เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.นี้พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์แม่ทัพภาคที่3 นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.เชียงใหม่ พล.ต.ท. ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 พล.ต.ต. พิเชษฐ จิระนันตสิน ผบก.ภจว. ชม. ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจเส้นทางตามแนวตะเข็บชายแดน อ .แม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และอ.แม่สาย.จ.เชียงราย หลังพบหญิง อายุ 29ปี ทำงานที่ร้านเสริมสวย อ.แม่อาย ที่เดินทางไปเลือกตั้ง อบจ.ที่บ้านเกิด จ.อยุธยา ติดเชื้อโควิด จนทำให้ทางคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่สั่งล๊อกดาวน์3 ตำบล อ.แม่อาย คือ ตำบลท่าตอน ตำบลแม่อาย และตำบลมะลิกา และสั่งปิดโรงเรียน ก่อนจะนำรถชีวนิรภัยไปตรวจหาเลื้อให้กับประชาชนในพื้นที่ 3ตำบล ที่ เทศบาลตำบลแม่อายตั้งแต่วันที่ 20ธค.63โดยวันแรกตรวจทั้งหมด145คน ผลตรวจเป็นลบทั้งหมดและวันที่2ตรวจ 386คน ผลตรวจทั้งหมดก็เป็นลบ
พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์แม่ทัพภาคที่3 ได้เผยว่าได้การมาตรวจในครั้งนี้เป็นเดสการติดตามเหตุที่มีคนติดเชื้อในพื้นที่ อ.แม่อาย โดยไปตรวจพบที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากในห้วงที่ผ่านมาทหารของเราสามารถสกัดกั้นโดยเฉพาะในพื้นที่ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงรายที่จะเข้ามาได้อย่างดีมากโดยทุกคนที่้ผ่านเข้ามาจะผ่านระบบคลอรันทีน แต่ในพื้นที่แม่อายกลับมี 1 คนและหลุดเข้าไปที่ จ.พระนครศรีอยุธยาเราพยายามตามหาความจริงว่าในข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรและทางเชียงใหม่มีมาตรการอย่างไร แต่ในส่วนของตนต้องการทราบว่าเรามีจุดบอดอยู่ตรงไหน จะนำมาพิจารณาว่าการตั้งจุดตรวจจุดสกัดการจะสกัดกั้นคนที่จะเข้าเมืองอย่างลักลอบเรายังทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน เรามีจุดบอดที่ไหน เพราะหลังวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมาเรามีกำลังเพิ่มขึ้นอีก 2 กองร้อยเพื่อสกัดกั้นในพื้นที่ทีคิดว่ายังหละหลวมอยู่ จึงมาขอทราบข้อเท็จจริงและฟังมาตรการป้องกันจากทางจังหวัดและผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค5ว่าข้อมูลที่แท้จริงที่มีการติดจาก อ.แม่อายไปเป็นอย่างไร หากเป็นจุดอ่อนของเราก็จะได้ปรับการทำงานต่อไป
พลตำรวจโท ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ. 5เปิดเผยว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้จากการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ เป็นชาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ไปตรวจพบที่ จ.พระนครศรีอยุธยาทางตนและแม่ทัพภาคที่ 3 ผวจ.เชียงใหม่และคณะจึงได้เดินดูที่ อ.แม่อาย ซึ่งก็อยากจะบอกในขณะนี้เรายังไม่ทราบว่าผู้ติดเชื้อรายนี้ติดจากที่ไหนอย่างไร เนื่องจากบุคคลที่เกี่ยวข้องที่เสี่ยงใน อ.แม่อาย ทางเราได้ดำเนินการนำมาตรวจเป็นจำนวนมากแต่ยังไม่พบผู้ใดติดเชื้อดังกล่าว อย่างไรก็แล้วแต่ทางตำรวจภูธรภาค5 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนได้ติดตามไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้ออย่างชัดเจนจึงอยากจะฝากไปยังผู้เกี่ยวข้องรับทราบข้อมูลผู้ติดเชื้อรายนี้ไปที่ไหนอย่างไรมาขอให้แจ้งให้ทางเราทราบเราจะติดตามตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ในส่วนการดำเนินการทางตำรวจภูธรภาค5 ได้จุดตรวจสกัดที่ลักลอบป้องกันคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาตามแนวชายแดนฝั่ง อ.แม่สาย เชียงรายและ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ซึ่งตำรวจภูธรภาค5 ได้ตั้งจุดตรวจยกระดับความเข้มข้นในการป้องกันและสกัดกั้นการป้องกันลักลอบข้ามมาของแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ตามแนวชายแดนในพื้นที่8จังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงได้มีการตั้งด่านตรวจจังหวัดแม่ฮ่องสอน 6จุด เชียงราย 6จุด และเชียงใหม่5จุด พร้อมกันนี้ได้มีการจุดชุดลาดตระเวนเคลื่อนที่เร็วอีก183นาย เพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามายังพื้นที่พร้อมกันนี้ได้ขอความร่วมมือไปยัง ผู้ประกอบการ และสถานบันเทิง ให้มีการคัดกรองอีกทางด้วย
ด้านนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าสถานการณ์เดิมของเชียงใหม่มันไม่มีการแพร่ระบาดแล้วนานถึง 6 เดือน แต่ต่อมาช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน -ต้นธันวาคม พบว่ามีผู้ติดเชื้อในพื้นที่เชียงใหม่ แต่จากการสอบสวนโรคเป็นการลักลอบเข้ามาไม่ใช่การแพร่ระบาด ในส่วนของผู้มีความเสี่ยงทั้งหลายก็มีการผ่านขบวนการตรวจเชื้อผลก็เป็นเนกาตีฟ แต่ต่อมามีรายงานจาก จ.อยุธยา มีชาวอยุธยาที่มาทำงานที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ กลับไปที่อยุธยาพบว่ามีการติดเชื้อ เมื่อมีข้อมูลเช่นนี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ทางจังหวัดได้มีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและขอควบคุมการเดินทางของผู้มีไทม์ไลน์ของเขา ก็คือตำบลแม่อาย ,ท่าตอนและมะลิกา จำกัดการเดินทางเพื่อให้มีการเคลื่อนไหนน้อยที่สุด เพื่อดำเนินการในเชิงรุกได้มีการตรวจกลุ่มผู้เสี่ยงที่มีการสัมผัสในกลุ่มแรก 145 คนและจะตรวจไปเมื่อไม่พบก็จะทำการผ่อนคลาย โดยจะทำการตรวจ 3 วัน
ซึ่งในขณะนี้ยังไม่พบผลเป็นเนกาตีฟโดยทางเจ้าหน้าที่ สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับ รพ. แม่อายได้มีการนำรถพระราชทานชีวนิรภัยมาตั้งตรวจคัดกรองทั้ง3ตำบลพื้นที่เสียงแล้วซึ่งตั้งแต่ตรวจมายังไม่พบการติดเชื้อ โดยทางเจ้าหน้าที่ขอคัดกรองอีก1วันถ้าหากไม่พบว่ามีผู้ติดเชื้อก็จะเปิดให้ประชาชนใน3ตำบลของอำเภอแม่อายกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงที่ทางพลโทอภิเชษฐ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมคณะตรวจสอบ นพ.เฉลิม โพธานารักษ์ ผอ.โรงพยาบาลอำเภอแม่อาย ได้รายงานให้ทางแม่ทัพและ ผวจ.เชียงใหม่ ว่าทางแพทย์ได้ทำการตรวจผู้ใกล้ชิดทั้งหมด ผลเป็นลบไม่พบผู้ติดเชื้อ ซึ่งตามรูปการณ์แล้ว มีการตรวจสอบเส้นทางที่นั่งรถยนต์ตู้จากแม่อายไป อำเภอฝาง คนที่ร่วมทางไปได้ติดต่อนำมาตรวจแล้วก็ไม่พบผู้ติดเชื้อ จึงจะทำการติดตามผู้ที่นั่งในรถประจำทางที่ออกจากเชียงใหม่ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้อาจจะรับเชื้อในรถที่จะไปอยุธยา อย่างไรก็ตามอยู่ช่วงติดตามอยู่จากนั้นคณะแม่ทัพภาค 3 ได้เดินทางไปตรวจจุดสกัดที่ดอยผาหมี อ.แม่สาย จ.เชียงรายโดยกำชับมาตรการคุมเข้มผู้ลักลอบเข้ามาซึ่งมีการวางลวดหนามสกัดกั้นแนวชายแดนไว้หมดแล้ว