สิ้นแล้ว พ่อเลี้ยงชูชาติ กัลมาพิจิตร เจ้าของปางช้างแม่สา ด้วยวัย 79 ปี ได้เสียชีวิตอย่างสงบที่บ้านพัก ด้วยโรคประจำตัว เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.วันที่ 27 มกราคม 2562 หลังจากที่ พ่อเลี้ยงชูชาติ ได้นอนรักษาตัวมานานร่วมเดือน ทางญาติเห็นว่าท่านต้องการกลับมานอนรักษาตัวที่บ้านพัก จึงได้นำออกจากโรงพยาบาลกลับมาและท่านก็อำลาโลกอย่างสงบ
ย้อนรำลึกถึงอดีตความเป็นมาของ พ่อเลี้ยง ชูชาติ กัลมาพิจิตร เดิมเป็นชาวกรุงเทพมหานคร แต่ได้เดินทางมาประกอบอาชีพที่จังหวัดเชียงใหม่พร้อมกับบิดาในปี พ.ศ. 2500 ซึ่งขณะนั้นมีอายุ 18 ปี ได้มาประกอบอาชีพทำเหมืองแร่ที่ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม แต่ไม่ ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร จึงได้เปลี่ยนไปทำสวนส้มโดยทำการซื้อที่ดินที่ตำบลโป่งแยง ทำสวนส้มแต่ราคาส้มตกลงไม่ประสบความสำเร็จ
จนเมื่อปี พ.ศ. 2518 พ่อเลี้ยงชูชาติ ได้ขายสวนส้ม ไปทำกิจการรีสอร์ทที่มีชื่อว่า “เอราวัณรีสอร์ท”ขึ้นน่าจะเป็นแห่งแรกของเชียงใหม่ที่อยู่บนดอยแม่ริม แต่ต้องพบอุปสรรคใหญ่เพราะเส้นทางที่จะเข้าไปยังรีสอร์ต ถนนหนทางไม่สะดวกยิ่งในหน้าฝนแทบขึ้นไม่ได้เลยจึงทำให้มีนักท่องเที่ยวมาน้อยมาก จนไม่สามารถจะดำเนินการต่อไปได้ จากการเป็นนักสู้ที่ไม่ยอมท้อถอยต่ออุปสรรคปัญหาต่างๆ ทางพ่อเลี้ยงชูชาติ จึงขายกิจการ รีสอร์ตทิ้ง และหันมาทำปางช้างแม่สา”วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2519
โดยเริ่มจากการขอเช่าพื้นที่จำนวน 30 ไร่เศษ บริเวณหมู่บ้านแม่แมะ จากกองพันสัตว์ต่าง ซึ่งเคย เป็นปางช้างเก่าอยู่แล้วและขอเช่าช้างจาก คนกะเหรี่ยงที่อำเภอสะเมิงมา 5-6 เชือก พร้อมกับควาญช้างโดยพ่อเลี้ยงชูชาติ ต้องทำการตลาดเอง โดยไปติดต่อร้องขอจากพวกไกด์จากบริษัททัวร์จากโรงแรมรถไฟ จากคนขับรถแท๊กซี่ตามสถานีรถไฟ เพื่อให้นำนักท่องเที่ยวเข้ามาชมช้างโดยวันๆหนึ่งมีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมแค่วันละ 10 คนเท่านั้น แต่ด้วยความไม่ยอมแพ้เดินหน้าสู้ทุกอย่างเพื่อให้ปางช้างแม่สาเกิดขึ้นมาให้ได้ ผลก็คือค่อยประสบความาสำเร็จจากนักท่องเที่ยวมาดูวันละ 10 คน เริ่มเป็นวันละ 20 คนและเพิ่มปริมาณขึ้นในทุกๆวันจนบริษัททัวร์ทุกแห่งของเชียงใหม่ วิ่งเข้ามาหาเอง
จากช้างที่มีอยู่แค่ 7 เชือกเพิ่มปริมาณขึ้นในทุกๆปี ชื่อเสียงของปางช้างแม่สา ก็เริ่มกระจายไปทั่วโลก มีผู้นำหลายประเทศมาเยี่ยมชมการแสดงช้างโชว์ ได้เลี้ยงช้างและอยู่กับช้าง ชมความน่ารักของลูกช้างและช้างแสนรู้ จนล่วงเลยมาถึง 40 ปี จนปัจจุบัน ปางช้างแม่สามีช้างทั้งหมดกว่า 80 เชือกเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ และได้มีการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อให้ปางสาแม่สา พัฒนาต่อๆไป
พ่อเลี้ยงชูชาติได้ใช้ชีวิตผูกพันกับช้างมาตลอดอายุขัย โดยในแต่ละปีจะจัดงานวันช้างไทย ที่ปางช้างแม่สา มีการเลี้ยงสะโตกช้างที่ใหญ่ที่สุด และมีพิธีบายศรีสู่ขวัญช้างที่มีอายุมาก เป็นการให้ความใส่ใจต่อสุขภาพและ ความเป็นอยู่ของช้างมาโดยตลอดจน“ปางช้างแม่สา” เป็นปางช้างแห่งแรกในประเทศไทย ที่ได้รับมาตราฐาน ISO 9001 VERSION 2008 ซึ่งการจากไปของ พ่อเลี้ยงชูชาติ กัลมาพิจิตร ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ในวงการของผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับช้าง
ซึ่งท่านพ่อเลี้ยงชูชาติ มีความรักและผูกพันกับช้าง และสร้างให้ ปางช้างแม่สา โด่งดังไปทั่วโลก การจากไปของท่านจึงเป็นการสูญเสียบุคลากรคนทำงานเพื่อช้างที่ยิ่งใหญ่ สร้างความสุขความร่มเย็นให้กับช้างและคนเลี้ยงช้างให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกัน..ขออำลาอาลัย “พ่อเลี้ยงชูชาติ กัลมาพิจิตร “ผู้สร้างตำนานปางช้างแม่สา เป็นตำนานคนเลี้ยงช้างผู้ยิ่งใหญ่และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัว”กัลมาพิจิตร”คนรักช้างในการสูญเสียในครั้งนี้