อาชญากรรม » ฆ่าสาวสักยันต์ 5 แถว-มัดเท้าแน่นหนา ห่อศพโยนทิ้งกองขยะ ดอยสะเมิง เชียงใหม่

ฆ่าสาวสักยันต์ 5 แถว-มัดเท้าแน่นหนา ห่อศพโยนทิ้งกองขยะ ดอยสะเมิง เชียงใหม่

18 กรกฎาคม 2019
1136   0

Spread the love

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 18 ก.ค.  62 พ.ต.ต.ธนกร คำวะรัตน์ สว.สอบสวน สภ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุมีชาวบ้านไปพบศพคนฆ่าตายห่อผ้าพลาสติกขาวยังไม่ทราบว่าเป็นหญิงหรือชาย ถูกแล้วนำศพมาโยนทิ้งไว้ข้างทางบริเวณสถานที่ทิ้งขยะริมถนนสายเชียงใหม่-สะเมิง บ้านดงช้างแก้ว หมู่ 10 ต.สะเมิงใต้ อ.สะเมิงจึงรายงานให้ พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ,พ.ต.อ.วีระชัย วิชัยธนพัฒน์ ผกก.สภ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ พร้อมแจ้งแพทย์เวร รพ.สะเมิงและกู้ภัย เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ

โดยพบศพถูกผ้าลักษณะเป็นป้ายไวนิลมีตัวหนังสือพันสีแดง พันร่างไว้และมัดด้วยเชือกไนล่อนสีขาว โผล่ออกมาแค่ส่วนเท้า เมื่อเจ้าหน้าที่ได้แก้เชือกและผ้าไวนิลที่พันไว้ พบเป็นศพของผู้หญิงลักษณะท้องใหญ่หรือ รูปร่างอ้วนคล้ายคนท้องอายุประมาณ 40 ปีใส่เสื้อยืดสีขาว กางเกงขายาวสีดำ ใบหน้าถูกทุบด้วยของแข็งจนยับเยิน มีรอยสักยันต์ 5 แถวที่บริเวณด้านหลังต้นคอ และที่ไหล่ซ้าย-ขวา คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง ลำตัวมีรอยช้ำคล้ายถูกทุบตีอย่างทารุณ ในตัวไม่พบหลักฐานใดๆบ่งบอกว่าเป็นใคร สอบถามชาวบ้านที่มาดูศพก็ไม่มีใครรู้จัก

พล.ต.ต.พิเชษฐ จิระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เผยว่าจากการตรวจสถานที้เกิดเหตุ เป็นการลงมือฆ่าโหดมาจากที่อื่นและนำศพมาทิ้งไว้ซึ่้งสถานทิ้งศพเป็นสถานที่้เปลี่ยวกลางคืนมีรถผ่านไปมาไม่มากนัก อย่างไรก็ได้ให้ทางตำรวจเก็บหลักฐานทุกอย่างของผู้ตายไว้ และนำส่งศพส่งนิติเวช รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ในตอนนี้ได้จัดชุดสืบสวนลงพื้นที่และให้มีการตรวจกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่จะผ่านเข้าออกบริเวณนี้ และจากหลักฐานบางอย่างทางตำรวจพบก็พอจะทราบว่าผู้ตายเป็นใครแต่ก็ขอให้มีการพิสูจน์ทราบก่อนก็จะสามารถคลี่คลายคดีนี้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับเส้นทางเข้าออกอำเภอสะเมิงในอดีตถือว่าเป็นที่สถานที่คนร้ายมักจะนำศพที่ถูกฆ่ามาโยนทิ้งลงเหวข้างทาง ซึ่งทางตำรวจได้จัดระวังให้สายตรวจทั้ง 3 อำเภอไม่วาจะเป็น สภ.สะเมิง สภ.แม่ริม และ สภ.หางดง ที่มีพื้นที่ติดกันส่งสายตรวจออกตรวจจนห่างหายไปจนมาพบศพ และเส้นทางต่อเชื่อมกันนี้ยังเป็นแหล่งพักยาและเส้นทางยาเสพติดเนื่องจากมีหลายหมู่บ้านชนเผ่าอยู่ในเส้นทางนี้ทางตำรวจจึงมีความเข้มงวดมากในเรื่องนี้

(cr.ภาพตำรวจ)