เมื่อเวลา 06.35 น.วันที่ 13 พ.ค.นี้ นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้บริหารศูนย์อนุรักษ์ช้างแม่สา หรือปางช้างแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้เผยว่าได้รับแจ้งจากทางสถานเลี้ยงช้างชรา ว่าเมื่อเวลาดังกล่าว ช้างพังย่านุช ช้างชราวัย 83 ปี ได้ล้มเสียชีวิตลงด้วยโรคชรา หลังจากรักษาตัวมาจากบาดแผลกดทับที่บริเวณสะโพกมานาน ถือว่าเป็นการสูญเสียช้างสำคัญที่อยู่คู่ปางช้างมาแต่เริ่มเปิด ถือว่าเป็นช้างเชือกที่มีบุญคุณต่อปางช้างจึงถือเป็นว่าการสูญเสียช้างสำคํญไปในครั้งนี้
ต่อมาเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 13 พ.ค. ทางปางช้างได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 4 รูปมาทำพิธีสวดบังสุกุลให้กับช้างพังย่านุช โดยทางนางอัญชลี ได้นำพนักงานควาญช้างประกอบพิธีอำลาส่งวิญญาณช้างให้ไปอยู่ยังภพที่ดี พร้อมกับก้มลงกราบอำลาช้างพังย่านุช
นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้บริหารศูนย์อนุรักษ์ช้างแม่สา ได้เผยว่าสำหรับปางช้างแม่สา มีช้างเหลืออยู่จำนวน 73 เชือก เมื่อสิ้นช้างพังย่านุชไปแล้วก็เหลือจำนวน 72 เชือกซึ่งยังมีช้างชราที่มีอายุมากที่สุดของปางช้างแม่สา หรือศูนย์อนุรักษ์ช้างแม่สาเพศผู้ได้แก่ พลายคำหมื่น เป็นช้างงาใหญ่ที่มีอายุมากที่สุดของปางช้างแม่สา พลายคำหมื่นมีอายุ 84 ปี โดยได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เรียกว่าปู่หมื่น
ซึ่งในช่วงหลังนี้ทางปางช้างประสบปัญหาในเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ทำให้การท่องเที่ยวหยุดชงักรายได้ปางช้างเป็นศูนย์ แต่ทางปางช้างต้องแบกภาระในการดูแลช้างที่เหลือ โดยในช่วง2 ปีโควิด3ระลอกต้องสูญเสียงบประมาณจำนวนถึง 41 ล้านบาทจนทุกวันนี้ต้องประสบปัญหาในดูแลช้างเป็นอย่างมากไม่ว่าอาหารการกินของช้างและควาญช้างเจ้าหน้าที่กว่าร้อยชีวิตอย่างไรก็ตามก็ต้องดูแลกันอย่างเต็มที่ต่อไป//