ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ ร่วมลงนามสัญญา MOA กับซิโนพาวเวอร์ ติดตั้งโซล่าเซลล์หนุนโรงงานสีเขียว

เมื่อวันที่15 กรกฎาคม 2567 –ที่หอประชุมออดิทอเรียม อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่  บริษัท ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกผักและผลไม้แปรรูปชั้นนำ ได้ร่วมลงนามสัญญาความร่วมมือ MOA (Memorandum of Agreement) กับ บริษัท ซิโนพาวเวอร์ จำกัด ผู้ให้บริการพลังงานหมุนเวียน เพื่อติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ที่โรงงานผลิตอาหารแปรรูป ในตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่

พิธีลงนามสัญญาจัดขึ้น ณ หอประชุม NSP Rice Grain Auditorium หรือ หอประชุมออดิทอเรียม อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่) โดยมี Mr. Shubhodeep Das ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ และ ดร. บัณฑิต จำรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ จำกัด รวมถึง นางอนิลรัตน์ นิติสาโรจน์ ประธานและคณะผู้บริหารของบริษัท ซิโนพาวเวอร์ จำกัด เป็นผู้เซ็นลงนาม

หลังจากพิธีลงนาม มีการจัดบรรยายในหัวข้อเรื่อง “การใช้พลังงานทดแทนเพื่อพัฒนาความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการผลิตโรงงานสีเขียว” โดย ดร. บัณฑิต จำรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ จำกัด คุณนาวิน สัจเดว์ กรรมบริหาร บริษัท ซิโนพาวเวอร์ จำกัด และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ยิ่งรักษ์ อรรถเวชกุล รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ วิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ด้านพลังงานทดแทนให้กับพันธมิตรทางธุรกิจ สื่อมวลชน และนักศึกษา

โครงการ Solar MOA นี้ บริษัท ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ จำกัด ได้คัดเลือกบริษัท ซิโนพาวเวอร์ จำกัด เป็นคู่สัญญาเพื่อสอดคล้องกับแผน Smart Factory ของบริษัท ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ จำกัด ที่มุ่งเน้นการลดต้นทุนการผลิตในระยะยาวดึงดูดลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ และเตรียมความพร้อมสำหรับการตรวจรับรอง Carbon Credit เพื่อมุ่งสู่ Carbon Neutralization ในระยะยาว


ระบบโซล่าเซลล์จะติดตั้งครอบคลุมอาคาร A, B, C และบางส่วนของอาคาร D ของโรงงาน บนพื้นที่รวม 5,437 ตารางเมตร ด้วยขนาดระบบทั้งหมด 999.38 กิโลวัตต์ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยอย่างครอบคลุมทุกมิติของโครงการ

เกี่ยวกับบริษัท ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ จำกัด
ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ผลิตและส่งออกผักและผลไม้แปรรูปชั้นนำ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างโอกาสให้แก่ชุมชนท้องถิ่น
ก่อตั้งขึ้นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ผ่านผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากผลไม้และผัก
ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2565 ณ จังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะบริษัทในเครือของกลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการผลิตและส่งออกผักและผลไม้แปรรูป รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อาหารที่เกี่ยวข้องอื่นๆ
ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่น ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ มุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ให้ผู้บริโภคทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ มุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในและต่างประเทศ โดยตั้งเป้าหมายที่จะสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดที่เกี่ยวข้องภายในปี พ.ศ. 2573
ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ ให้ความสำคัญกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง คัดสรรจากวัตถุดิบธรรมชาติ ปราศจากสารปรุงแต่งและสารกันบูด แบรนด์สินค้า ผลิตภัณฑ์ของไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ภายใต้แบรนด์


:
● เฟรชโก้ (FreshCo) : ผลไม้สดพร้อมรับประทาน วางจำหน่ายที่ริมปิง ซุปเปอร์มาร์เก็ต และ ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ในจังหวัดเชียงใหม่
● ฟันโก้ (FunCo) : ผลไม้อบแห้ง อบกรอบ วางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ Shopee และ Lazada
แผนการขยายธุรกิจ ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ มีแผนที่จะขยายการส่งออกผลไม้อบกรอบไปยังต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างอัตราการผลิตและการจัดจำหน่ายไปยังทั่วโลก
ติดต่อสอบถาม
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทฯ กรุณาติดต่อ:
● เบอร์โทรศัพท์: 061-2972888
● เว็บไซต์: https://hylifeglobalfood.co.th/en/

เกี่ยวกับบริษัท ซิโนพาวเวอร์ จำกัด
บริษัท ซิโนพาวเวอร์ จำกัด เป็นผู้ให้บริการพลังงานหมุนเวียนชั้นนำในประเทศไทย นำเสนอโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ที่หลากหลายสำหรับลูกค้าทั้งภาคที่อยู่อาศัย พาณิชย์ และอุตสาหกรรม มุ่งมั่นในปณิธานที่จะสร้างพลังงานสะอาดและยั่งยืนเพื่ออนาคตที่สดใส

ติดต่อ: บริษัท ซิโนพาวเวอร์ จำกัด โทร: +66 2 -480-9999 เว็บไซต์: https://www.sinopower.co.th/

พิธีเปิด “ข่วงจุมฟ้า กาดวัฒนธรรม” ในงาน Lanna Expo 2024 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา

เมื่อเย็นวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ได้จัดงานพิธีเปิด “ข่วงจุมฟ้า กาดวัฒนธรรม” ในงาน Lanna Expo 2024 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา โดยมีนายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ร่วมกับนายธวัชชัย อุบลพิทักษ์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่

การจัดงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม CPOT ผลิตภัณฑ์ชุมชน CCPOT และผู้ประกอบการร้านอาหาร ของกลุ่มจังหวัดฯ ภายในงานพิธีเปิดมีผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์ลำพูน-ลำปาง 2025 ร่วมเดินแบบร่วมกับ นายแบบนางแบบกิติมศักดิ์มากมาย


ดร.เพ็ญศรี วังเสรีพิพัฒน์ ประธานชมรมจิตอาสาผู้สูงอายุล้านนา ร่วมกับจิตอาสาหญิงผู้สูงวัย แต่งชุดนางงามร่วมเดินแบบในช่วงร่วมเปิดงานด้วย เป็นที่ตื่นตากับผู้มาร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง

“ข่วงจุมฟ้า กาดวัฒนธรรม” ในงาน Lanna Expo 2024 จัดระหว่าง 8-14กรกฎาคม 2567 ภายในงานมีกิจกรรมสาธิตภูมิปัญญา, การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม และผลิตภัณฑ์ชุมชนมีการจัดจำหน่ายอาหาร “กาดหมั้ว” 4 จังหวัด รวมจำนวนมากกว่า 200 บูธ และมีการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดงคนตรี กิจกรรมทางวัฒนธรรม และกิจกรรมประกวดต่างๆ อาทิเช่น แข่งข้นส้มตำลีลา, การประกวดทูตวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ 2567

โจ๊ะ เปียก ฉ่ำทั้งเมืองเชียงใหม่ “JOH FESTIVAL 1st” คอนเสิร์ตที่รวมศิลปินชื่อดังที่พร้อมระเบิดความโจ๊ะ

เสาร์ที่ 27 กรกฎาคมนี้ โจ๊ะ เปียก ฉ่ำทั้งเมืองเชียงใหม่ “JOH FESTIVAL 1st” คอนเสิร์ตที่รวมศิลปินชื่อดังที่พร้อมระเบิดความโจ๊ะ
.สนุกสุดเปียก กับปาร์ตี้น้ำ สุดฉ่ำที่อลังการที่สุดในเชียงใหม่งานนี้พบกับ โจอี้ บอย เจ้าพ่อแห่งวงการแร็ปเปอร์เมืองไทย แจ๊ส สปุ๊กนิคฯ เจ้าพ่อสายโจ๊ะ รูปหล่อ พ่อรวย เก๋งติดแก๊สและ จ๊ะ นงผณี ราชินีแห่งวงการแดนซ์ ที่มีเพลงโจ๊ะติดอันดับ


.
เจอกันวันงาน ณ ลานหน้าศูนย์การค้า Central Chiangmaiมามันส์ด้วยกันน้าาา ช้าหมดอดโจ๊ะนะจ๊ะโดยบัตร VIP ราคา 5,555.- (5 ท่าน)
รับ Dewar’s 12 year 1 Bottleสามารถเพิ่ม Extra โต๊ะ VIP ได้ที่หน้างานเท่านั้น ราคา 890.-/ท่าน (ไม่เกิน 2 ท่านต่อ 1 โต๊ะ)และบัตร Regular 690.- / ท่าน

เปิดจำหน่ายบัตรแล้ววันนี้แล้วทางเว็บไซต์ The Concert : https://www.theconcert.com/concert/3203,หน้าร้านท่าช้างคาเฟ่ All Day
และLine Official ท่าช้าง คาเฟ่ 10.00 – 00.00 น.คลิกเลยที่: https://lin.ee/0zhZto0ติดตามรายละเอียดข่าวสารได้ที่เพจ “โจ๊ะ เฟสติวัล”
ในงานนี้ขอจำกัดอายุต้อง 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 เตรียมจัดงาน ลานนาเอกซ์โป2524LANNA EXPO 2024 งานแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 14 กรกฎาคม นี้

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 โดยมีนายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายโยธิน ประสงค์ความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนางนัยนภัส สังขนุกิจ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน ลานนาเอกซ์โป2524 (LANNA EXPO 2024 )ในวันที่ 8 – 14 กรกฎาคม 2567 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ ที่ลานโปรโมชั่นชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่แอร์พอร์ต

ทั้งนี้ การจัดงาน LANNA EXPO 2024 ปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “BCG Creative Lanna” สุดยอดผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ อัศจรรย์ภูมิปัญญา เพื่อส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน) เพื่อเป็นการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ส่งเสริมโอกาสการเข้าสู่ตลาดและการขยายช่องทางการตลาดสินค้าและบริการ รวมทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน

อีกทั้งเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ตลอดจนการสร้างภาพลักษณ์ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ให้เศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 สามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการสร้างรายได้และกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน

ภายในงานได้แบ่งพื้นที่สำหรับการจัดแสดงจำหน่ายสินค้าและบริการ โดยได้ร่วมบูรณาการจากหน่วยงานหลาย แบ่งเป็น 11 โซน ประกอบด้วย โซน 1 Northern Thailand Food Valley, โซน 2 OTOP ล้านนา สีสันภูมิปัญญาไทย, โซน 3 Lanna Expo & Creative Economy, โซน 4 Lanna Wellness Village, โซน 5 Chiang Mai Creative Economy Festival 2024, โซน 6 MHESI Sustainable Innovation for Creative Lanna, โซน 7 สานศิลป์ถิ่นหัตถกรรมบ้านถวาย, โซน 8 ตามรอยประเพณีล้านนา เที่ยวได้ทั้งปีที่เชียงใหม่, โซน 9 – 10 ข่วงจุมฟ้า กาดวัฒนธรรม และโซน 11 หอการค้าแฟร์ CCC FAIR 2024

ซึ่ง ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ได้เตรียมพร้อมนำของดีของขึ้นชื่อของแต่ละจังหวัดมาจัดจำหน่ายให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงนี้ด้วย ขณะที่ในภาคของธุรกิจก็ได้มีการจัดการเจรจาระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่และผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อให้เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ และการตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 อีกด้วย

การจัดงาน Lanna Expo 2024 เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่และตอบโจทย์ในการยกระดับอุตสาหกรรม MICE ของจังหวัดในลักษณะการจัดงานขนาดใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมแสดงและจำหน่ายสินค้า จำนวน 800 – 1,000 บูธ โดยในปีนี้จังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้ความสำคัญกับการจัดงาน LANNA EXPO 2024 ใน รูปแบบการจัดงาน Low Carbon Event เพื่อสนับสนุนการก้าวเข้าสู่ Net Zero อย่างยั่งยืน โดยมีผู้ประกอบการร่วมออกงานแสดงสินค้า และจำหน่ายสินค้าภายในงาน อาทิ การจัดโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้าที่นำถุงผ้ามาจับจ่ายสินค้าภายในงาน

ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละรายก็จะมีโปรโมชั่นแตกต่างกันไป รวมถึงการคัดแยกขยะของผู้เข้าร่วมงานด้วย ขณะเดียวกันจังหวัดเชียงใหม่มีความโดดเด่นหลายด้าน ทั้งการท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม ที่พัก อาหาร สินค้าหัตถกรรม งานเสื้อผ้าที่เป็นแฟชั่นจากผ้าพื้นเมือง งานไลฟ์สไตล์ต่างๆ ซึ่งจะได้นำมาจัดแสดงและจำหน่ายให้กับทุกท่านในงานอีกด้วย

คณะตลกชื่อดัง ร่วมกับ Workpoint จัดงาน “ตลาดเชิญยิ้ม เชิญอร่อย”ให้ชาวเชียงใหม่ได้ลิ้มรส เต็มอิ่มตลอด 7 วัน ที่ เซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต 21-27 มิถุนายน นี้

คณะตลกชื่อดัง ร่วมกับ Workpoint จัดงาน “ตลาดเชิญยิ้ม เชิญอร่อย” ขนอาหารสุดอร่อยจากทั่วฟ้าเมืองไทยมาให้ชาวเชียงใหม่ได้ลิ้มรส เต็มอิ่มตลอด 7 วัน ที่ เซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต 21-27 มิถุนายน นี้


.
นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ดร.ธัญญา โพธิ์วิจิตร หรือ เป็ด เชิญยิ้ม นักแสดงตลกชื่อดัง และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันเปิดงาน “ตลาดเชิญยิ้ม เชิญอร่อย” ซึ่งทางคณะนักแสดงตลกจากคณะเชิญยิ้มและรายการก่อนบ่ายคลายเครียด พร้อมด้วย Workpoint Entertainment และจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 30 ปี รายการก่อนบ่ายคลายเครียด ช่อง 23 Workpoint ซึ่งกำหนดจัดขึ้นจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-27 มิถุนายน 2567 ที่ บริเวณลานกิจกรรม ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต


.
โดยภายในงานได้รวบรวมเอาของอร่อยจากทั่วฟ้าเมืองไทยมาไว้ในงานเดียว ในรูปแบบของตลาดภายใต้ชื่อ “ตลาดเชิญยิ้ม เชิญอร่อย” เพื่อให้ชาวเชียงใหม่มาเปิดประสบการณ์กับงานมหกรรมอาหาร จากบูธอาหารและสินค้า รวมทั้งสิ้นกว่า 80 ร้านค้า ซึ่งล้วนเป็นร้านอาหารขึ้นชื่อและมีชื่อเสียงในเมืองไทย อาทิ ร้านคุณชายหมูกรอบ ของคุณอาร์ต พศุตน์ นักแสดงหนุ่มสุดหล่อมากความสามารถ , ร้านปลาร้า ปลาส้มทอด ของนักแสดงตลก “จั๊กบุ๋ม” , ยำหอยนางรมเจ้าดังจากพัทยา , ยำหอยนางรมลุงบอยป้ารัตน์ , ห่อหมกรถเข็นในตำนาน , ห่อหมก เจ๊สีสำเพ็ง , กาละแมขวัญใจติ๊กต๊อก และร้านอื่นๆ อีกหลายเมนู


.
พิเศษ!! เมื่อซื้อสินค้าจากร้านค้าภายในงาน ทุก 500 บาท ไม่ต้องใช้ใบเสร็จ เพียงแสดงสินค้าที่ซื้อมา จะได้สิทธิ์ลุ้นจับไข่ รับคูปองส่วนลดภายในงานสำหรับซื้อครั้งต่อไปได้อีกด้วย
.
นอกจากนี้ ภายในงานยังจะได้พบกับกิจกรรมสุดบันเทิงจากการแสดงตลกจากตลาดชั้นครู คณะกล้วยไม้ , การแสดงตลกรุ่นใหม่ ขวัญใจ Gen Z , ตลกคณะก่อนบ่ายนิวเจน พร้อมด้วย คอนเสิร์ต Lil Bigboat & Toon Vegan ปะทะ เจ๊มอส สายฮา , และกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายตลอด 7 วันเต็ม

แสนสิริจ่อคิวเปิดตัว “เมคิน เฮาส์” คอนโดสไตล์รีสอร์ท ใกล้เซ็นทรัล เชียงใหม่พรีเซลล์วันที่ 22 – 23 มิ.ย. พร้อมชมห้องตัวอย่าง พบยูนิตราคาพิเศษ 2.99 ล้านบาท

แสนสิริจ่อคิวเปิดตัว “เมคิน เฮาส์” คอนโดสไตล์รีสอร์ท ใกล้เซ็นทรัล เชียงใหม่พรีเซลล์วันที่ 22 – 23 มิ.ย. พร้อมชมห้องตัวอย่าง
พบยูนิตราคาพิเศษ 2.99 ล้านบาท


แสนสิริจ่อคิวเปิดตัว “mekin Haus” (เมคิน เฮาส์) แบรนด์ HAUS โครงการแรกในเชียงใหม่และต่างจังหวัด มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท

ดีไซน์สไตล์รีสอร์ท สงบเป็นส่วนตัวเพียง 250 ยูนิต โดดเด่นด้วยส่วนกลางครบบนพื้นที่ขนาด 1.7 ไร่ พร้อมสระว่ายน้าขนาดโอลิมปิกยาว 55 เมตร, Co-working Space, Pantry Corner และ Pet Yard สวนสาหรับสัตว์เลี้ยง

ชูจุดเด่นห้องขนาดใหญ่ พร้อมห้องให้เลือกหลากหลายรูปแบ ตั้งแต่ 1 – 3 ห้องนอน (34.75 – 89.75 ตร.ม.) แบ่งเป็นสัดส่วน ฟังก์ชันครบ เพดานสูงโปร่ง 2.7 เมตรและครัวแบบปิด ตอบโจทย์ความต้องการของคนที่อยากได้คอนโดมิเนียมกว้างเหมือนอยู่บ้าน

ปักหมุดใจกลางเมืองเชียงใหม่ เพียง 200 เมตรเดินได้ถึงเซ็นทรัล เชียงใหม่ เข้าออกเมืองง่าย ติดถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่ – ลาปาง ทาเลศักยภาพซื้ออยู่เองและลงทุน yield สูงสุด 7%

พรีเซลล์ 22 – 23 มิ.ย.นี้ ชมห้องตัวอย่าง พร้อมรับดีลสุดพิเศษเฉพาะงานนี้เท่านั้น! ยูนิตสวย ราคาพิเศษ เริ่ม 2.99 ล้านบาท* จานวนจากัด! พร้อมโปรโมชันพิเศษ รับส่วนลดสูงสุด 300,000 บาท* + ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้าครบเซ็ต* ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ https://siri.ly/6FiN5E6
แสนสิริเตรียมเปิดตัว เมคิน เฮาส์ (mekin HAUS) มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท คอนโดมิเนียมบรรยากาศรีสอร์ท แบรนด์ HAUS โครงการแรกในจังหวัดเชียงใหม่และในต่างจังหวัด หลังประสบความสาเร็จพัฒนาแบรนด์ HAUS ในกรุงเทพฯ มาแล้วกว่า 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 14,000 ล้านบาท
ครั้งแรก! ในเชียงใหม่ กับ เมคิน เฮาส์ คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ รับเทรนด์ ‘Pet Parent’ เลี้ยงสัตว์เป็นลูก โดยโครงการมาพร้อมกับพื้นที่ส่วนกลางและวัสดุภายในพื้นที่อยู่อาศัย ที่คานึงถึงการอยู่อาศัยของคนร่วมกับสัตว์เลี้ยงอย่างแท้จริง อาทิ Pet Yard สวนสาหรับสัตว์เลี้ยง ที่มีดีไซน์และฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นที่ที่ปลอดภัยและเอื้อต่อการใช้เวลาร่วมกันระหว่างเจ้าของและสัตว์เลี้ยง


ทาเลโครงการตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ เดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก ติดถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่ – ลาปาง เพียง 200 เมตร จากเซ็นทรัล เชียงใหม่ เพียง 10 นาทีถึงนิมมาน และเพียง 18 นาทีถึงสนามบินเชียงใหม่ ใกล้สถาบันการศึกษาชื่อดัง อาทิ โรงเรียนดาราวิทยาลัย (ใกล้โครงการฯ เพียง 1.5 กิโลเมตร), โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย (ใกล้โครงการฯ เพียง 2.2 กิโลเมตร) นอกจากนั้นยังใกล้สถานพยาบาลต่างๆ อย่าง โรงพยาบาลแมคคอร์มิค (ใกล้โครงการฯ เพียง 1.6 กิโลเมตร) ทาเลศักยภาพทั้งซื้อทั้งอยู่เองและลงทุน Yield สูงสุด 7%


เมคิน เฮาส์ มาพร้อมกับแบรนด์แท็กไลน์ EMBRACE UNHURRIED PLEASURES ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการพักผ่อน ให้คุณละเมียดละไมกับการใช้ชีวิตและผ่อนคลายได้ทุกวัน ด้วยการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของเชียงใหม่ เช่น Façade ดีไซน์ที่สะท้อนไอหมอกบนดอย รวมถึงคอนเซ็ปต์ของภูเขามาสะท้อนในการออกแบบพื้นที่สีเขียวให้เหมือนถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติเขียวขจี พร้อมส่วนกลางหลากหลายและครบครันบนพื้นที่กว่า 1.7 ไร่ ทั้ง รองรับทุกไลฟ์สไตล์ของทุกสมาชิกในครอบครัวทั้งคนและสัตว์เลี้ยง อาทิ สระว่ายน้าขนาดโอลิมปิก 55 เมตร, ห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์, ห้องโยคะ, Co-working & Retreat Space, Pantry
Page 2


Coner พื้นที่เตรียมอาหารและนั่งชิลล์ และเป็นคอนโด Pet Welcome ที่มี Pet Yard สวนสาหรับให้น้องสัตว์เลี้ยงวิ่งเล่น
“เมคิน เฮาส์” เชียงใหม่ เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low-rise ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ จานวนเพียง 250 ยูนิต เน้นความสงบ เป็นส่วนตัว ชูจุดเด่นมีห้องให้เลือกหลากหลายขนาดและรูปแบบห้อง เน้นสเปซกว้างขวาง แบ่งเป็นสัดส่วนและฟังก์ชันครบ เช่น เพดานสูงโปร่ง 2.7 เมตร ครัวแบบปิดป้องกันกลิ่นรบกวน ห้องนอนใหญ่ใส่เตียง King Size ได้สบายๆ พื้นที่ Walk-in Closet และ อ่างอาบน้าสาหรับ 2 ห้องนอนขึ้นไป เป็นคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์คนอยากได้สเปซเหมือนอยู่บ้าน จะซื้ออยู่เองเป็นบ้านหลังที่สองหรือลงทุนก็คุ่มค่า โดยมีขนาดตั้งแต่ 1 – 3 ห้องนอน ขนาด 34.75 – 89.75 ตารางเมตร ไฮไลท์ด้วย ห้องยูนิตราคาพิเศษ และขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้า พื้นที่ขนาด 67.00 – 68.00 ตารางเมตร เป็นห้องที่ให้สเปซและฟังก์ชันครบเหมือนอยู่บ้าน เช่น มีครัวแบบปิดขนาดใหญ่พร้อมเคาร์เตอร์ L shape ถูกใจคนชอบทาอาหาร, ระเบียงยาว 4 เมตร ปลูกต้นไม้ได้สบายๆ, Master Bedroom สเปซกว้างที่มาพร้อมกับ Walk-in Closet และอ่างอาบน้าในตัว


เตรียมเปิดพรีเซลล์วันที่ 22 – 23 มิถุนายนนี้ พร้อมชมห้องตัวอย่าง และดีลสุดพิเศษเฉพาะงานนี้เท่านั้น ราคาพิเศษ 2.99 ล้านบาท* สำหรับห้องวิวสวย และราคาพิเศษ 3.99 ล้านบาท* สำหรับห้องไซส์ใหญ่ 49 ตารางเมตร (จำนวนจำกัด) พร้อมรับโปรโมชันพิเศษ ส่วนลดสูงสุดถึง 300,000* บาท + ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้าครบชุด* ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก > https://siri.ly/6FiN5E6 หรือติดต่อผ่าน Line > https://siri.ly/u4Kgfe3 แผนที่ชมห้องตัวอย่าง > https://siri.ly/J1UDRX5

‘ไฮไลฟ์กรุ๊ป’ หรือ HYLIFE GROUPทุ่ม 5.5 พันล้าน พื้นที่ภาคเหนือโดยเฉพาะเชียงใหม่จัดงานฉลองเปิดตัวสำนักงานใหญ่ที่ทันสมัยอย่างเป็นทางการ

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 กลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ หรือ HYLIFE GROUP จัดงานฉลองเปิดตัวสำนักงานใหญ่ที่ทันสมัยอย่างเป็นทางการ ณ เลขที่ 63 ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ โดย Mr. Shubhodeep Das ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ และทีมผู้บริหาร Mr. Alloysius Heng Mr. Dhanush Ramachandran Nair และนางวัชราภรณ์ ลิน ร่วมให้การต้อนรับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งชาวไทยและต่างชาติ จากประเทศสิงคโปร์ เกาหลี ออสเตรเลีย และอินเดีย กว่า 500 คน

รวมทั้งบุคคลสำคัญในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ อาทิ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายชลิต ทิพย์ค นายอำเภอหางดง นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ นายไพศาล สุขเจริญ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) และนางเพ็ญพักตร์ ศิริกุล ดารานักแสดงชื่อดัง ร่วมงานและชมการตีกลองสะบัดชัย การแสดงพื้นเมืองล้านนา นำเสนอมรดกทางวัฒนธรรมอันอุดมไปด้วยคุณค่าของเชียงใหม่ และการฉายภาพแผนที่ 3 มิติ ที่น่าทึ่ง บ่งบอกถึงการนำเอาแนวคิดนวัตกรรมมาใช้ของกลุ่มบริษัทไฮไลฟ์

Mr. Shubhodeep Das ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ กล่าวว่า สำนักงานแห่งใหม่นี้เป็นอาคารสำนักงาน 3 ชั้น และเป็นที่ตั้ง 9 บริษัทในเครือ ซึ่งมีธุรกิจอันหลากหลายในกลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในด้านความยั่งยืนของกลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ ด้วยการติดตั้งจุดชาร์จไฟฟ้าสำหรับยานพาหนะ และโครงการใช้รถร่วมกัน เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการตอบโจทย์ที่สร้างสรรค์ภายในสำนักงานจากสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน

“เหตุผลที่เลือกจังหวัดเชียงใหม่ เพราะถือว่าเป็นเมืองที่มีฐานเศรษฐกิจใหญ่ และเป็นศูนย์กลางที่จะขยายโอกาสได้เพิ่มขึ้น สามารถที่จะพัฒนาธุรกิจให้เติบโตและยั่งยืนได้ ต่างจากกรุงเทพมหานครที่ค่อนข้างแน่น ที่สำคัญหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่พร้อมสนับสนุนการลงทุน โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการก่อสร้างบ้านและคอนโดมิเนียม ซึ่งนับจากการก่อตั้งกลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ตั้งแต่ปี 2019 หรือตลอด 5 ปีนี้ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เติบโตสูงที่สุด โดยแบ่งสัดส่วนเป็นกลุ่มคนไทยท้องถิ่นและจังหวัดใกล้เคียง 80% และต่างชาติ 20% จากเนเธอร์แลนด์และเมียนมาที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักลงทุนจากสิงคโปร์”

โดยกลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ มุ่งเน้นธุรกิจหลัก 3 ด้าน ด้วยความเชี่ยวชาญอันหลากหลาย เพื่อขับเคลื่อนการเติบโต ได้แก่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย บริษัทไฮไลฟ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัทไฮไลฟ์ พรอพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และบริษัทเอชเอ คอนสตรัคชั่น จำกัด มุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการคุณภาพสูง ครอบคลุมทั้งประเภทอาคารพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย และประเภทอื่นๆ โดยมีผลงานที่ประสบความสำเร็จ อาทิ โครงการไฮคอนโด ท่าศาลา โครงการไฮพาร์ค หางดง โครงการไฮลักซ์ แม่ริม และโครงการไฮทาวน์ แม่เหียะ

กลุ่มบริหารสินทรัพย์ ประกอบด้วย บริษัทไฮไลฟ์ แอสเซท จำกัด บริษัทพินนะเคิล แอสเซท แมเนจเม้นท์ จำกัด บริษัทไฮเฟิสท์ จำกัด ให้บริการทางการเงินที่หลากหลาย ครอบคลุมสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อที่ได้รับการสนับสนุนด้วยสินทรัพย์ การยึดทรัพย์สิน และการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพ โดยมุ่งเน้นการรักษาคุณค่าของสินทรัพย์ให้กับลูกค้าให้ได้มากที่สุด

กลุ่มการผลิต ประกอบด้วย บริษัท ดร.ไฮจีน เมดิคอล โปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตหน้ากากอนามัย เครื่องฟอกอากาศ และผลิตภัณฑ์สุขอนามัยภายใต้แบรนด์ ‘ดร.ไฮจีน’ ส่วนบริษัทไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิต FUNCO ผลไม้อบแห้งอบกรอบที่จัดจำหน่ายทั่วโลก โดยเฉพาะตะวันออกกลาง และสหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบันสินค้ามะม่วงอบแห้งอบกรอบมีกำลังผลิตในการส่งออก 1 คาร์โกต่อวัน สร้างรายได้กว่า 300 ล้านบาทต่อปี และ FRESHCO ผลไม้สดตัดแต่ง จัดจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าริมปิง และเตรียมเข้า 7-11 ในเร็วๆ นี้ ซึ่งผลิตภัณฑ์เน้นการใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง และการเติบโตอย่างยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจเหล่านี้

โดยมีผลงานอันโดดเด่นของกลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ ด้วยรางวัลอันทรงเกียรติ คือ บริษัท ดร.ไฮจีน เมดิคอล โปรดักส์ จำกัด ได้รับรางวัล ลาซาด้า TOP 9.9 ร้านค้าดาวรุ่งพุ่งแรงประจำปี 2564 โครงการไฮคอนโด ท่าศาลา ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทไฮไลฟ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ประสบความสำเร็จด้านยอดขายอย่างมาก สามารถขายหมดภายในไตรมาส 2 ปี 2565 ใช้เวลาเพียง 9 เดือน และสามารถสร้างรายได้กว่า 287 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล FIABCI – Thai Prix D’ Excellence Award ประจำปี 2565 ในสาขาสาขาคอนโดมิเนียมเพื่อที่อยู่อาศัยอีกด้วย และ Mr. Shubhodeep Das ได้รับรางวัล CEO Thailand ปี 2566 จากสมาคมนักข่าววิทยุโทรทัศน์ไทย (สว.นท) บริษัท ดร.ไฮจีน เมดิคอล โปรดักส์ จำกัด ได้รับรางวัล ธุรกิจและผลิตภัณฑ์ดีเด่นประจำปี 2566 ในงานประกาศรางวัล Thailand Business Awards ครั้งที่ 10 โครงการไฮพาร์ค เรสซิเดนซ์เซส หางดง พัฒนาโดยบริษัทไฮไลฟ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ได้รับรางวัล Best Lifestyle Condo in Chiang Mai ในงานประกาศรางวัลอันทรงเกียรติ์อย่าง DOT Property Thailand Awards ประจำปี 2566

ล่าสุดมีแผนการขยายธุรกิจ มากมาย เริ่มจากบริษัทพินนะเคิล แอสเซท แมเนจเม้นท์ จำกัด เสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตสินทรัพย์ในปี 2566 ด้วยการเข้าซื้อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) จากโตโยต้า ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่า 500 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังได้ขยายเครือข่ายการให้บริการสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มเติม โดยทำข้อตกลงกับ BMW และบริษัท ออริโก้ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งรวมมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดกว่า 600 ล้านบาท และในปี 2566 บริษัทไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ จำกัด ประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 2566 โดยบริษัทได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม Winner Chapter of Business Network International (BNI) เชียงใหม่ และได้เริ่มก่อสร้างโรงงานที่ดออยหล่อ ใช้เงินลงทุนเป็นมูลค่ากว่า 422 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ จำกัด ยังได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้า THAIFEX-Anuga Asia 2023 เป็นครั้งแรกอีกด้วย

ส่วนความร่วมมือระดับนานาชาติ กลุ่มบริษัทไฮไลฟ์เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยการร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานงานพบปะเครือข่ายธุรกิจร่วมกับหอการค้าไทย-สิงคโปร์ และหอการค้าไทย-เนเธอร์แลนด์ ในปี 2567 ซึ่งงานดังกล่าวประสบความสำเร็จ มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 100 ท่าน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติและเตรียมยกระดับธุรกิจการลงทุนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

เพราะมองเห็นว่าความสำเร็จที่แท้จริงนั้นไม่ได้อยู่แค่ผลกำไรเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยบริษัทมีส่วนร่วมอย่างมาก ในกิจกรรมพัฒนาชุมชนต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและปกป้องสิ่งแวดล้อม ได้แก่ ส่งเสริมแนวทางการก่อสร้างอาคารสีเขียว รางวัล HYFIVE DESIGN AWARD 2565 ที่จัดขึ้นโดยบริษัทไฮไลฟ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด มุ่งเน้นการเฟ้นหาแบบการออกแบบอาคารที่สร้างสรรค์และสามารถแก้ไขปัญหามลพิษ PM2.5 ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม

การลงทุนเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของเด็ก เสริมสร้างความแข็งแกร่งชุมชนผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ งานวันเด็ก BETTER CARING IS HYLIFE’S SHARING เพื่อเด็กชาติพันธุ์ชาวม้ง การต่อสู้กับภัยคุกคามทางสิ่งแวดล้อม โดยความร่วมมือกับบริษัทไฮไลฟ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และบริษัท ดร.ไฮจีน เมดิคอล โปรดักส์ จำกัด ในการมอบของใช้ที่จำเป็น เช่น หน้ากากอนามัยและน้ำดื่มให้กับชุมชนรอบดอยสุเทพในช่วงฤดูไฟป่า

นอกจากนี้ โครงการ HYFIVE FIREBREAK FIRELINE ของกลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในด้านนี้ ซึ่งได้รับรางวัล Green Leadership Award ในงานประกาศรางวัล Asia Responsible Enterprise Awards ประจำปี 2567 ที่จัดโดย Enterprise Asia และความร่วมมือกับชุมชน กลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ร่วมมือกับองค์กรต่างๆ เช่น สภาลมหายใจเชียงใหม่ เพื่อมอบน้ำดื่มและหน้ากากอนามัยให้กับชุมชนในพื้นที่ป้องกันไฟป่าบ้านโป่ง นอกจากนี้ โครงการ Charity Outing แบ่งปันความอบอุ่นให้เด็กๆ ของบริษัทไฮไลฟ์ แอสเซท จำกัด และบริษัทเอชเอ คอนสตรัคชั่น จำกัด ในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 ยังเป็นตัวอย่างที่แสดงถึงความทุ่มเทในการมีส่วนร่วมกับชุมชน

โดยตั้งเป้าไว้ว่า ในปี 2030 ขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ จากวิสัยทัศน์ของกลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความสำเร็จในปัจจุบัน แต่ยังมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนในระยะยาว ครอบคลุมทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริหารสินทรัพย์ และการผลิต เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่นี้ โดยอาศัยการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์นี้ ซึ่งจะช่วยให้สามารถระดมทุนและผลักดันความมุ่งมั่นในด้านสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจต่อไป ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดต่อกลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-5455966 หรือช่องทางเว็บไซต์: www.hylifegroup.com

บสย. ร่วมงานเสวนา ธปท. ย้ำบทบาท “ตัวกลาง” เชื่อม SMEs เข้าถึงสินเชื่อเสริมศักยภาพรายย่อย อาชีพอิสระ ผ่านศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน

บสย. ย้ำการช่วยเหลือ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน ผ่านกลไกค้ำประกันสินเชื่อ ชูบทบาท “ตัวกลาง” เชื่อมผู้ประกอบการและสถาบันการเงิน รุกช่วยกลุ่มรายย่อย อาชีพอิสระ ผ่านศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงินของ บสย. พร้อมมุ่งสู่ Digital Platform ยกระดับบริการเข้าถึง SMEs ทุกกลุ่มทั่วประเทศ

 

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวในงานเสวนา “กลไกค้ำประกันเครดิต ตัวช่วยของ SMEs ในการเข้าถึงเงินทุน” จัดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมี นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI), นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย, นายชัยยศ ตันพิสุทธิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย ดำเนินรายการโดย ดร.ณชา อนันต์โชติกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ KKP Research กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ณ ธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567
นายสิทธิกร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 33 ปี ของการดำเนินงาน บสย. สามารถเข้าไปช่วยผู้ประกอบการ SMEs ผ่านกลไกค้ำประกันมากกว่า 8 แสนราย ที่น่าสนใจคือจำนวนลูกค้ากว่า 50% หรือกว่า 4 แสนราย เกิดขึ้นหลังสถานการณ์โควิด จากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ทำให้ SMEs จำนวนมากขาดสภาพคล่อง ทำให้ บสย. ต้องปรับเปลี่ยนองค์กรขนานใหญ่เพื่อรองรับการเติบโตของพอร์ตการค้ำประกันสินเชื่อ และจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งนำไปสู่ Digital Transformation โดยนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาพัฒนาและเชื่อมโยงการดำเนินงาน เพื่อสามารถเข้าถึงผู้ประกอบการ SMEs ได้ทุกกลุ่ม และทำให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถเข้าถึงบริการของ บสย. ได้มากขึ้นเช่นกัน

จากยุทธศาสตร์ดังกล่าว บสย. ได้วางบทบาทเป็น Credit Mediator เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุนให้ผู้ประกอบการ SMEs ผ่านกลยุทธ์ต่างๆ ได้แก่ พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงความต้องการของลูกค้า, เสริมสร้างพันธมิตรในการช่วยเหลือ SMEs และการเพิ่มบริการใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะการให้บริการผ่านช่องทาง Digital Platform ล่าสุด บสย. ได้เปิดบริการใหม่ผ่าน LINE OA @tcgfirst เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถเข้าถึงบริการ บสย. ได้ง่ายขึ้น ด้วยระบบที่ปลอดภัย ได้แก่ เปิดให้ลูกค้า บสย. สามารถยืนยันตัวตน เพื่อตรวจสอบข้อมูลหนังสือค้ำประกัน และตรวจสอบใบเสร็จและประวัติการชำระค่าธรรมเนียม รวมถึงเพิ่มบริการนัดหมาย “หมอหนี้ บสย.” ให้ผู้ประกอบการสามารถเข้ามาจองคิวขอคำปรึกษาผ่านบริการ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น

ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ค้ำประกัน ปัจจุบัน บสย. มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อในรูปแบบ RBP (Risk Based Pricing Product) คิดค่าธรรมเนียมตามระดับความเสี่ยงของ SMEs ซึ่งจะช่วยผู้ประกอบการรับภาระค่าธรรมเนียมค้ำประกันลดลงตามระดับความเสี่ยง ประกอบกับการนำเครื่องมือ Credit Scoring มาใช้ในการพิจารณาการค้ำประกันสินเชื่อ เบื้องต้นได้พัฒนาเสร็จสิ้นแล้ว 4 โมเดล แบ่งตามประเภทผู้ประกอบการ ได้แก่ Start Up, บุคคลธรรมดา, SMEs นิติบุคคล และ Micro SMEs โดย บสย. ได้รับคำแนะนำในการพัฒนาโมเดลต่างๆ จากธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างทดสอบภายในองค์กร ก่อนจะนำมาปรับใช้กับผู้ประกอบการ SMEs ในอนาคต

นายสิทธิกร กล่าวว่า ปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าถึง 70% ของ บสย. คือกลุ่ม Micro SMEs หรือผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้า แม่ค้า กลุ่มอาชีพอิสระ ที่มีปัญหาเรื่องหลักประกัน จึงถือเป็นอีกบทบาทหนึ่งของ บสย. ในการเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการกลุ่มนี้ ด้วยการเติมเต็มความรู้ทางด้านการเงิน และความรู้อื่นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินค้า และการแข่งขันให้ธุรกิจสามารถอยู่รอด และเติบโตได้

ทั้งนี้ ได้ตอกย้ำบทบาท Credit Mediator ในการเป็น “ตัวกลาง” เชื่อมระหว่างผู้ประกอบการ SMEs และสถาบันการเงิน ด้วยเป้าหมายหลักของ บสย. ที่มุ่งเน้นจำนวนรายของ SMEs ที่เข้าถึงสินเชื่อ และเข้าถึงการค้ำประกัน หนึ่งในหัวใจหลักคือ การทบทวน แก้ไข พ.ร.บ. บสย. เพื่อเพิ่มบทบาทการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่สามารถค้ำประกันบนสินเชื่อเท่านั้น เช่น การค้ำประกันตรงหนังสือประมูลงานภาครัฐ เพื่อเพิ่มโอกาส SMEs เข้าถึงงานภาครัฐได้ง่ายขึ้น เป็นต้น


อีกกลยุทธ์สำคัญคือ การปรับโมเดลสำนักงานเขตทั่วประเทศ (Branch Reformat) สู่การเป็นศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs โดยใช้ TCG Learning Center เป็นโมเดลต้นแบบในการพัฒนา ซึ่งปัจจุบันได้นำร่องที่สำนักงานเขตภาคตะวันออก และ สำนักงานเขตภาคกลาง โดยเปิดให้ผู้ประกอบการสามารถเข้ามาขอคำปรึกษาเรื่องการเงิน การขอสินเชื่อ รวมถึงการให้คำปรึกษาด้านการแก้หนี้ โดยปัจจุบันมี SMEs มารับคำปรึกษาและรับการอบรมผ่านศูนย์ฯ มากกว่า 17,000 ราย โดย บสย. สามารถช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อ (Success Rate) 14% จากจำนวนผู้ที่มาขอรับคำปรึกษา ซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเทียบจากช่วงเปิดศูนย์ฯ ในปี 2563 ที่มีสัดส่วนประมาณ 7%
นอกจากนี้ บสย. ยังมีมาตรการ “บสย. พร้อมช่วย” ช่วยลูกหนี้ บสย. ผ่านมาตรการ 4 สี ม่วง เหลือง เขียว และฟ้า ตามความสามารถในการชำระหนี้ เพื่อบรรเทาภาระหนี้ให้ลูกค้า “หนี้ลด หมดเร็ว ปลดหนี้” และพิเศษสำหรับลูกหนี้ที่มีประวัติชำระดี จ่ายต่อเนื่องอย่างน้อย 3 งวด ถ้าพร้อม “ปลดหนี้” บสย. ลดเงินต้นให้ 15% ระยะเวลามาตรการ 6 เดือน (ม.ค. – มิ.ย. 2567)

เป้าหมายหลักของ บสย. จากนี้ คือ การเดินหน้าให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ผ่านกลไกการค้ำประกันสินเชื่อของ บสย. และกลไกต่างๆ แม้ปัจจุบัน บสย. ได้ให้ความช่วยเหลือเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งทุนแล้วมากกว่า 8 แสนราย แต่ด้วยผู้ประกอบการ SMEs ในระบบที่มีกว่า 3.2 ล้านราย จึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายของ บสย. ในการปรับเพิ่มประสิทธิภาพองค์กรเพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ไทยได้มากขึ้น ภายใต้ค่านิยม “TCG Fast & First” รวดเร็ว รอบคอบ ที่หนึ่งในใจ SMEs เพื่อผลักดันการช่วยเหลือให้ไปถึงผู้ประกอบการ SMEs ครอบคลุมทุกกลุ่มทั่วประเทศ

ท่าช้าง คาเฟ่ PRESENTED “PRIDE OF CHIANG MAI” ครั้งที่ 3 งานแห่งความภาคภูมิใจ และชัยชนะ PRIDE MONTH แห่งความสดใส ของชาว LGBTQ+

วันอาทิตย์ ที่ 2 มิถุนายน 2567 นายภวฤทธิ์ กาญจนเกตุ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ประธานเปิดงาน พร้อมปล่อยขบวนพาเหรด “Parade We Are All Human” ท่าช้าง คาเฟ่ ร่วมกับ เทศบาลนครเชียงใหม่ ต้อนรับความหลากหลายทางเพศ สำหรับชาว LGBTQ+ ในเดือน PRIDE MONTH ณ ลานอเนกประสงค์ ข่วงประตูท่าแพ เชียงใหม่

โดยรับชมโชว์จาก Hisis ตามด้วยแฟชั่นโชว์จากดาราและเซเลป ได้แก่ คุณต่าย เพ็ญพักตร์ ศิริกุล,คุณรัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น,คุณหน่อง ธนา ฉัตรบริรักษ์,คุณนกยลลดา สวนยศ miss fabulous 2024,คุณเชน ธวัชสรรค์ เปล่งศิริวัธน์,คุณแพร ศรณิศาณ์ สิริสุรีภัสร์,คุณอ้วน รีเทิร์น (อนันต์ เสมาทอง),คุณดิว The star(นัทธพงศ์ พรมสิงห์),คุณไบรอัน ตัน จากนั้นต่อด้วยการแสดงอะลุยซุย และขบวนรถแห่ขบวนพาเหรด “Parade We Are All Human” มุ่งหน้าสู่ลานท่าช้าง คาเฟ่ หลังจากนั้นกิจกรรมความสนุกสนาน จากกลุ่มชาว LGBTQ+ มีการประกวดการแต่งกาย Colorful Party และชมมินิคอนเสิร์ต เอ็ดดี้ ตลาดแตก

ในปัจจุบัน การเข้าใจ และยอมรับ กลุ่มชาว LGBTQ+ ได้เปิดกว้างมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้แสดงออกถึงการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศในสังคมไทย ความหมายของเพศสภาพ สนับสนุนและเคารพความหลากหลายทางเพศ ท่าช้าง คาเฟ่ ได้จัดงาน ” PRIDE OF CHIANG MAI ” เป็นครั้งที่ 3 สำหรับในปีนี้ รณรงค์สร้างการรับรู้ด้านความหลากหลายทางเพศสภาพ ความเท่าเทียมกันในสังคม ของทุกเพศ ทุกวัย และการตระหนักถึงคุณค่าในความเป็นมนุษย์ ภายใต้แนวคิด We’re All Human.

ท่าช้าง คาเฟ่ร่วมส่งเสริมความเท่าเทียมกันในสังคม โดยเฉพาะกลุ่มชาว LGBTQ+ รวมไปถึงส่งเสริมเรื่องสิทธิ ในเรื่องการสมรสเท่าเทียม พร้อมเป็นกระบอกเสียงที่จะช่วยผลักดัน สนับสนุนให้กับกลุ่มชาว LGBTQ+ ได้มีพื้นที่แสดงออก เพื่อต่อสู้เพื่อสิทธิที่เท่าเทียมกันในสังคม

#ท่าช้างคาเฟ่ #LGBTQ+ #PrideOfChiangmai #ท่าแพ #PrideMonth #ColorfulParty
#Thachangcafe #Looker #Airasia #Singha #DewarsClub #Schweppes
#KULOV #AMBOOSE #M150 #แสงสว่าง #hylifegroup #CNX #LGBTQ

บิ๊กซี 5 สาขาเชียงใหม่ เปิดจำหน่ายเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ28 กรกฎาคม 2567

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 มิถุนายน 2567 ที่ บิ๊กซี สาขาเชียงใหม่ 2 บิ๊กซีเอ็กซ็ตร้า ต.หนองป่าครั่ง​ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายวิวัฒน์ โกมลตรี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการจำหน่ายเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีนายเอกภพ ชุมภูรัตน์ ผู้จัดการบิ๊กซี สาขาเชียงใหม่ 2 เป็นผู้กล่าวรายงาน การจำหน่ายเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์ งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวันนี้ เนื่อง​​ด้วยในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทางรัฐบาลไทย โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจึงได้จัดทำเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อจำหน่ายให้ประชาชนเป็นที่ระลึก รวมทั้งใช้ประดับเพื่อความเป็นสิริมงคล



ในการนี้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จำหน่ายเข็มอันทรงคุณค่านี้ให้แก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งทางกลุ่มบีเจซี บิ๊กซี ได้ให้การสนับสนุนเป็นผู้จัดจำหน่ายโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อส่งมอบรายได้ทั้งหมดให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นำรายได้ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย โดยได้วางจำหน่ายเข็มที่ระลึกนี้ในบิ๊กซี ทุกสาขาทั่วประเทศ​ ในราคาเข็มละ 300 บาท เริ่มจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2567 เป็นต้นไป



โดยได้เริ่มจัดจำหน่ายเข็ม ที่ระลึกตราสัญลักษณ์ฯ ให้แก่ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ ที่บิ๊กซี 5 สาขาในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่จำหน่ายแห่งเดียวที่ประชาชนทั่วไป สามารถมาจัดซื้อเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์ฯ ไปติดประดับเพื่อร่วมกันเฉลิมฉลองในโอกาส พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 ด้วยกัน บิ๊กซีเราพร้อมแล้วที่จะเปิดการจำหน่ายเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้ถึงมือประชาชนเพื่อร่วมเฉลิมฉลองอภิลักขิตสมัยพิเศษด้วยการประดับเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์ฯ อันเป็นสวัสดิมงคลยิ่งด้วยกัน​

ทางด้านนายวิวัฒน์ โกมลตรี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ตนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธี “เปิดการจําหน่ายเข็มที่ ระลึกตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาส พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” ในวันนี้ การที่บิ๊กซี ได้รับความไว้วางใจจากสํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี ให้เป็นผู้แทนจําหน่ายเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ ให้แก่ประชาชนทั่วไป โดยนับเป็นเรื่องที่น่ายินดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ บิ๊กซี สาขาเชียงใหม่ 2 ได้เป็นผู้แทนจําหน่ายที่ระลึกตราสัญลักษณ์ฯ ในจังหวัดของเราอีกด้วย โดยทางพี่น้องชาวจังหวัดเชียงใหม่ และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงจะได้มีโอกาสใน การจัดซื้อเป็นที่ระลึก และใช้ประดับเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย

“ในโอกาสนี้ ผมขอเชิญชวนประชาชนทุกท่านร่วมกันประดับเข็มที่ระลึกตรา สัญลักษณ์ ฯ เพื่อร่วมกันเฉลิมฉลองในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ด้วยกัน ผมขออํานวยพรให้บิ๊กซี สาขาเชียงใหม่ 2 ประสบความสําเร็จตามที่มุ่งหวัง และ ในโอกาสนี้ ผมใคร่ขอเปิดการจําหน่ายเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ บัดนี้ ”

หลังจากประกอบพิธีเปิดเสร็จสิ้น นายเอกภพ ชุมภูรัตน์ ผู้จัดการบิ๊กซี สาขาเชียงใหม่ 2 ได้มอบเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติให้ นายวิวัฒน์ โกมลตรี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเชียงใหม่ ประดับที่บนเสื้อเพื่อความเป็นสิริมงคล