการประติมากรรมหุ่นสัตว์จากวัสดุธรรมชาติ กว่า 10 รูปแบบ ที่เป็นผลงานการประกวดประติมากรรมหุ่นสัตว์ซาฟารีจากวัสดุธรรมชาติ จากนักเรียน นักศึกษา และประชาชนจากทั่วประเทศ

ซึ่งเป็นผลงานที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติหลากหลายรูปแบบ อาทิ ขี้เลื่อย ใบไม้ ฟางข้าว หญ้า ไม้ไผ่ เชือกปอ วัสดุทางการเกษตร ถุงปูน กระสอบป่าน เปลือกไม้ และธัญพืช เป็นต้น ซึ่งเริ่มการประกวดและประดิษฐ์หุ่นฯ ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยประติมากรรมหุ่นทั้ง 10 รูปแบบ ประกอบด้วย เฟนเนกฟอกซ์ พญาอินทรีย์ ม้าลาย ช้าง สิงโต หมี Hug me ไลออนคิง เต่า เป็นต้น

ซึ่งแต่ละรูปแบบสื่อสารผ่านนิทรรศการ เล่าถึงแนวคิดในการออกแบบ และวัสดุที่ใช้ เพื่อถ่ายทอดให้ผู้เข้าชมนิทรรศการได้รับรู้และตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ประโยชน์จากวัสดุธรรมชาติ เกิดความรักความหวงแหนในการร่วมกันรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ซึ่งโครงการนี้ฯ จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสและส่งเสริมนักเรียน นักศึกษา และประชาชน ได้แสดงความสามารถและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวภาครัฐของประเทศไทยที่รองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

สำหรับการประกวดประติมากรรมหุ่นสัตว์ซาฟารีจากวัสดุธรรมชาติ ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและเอกชน ในการร่วมตัดสินผลงานของผู้ประกวด ดังนี้ รางวัลชนะเลิศ ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท ได้แก่ ทีม ART EDUCATION 101 ชื่อผลงาน หมี Hug Me จากจังหวัดร้อยเอ็ด รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท ได้แก่ ทีมไอ้มดแดง ซุปเปอร์ชาเรนเจอร์ ชื่อผลงาน สิงโต จากจังหวัดเชียงใหม่ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 10,000 บาท ได้แก่ ทีมเมาคลีลูกหมาป่า ชื่อผลงาน Slow Life จากจังหวัดเชียงใหม่ และรางวัลชมเชย ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 5,000 บาท จำนวน 7 รางวัล

ทั้งนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเปิดให้เข้าชมนิทรรศการประติมากรรมหุ่นสัตว์จากวัสดุธรรมชาติ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป ผู้ที่สนในสามารถร่วมชมนิทรรศการและเก็บภาพประทับใจกับหุ่นซาฟารีฯ กว่า 10 รูปแบบ ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 22.00 น.สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โทร. 053 – 999000 หรือ Facebook : เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี หรือ Line OA: nightsafari

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะเดินทางมาเยี่ยมชมสวนสัตว์เชียงใหม่

วันที่ 22 ธ.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะเดินทางมาเยี่ยมชมสวนสัตว์เชียงใหม่ โดยมีนายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์ เชียงใหม่ ให้การต้อนรับและนำเยี่ยมชม ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่

นายวราวุธ ศิลปอาชา ทำพิธีได้มอบถุงผ้า “รักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม”ให้แก่คณะนักเรียน และเยี่ยมแพนด้าหลินฮุ่ย จากนั้นให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ซึ่งทางผู้สื่อข่าวได้ถามถึงเรื่องสำนักวิจัยซุปเปอร์โพล เผยผลสำรวจ เรื่อง จัดอันดับรัฐมนตรี วัดคนอนาคตใหม่จาก 1,010 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 16-20 ธ.ค.

โดยสอบถามถึงรัฐมนตรีที่ใจดี เรียบง่าย ไม่มีพิษ ไม่มีภัย ทำงานเก่ง มุ่งช่วยเหลือเกษตรกร ผู้มีรายได้น้อย พบว่าอันดับที่ 1 ได้แก่ นายวราวุธ ศิลปอาชา ร้อยละ 23.1 เรื่องนี้มีความรู้อย่างไร นายวราวุธตอบว่าใจดีเพราะแจกถงผ้าเยอะที่สุดในกระบวน ครม.ไม่มีใครแจกเยอะเท่าตน แต่จริงๆแล้วได้ผลสำรวจนี้มาต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความไว้วางใจตนและพรรคชาติพัฒนาได้มีดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บวกกับที่สำคัญที่สุดการทำงานกว่า 5 เดือนที่ผ่านมานั้นตนเองทำงานคนเดียวคงไม่ได้

กระทรวงวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนได้โดยบุคคลที่ยืนอยู่เคียงข้างตนทั้งปลัดฯ รองปลัดฯและอธิบดีทุกกรม และเจ้าหน้าที่อีกนับหมื่นชีวิตที่ช่วยกันทำงานจนกระทรวงทรัพยากรฯทำงานเป็นทีประจักษ์มาทั้ง 5 เดือนเท่านั้น เมื่อมีผลออกมาเช่นนี้ต้องขอกราบขอบพระคุณพี่น้องประชาชนทุกๆท่านให้ความไว้วางใจที่ได้เห็นการทำงานของพวกเราขอย้ำว่าที่ได้อันดับที่ 1 มาไม่ได้ทำงานด้วยตัวคนเดียว แต่อันดับ1ในที่นี้ขอยกให้กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทีมงานผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกๆคนโดยเฉพาะท่านนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี

นายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวอวยพรปีใหม่ว่าเนื่องในวันปีใหม่ที่จะมาถึงในเร็ววันนี้ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวไทยทุกคนในการที่จะมีกำลังใจกำลังกายกำลังทรัพย์ในการที่จะทำงานแก้ไขปัญหาตลอดปี 2563 เรื่องอะไรที่ไม่ดีคนไทยทุกคนก็จะสามารถร่วมแรงร่วมใจกันผ่านพ้นไปให้ได้ เรื่องอะไรที่ดีอยู่แล้วก็มาช่วยทำให้ประเทศเรามีชื่อเสียงก้าวหน้าไปมากกว่านี้และที่สำคัญขอให้ทุกๆคนมีสุขภาพกายและใจที่สมบูรณ์แข็งแรงและทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เปิดที่ทำการทุกแห่งให้พี่น้องไปบริการได้เต็มที่ในช่วงปีใหม่นี้

อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เปิดสวนทิวลิปหลากสีสันงดงามตระการตา

อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่เปิดสวน“ดอกทิวลิป” หลากสีสันที่กำลังบานสะพรั่งอวดโฉมให้นักท่องเที่ยวได้ชมเต็มเรือนไม้ดอกมีให้ชมยาวถึง 10 ม.ค.63 และยังมีพรรณไม้ที่หาชมได้ยากอย่าง “ดอกลูพิน” หลากสีทั้งสีชมพู สีเหลือง สีม่วง สีขาว รวมทั้งคาลล่าลิลลี่…นับว่าเป็นดอกไม้ไฮไลท์ในช่วงนี้ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด


สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมงานในช่วงนี้ก็จะได้ชมความสวยงามของทุ่งไม้ดอกเมืองหนาวนานาพรรณหลากสีสัน อาทิ ซัลเวีย ไซคลาเมน เจอราเนียม บีโกเนีย พีทูเนีย ฯลฯ จากมูลนิธิโครงการหลวง และโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงที่ตอนนี้ได้บานสะพรั่งเต็มสวน

รวมทั้งกล้วยไม้ทั้งพันธุ์แท้และพันธุ์ลูกผสมที่พร้อมใจบานสะพรั่งให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความงามกันแบบจุใจ เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมสานรักษ์ผูกพันกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมวัฒนธรรม กิจกรรมเรียนรู้วิชาภูมิปัญญาด้านหัตถกรรม (สานปลาตะเพียน)

กิจกรรมเรียนรู้วิชาภูมิปัญญาด้านอาหารและขนม โดยใช้วัตถุดิบจากพืชสมุนไพรพื้นบ้านมาทำเป็นเมนูอาหารและขนมชื่อดังของภาคเหนือ กิจกรรมสานรักษ์ตามสวนจากหน่วยงานภาคี และตลาดนัดชาวดอยทุกวันเสาร์ที่ได้ขนของดีจากยอดดอยสูง องุ่น สตรอเบอรี่ เคพกูสเบอรี่ ที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อไปเป็นของฝากได้ด้วย//

กองทัพบกมอบผ้าห่มกันหนาวเด็กนักเรียนบนดอยสูงสบเมย

กองทัพบกช่วยเหลือประชาชน ลงพื้นที่ มอบผ้าห่มกันหนาวเพื่อเป็นการบรรเทาภัยจากสภาพอากาศหนาวเย็น ให้กับคณะครูและนักเรียน โรงเรียนล่องแพวิทยา อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน


เมื่อ 16 ธ.ค.62 เวลา 11.30 พลตรีสืบสกุล บัวระวงศ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 เป็นผู้แทน แม่ทัพภาคที่ 3 ในนามกองทัพบก ดำเนินกิจกรรมมอบผ้าห่มกันหนาวเพื่อเป็นการบรรเทาภัยจากสภาพอากาศหนาวเย็น ให้กับคณะครู , นักเรียน ประชาชนในพื้นที่ และ กำลังพลจากกรมทหารพรานที่ 36 จำนวน 850 ผืน ณ โรงเรียนล่องแพวิทยา บ.สบโขง ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน

พร้อมทั้งแสดงความห่วงใยของกองทัพบกที่มีต่อพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากภัยหนาวและให้แนวทางการเรียนของเด็กนักเรียนภายใต้ข้อคิด “เป็นคนดี ตั้งใจเรียน และห่างไกลยาเสพติด”


โรงเรียนล่องแพวิทยาได้ประสานขอรับการช่วยเหลือด้านภัยหนาวกับกองทัพบก ซึ่งกองทัพบกพร้อมให้ความช่วยเหลือกับประชาชน จึงสั่งการให้ กองทัพภาคที่ 3 ดำเนินการมอบผ้าห่มกันหนาวเพื่อบรรเทาภัยจากสภาพอากาศหนาวเย็น โรงเรียนล่องแพวิทยา ตั้งอยู่ในพื้นที่หุบเขาสูงชัน ห่างจากที่ว่าอำเภอ สบเมย 50 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 2 – 3 ชั่วโมง

เนื่องจากเส้นทางเป็นถนนลูกรัง โดยเฉพาะฤดูฝนเส้นทางสัญจรยากลำบากเพราะสภาพถนนเป็นดินโคลน ถนนลื่น โรงเรียนล่องแพวิทยาได้ให้บริการจัดการศึกษาเขตรอยต่อของ 3 จังหวัด คือ จ.แม่ฮ่องสอน , จ.เชียงใหม่ และ จ.ตาก จำนวน 22 หมู่บ้าน โรงเรียนล่องแพวิทยา ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2527

อยู่ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นที่ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ปัจจุปันเปิดการสอนระดับชั้นอนุบาล 1 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีนักเรียนทั้งหมด 743 คน เป็นนักเรียนประจำ 447 คน

อุณหภูมิเชียงใหม่ลดฮวบฮาบ ช้างหนาวสั่นต้องก่อกองไฟและทำผ้าห่มให้ช้างชรา 14 เชือก

อุณหภูมิเชียงใหม่ลดฮวบฮาบ ช้างหนาวสั่นต้องก่อกองไฟและทำผ้าห่มให้ช้างชรา 14 เชือก

อากาศหนาวเยือนภาคเหนือ อุณหภูมิลดลงอย่างฮวบฮาบ เมื่อเช้าวันที่ 4 ธ.ค.นี้ทางศูนย์อภบาลช้างแม่สา ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่มีช้างชราอายุระหว่าง 50-80 ปี จำนวน 14 เชือก พากันยืนขาสั่นระริก

ทาง นางอัญชลี กัลมาพิจิตร กรรมการผู้ใหญ่จัดใหญ่ปางช้างแม่สา พร้อมทั้ง นายสัตวแพทย์ รณชิต รุ่งศรี ได้ให้ทางควาญช้างเร่งก่อกองไฟเพื่อให้ช้างได้ทำการผิงสร้างความอบอุ่นและยังเร่งทำผ้าห่มช้างคลุมให้ช้างชรา พร้อมนำเข้าโรงช้างเพื่อหลบอากาศหนาวยามช้าง รอจนแดดออกจึงนำช้างออกมาผิงแดดเพื่อบรรเทาความหนาว

นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ได้เผยว่าการสร้างความอบอุ่นให้ช้างชรา หรือโครงการ We care วันแรก ด้วยการทำผ้าห่มให้ช้าง กลุ่มแรกคือช้างชรา เนื่องจากอุณหภูมิได้ลดลงอย่างรวดเร็ว ช้างบางเชือกมีอาการหนาวสั่น ขอขอบคุณควาญช้าง และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ช้างเราได้ผ้าห่มไปคลุมตัวบ้างแล้ว ถึงจะยังไม่เต็มร้อยกับอุปกรณ์ แต่ช้างจะไม่หนาวอีกต่อไปทำผ้าห่มให้ช้างชราอายุระหว่าง 50-80 ปี จำนวน 14 เชือก


นอกจากนี้ก็ยังเร่งทำให้กับกลุ่มช้างแม่ลูกอ่อนอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนช้างเชือกอื่นก็ให้มีการก่อกองไฟสร้างความอบอุ่นในช่วงกลางคืนและช่วงช้าง


นายสัตวแพทย์ รณชิต รุ่งศรี สัตวแพทย์ประจำปางช้างแม่สา ได้เผยว่าช้างที่ต้องทนกับสภาพอากาศหนาวเป็นช้างชราได้รับผลกระทบชัดเจนจากอากาศที่เปลี่ยงแปลงอย่างรวดเร็วจะเห็นได้ชัดว่ามีอาการสั่นการทำงานของร่างกายจะเชื่องช้าลง ดังนั้นการป้องกันเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะอุณหภูมิในตอนเช้าบนดอยต่ำกว่า 10 องศาแน่

 

ทางเราจึงต้องเตรียมผ้าห่มกันหนาวให้ในช่วงกลางคืนและเช้า และต้องก่อกองไฟเพื่อสร้างความอบอุ่นให้อีกทางหนึ่ง ปกติในตอนเย็นจะให้ไปอยู่ในป่า แต่จากอากาศที่หนาวเย็นจึงต้องให้มาอยู่ในชายคา ลมโกรกน้อยทำให้ช้างมีความอบอุ่นจนกว่าจะหมดหนาวซึ่งการดูให้ความอบอุ่นช้างทำให้สามารถผ่านวิกฤตหนาวไปได้ ซึ่งช้างชราอาจจะล้มแล้วไม่ลุกในช่วงหนาวจึงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิต ตนเองเคยเป็นช้างที่ล้มแล้วไม่ลุกขึ้นมาในช่วงหนาวนี้มาแล้ว 4-5 เชือกดังนั้นจึงต้องเฝ้าระวังให้ดี

สวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดสวนมินิซูแห่งใหม่ต้อนรับฤดูหนาวและส่งเสริมการท่องเที่ยวปีใหม่

สวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดสวนมินิซูแห่งใหม่ต้อนรับฤดูหนาวและส่งเสริมการท่องเที่ยวปีใหม่

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 4 ธ.ค. 62 ที่บริเวณมินิซูและยังก์การ์เด้น ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ ได้เป็นประธานเปิดส่วนจัดแสดงมินิซู และยังก์การ์เด้น สวนแห่งใหม่ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นฤดูหนาวนี้ และส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงเดือนธันวาคม ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

ซึ่งในกิจกรรมก่อนเริ่มพิธีเปิดนั้น ก็ได้มีการโชว์เต้นตามจังหวะเพลงของเหล่ามาสคอร์ตบริเวณหน้าอาคารมินิซู ภายในสวนยังก์การ์เด้น หลังจากที่จบการแสดง ทางพิธีกรก็ได้ประกาศเพื่อให้ประธานมาเปิดงาน ปรากฎว่านายวุฒิชัย ม่วงมัน ผอ.สวนสัตว์ฯแต่ง มาสคอร์ตช้าง มาร่วมเต้นเพลงประกอบจังหวะกับบรรดาพนักงาน

ซึ่งหลังจากที่ถอดหัวช้างมาสคอร์ตออกเรียบร้อยแล้วนายวุฒิชัย มีอาการซวนเซเนื่องจากอยู่ในตัวมาสคอตนานร้อนมาก ทางพนักงานรีบนำยาดมไปให้เพื่อปฐมพยาบาลก่อนที่ ผอ.สวนสัตว์ จะทำท่าเหมือนคนเป็นลม ก่อนจะลุกขึ้นมากล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ

นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวว่า “มินิซู และยังก์การ์เด้น”ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ ซึ่งเดิมเป็นส่วนจัดแสดงที่เป็น “มรดกจากบรรพบุรุษ”พื้นที่ 60 ไร่ ชื่อว่า “สวนสัตว์ห้วยแก้ว” หรือ “สวนสัตว์มิสเตอร์ยังก์” ในอดีต ปรับปรุงให้เป็นพื้นที่ส่วนแรกรับด้านหน้าใช้รับแขกในพื้นที่ ที่มีความเป็นธรรมชาติงดงาม ร่มรื่น

เนื่องจากใครๆ ที่มาเชียงใหม่ หรือภาคเหนือจะต้องมาชมความสวยงามของดอกไม้ ไม้ดอกไม้ประดับ และไม้เมืองหนาวที่มีเสน่ห์ของจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยเหตุนี้เอง สวนสัตว์เชียงใหม่จึงจำลองพื้นที่ให้เป็นห้องรับแขกตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นพื้นที่ “มรดกจากบรรพบุรุษ” ต่อด้วยโซน “ข่วงวัฒนธรรม” ซึ่งเป็นการจำลองสนามเด็กเล่น โดยมีเครื่องเล่นแบบพื้นบ้าน เช่น ม้าหมุน ชิงช้า เป็นต้น ที่เล่นได้ตามความชื่นชอบ และโซนสุดท้าย

บริเวณมินิซู ซึ่งเป็นสวนสัตว์ขนาดเล็กน่ารักต้อนรับเด็กๆ อาทิ จิ้งจอกทะเลทราย ลิงกระรอก พญากระรอกดำ และอื่นๆ อีกหลายชนิด จำลองไว้โดยมีการนำสัตว์ขนาดเล็กมาเลี้ยงไว้ให้เด็กๆ ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด และบางชนิดสามารถมองผ่านกระจกเห็นได้อย่างชัดเจน เพื่อเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกและสร้าง ความตระหนักถึงการอนุรักษ์สัตว์ป่าให้แก่เด็ก เยาวชน รวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่มาใช้เยี่ยมชมสวนสัตว์เชียงใหม่

นายวุฒิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนจัดแสดงมินิซู และสวนยังก์การ์เด้น นอกจากจะเป็นส่วนจัดแสดงที่ปรับปรุงเพื่อต้อนรับการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงไฮซีซั่น และส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แล้ว ยังเป็นสถานที่ที่ให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางออกจากเชียงใหม่ แต่มีเวลาจำกัดและอยากจะเที่ยวชมความงามธรรมชาติ รวมถึงสัตว์ต่างๆ ก็สามารถมาแวะเที่ยวชมบริเวณส่วนจัดแสดงแห่งนี้ได้

ซึ่งจะใช้เวลาในการเที่ยวชมที่ไม่นาน เหมาะแก่การมาเที่ยวเพื่อรอการเดินทางต่อด้วย โดยเฉพาะเด็ก เยาวชน ก็จะได้รับความรู้ และได้พบเห็นสัตว์นานาชนิด ซึ่งมีแต่ความน่ารัก ไม่อันตราย จึงเรียกว่า มินิซู เพราะเหมาะแก่การพักผ่อนอย่างแท้จริง

พาณิชย์จ.เชียงใหม่ ร่วมเปิดงานวันแห่งโอกาสดี @ CP ALL

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 นายประเสริฐ ฝ่ายชาวนา พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมงาน  “วันแห่งโอกาสดีที่ซีพี ออลล์ สัญจร ณ จ.เชียงใหม่” ในงานหอการค้าแฟร์ 2019 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 8 ธันวาคม 2562 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจัดแสดงสินค้านาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่  โดยมีนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานเปิดงานฯ


ภายในงานจะพบกับโอกาสทางการศึกษา โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากวิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ และ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ให้คำแนะนำหลักสูตร พร้อมรับสมัครรับทุนการศึกษาภายในงาน จำนวน 14,000 ทุนโอกาสทางอาชีพ จัดให้มีบูธรับสมัครงานของซีพี ออลล์ และบริษัทในกลุ่ม และพนักงานประจำร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทั่วประเทศ เป็นต้น กว่า 35,000 อัตราโอกาสทางธุรกิจ จัดให้มีบูธให้คำปรึกษาสำหรับผู้ประกอบการ SME และเกษตรกร ที่สนใจจะนำสินค้ามาจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง (24 shopping)

ทั้งนี้ในส่วนพื้นที่การจัดงาน ซีพี ออลล์ ยังได้เชิญผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสินค้าจากเกษตรกร มาร่วมออกบูธจำหน่ายสินค้ารวมกว่า 40 บูธ

ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้ประกอบการมีช่องทางจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้นแล้ว ผู้บริโภคยังได้เลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพในราคาพิเศษถือเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค และกระจายรายได้ให้กับผู้ประกอบการทั่วประเทศ

พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมพิธีเปิดงานเทศกาลออกแบบเชียงใหม่ (Chiang Mai Design Week 2019)

วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2562 พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ นายประเสริฐ ฝ่ายชาวนา ร่วมพิธีเปิดงานเทศกาลออกแบบเชียงใหม่ (Chiangmai Design Week 2019) ครั้งที่ 5 ในระหว่างวันที่ 1-15 ธันวาคม 2562 ณ พิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานฯ

 

การจัดเทศกาลออกแบบเชียงใหม่ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอนวัตกรรมงานออกแบบใหม่ ๆ รวมทั้งความคิดสร้างสรรค์จากหลาก หลายสาขาในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ นำไปสู่การยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิต ของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น

พร้อมส่งเสริมผู้ประกอบการ นักออกแบบ ศิลปิน และช่างฝีมือให้สามารถเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ ด้วยความร่วมมือจากจังหวัดเชียงใหม่ หน่วยงานภาครัฐ องค์กรระหว่างประเทศ และ กลุ่มธุรกิจออกแบบทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และในประเทศกว่า 500 คนและจากต่างประเทศอีก 10 ประเทศ ร่วมกันจัดกิจกรรมกว่า 100 กิจกรรม


อาทิเช่น งานจัดแสดง นิทรรศการ การสัมมนาและเสวนาความรู้ด้านการออกแบบ การจับคู่ธุรกิจ และกิจกรรมที่สร้างบรรยากาศและสีสันของ เมือง ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างสรรค์ให้เทศกาลฯ เป็นจุดหมายสำคัญของการรวมพลังธุรกิจสร้างสรรค์ และเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนส่งเสริม
ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทยให้ยั่งยืน