เมตตาธรรมค้ำจูนโลก”ครูบานนท์” วัดล่ามช้าง ยึดมั่น”การศึกษาคือชีวิต”นำหลอดไฟโซล่าเซล มอบเด็กบนดอยไร้ไฟฟ้าใช้อ่านหนังสือ

แบบอย่างที่ดีงาม พระสงฆ์ที่ให้ความสำคัญ “การศึกษาคือชีวิต” ได้นำญาติโยมขึ้นไปมอบหลอดไฟโซล่าเซล ชนิดพกพา ชาร์ทด้วยพลังแสงอาทิตย์ ไปมอบให้แก่เด็กๆในถิ่นธุรกันดารไม่มีไฟฟ้าใช้ สร้างความดีใจแก่เด็กๆเป็นอย่างมาก

โดยเมื่อวันที่ 17 ก.พ.นี้ทางพระครูปลัดอานนท์ วิสุทโธ เจ้าอาวาสวัดล่ามช้าง ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้นำคณะผู้ใจบุญ นำหลอดไฟโซล่าเซลชนิดพกพา ที่ได้รับการบริจาคเงินจากศิษยานุศิษย์ผู้ใจบุญ นำขึ้นไปแจกโรงเรียนบ้านปงแม่ลอบและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หมู่บ้านชนเผ่ากระเหรี่ยงในถิ่นกันดารหมู่บ้านต่างๆบ้านขุนก๋อง,บ้านห้วยฮ่อมนอก ,ห้วยฮ่อมใน ต.ทาแม่ลอบ อ.แม่ทา จ.ลำพูน ซึ่งหมู่บ้านบนดอยส่วนมากไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวน ทางบ้านเด็กนักเรียนไม่มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งทางพระครูปลัดอานนท์ ได้ทำการมอบหลอดไฟโซล่าเซลพร้อมทั้งบอกวิธีการใช้โดยให้นำไปชาร์ทกับแสงอาทิตย์สามารถใช้ได้นานร่วม 5 ชั่วโมงต่อการชาร์ทครั้งหนึ่งซึ่งสร้างความดีใจให้กับเด็กๆเป็นอย่างยิ่ง

นายสมัคร ไชยสมภาร ผอ.โรงเรียนบ้านปงแม่ลอบ ได้เผยว่าที่แห่งนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้และแผงโซล่าเซล ที่เคยมีผู้มาบริจาคนานแล้วเสื่อมสภาพลงหมด ชาวบ้านไม่มีเงินที่จะซ่อม ทำให้เด็กนักเรียนจำนวนมากที่มีฐานะยากจนไม่มีไฟฟ้าใช้ จึงขอให้ทางพระครูปลัดอานนท์ ที่ได้เคยผ่านมาที่หมู่บ้านนี้ได้สนับสนุนหลอดไฟโซล่าเซลเพื่อเด็กๆจะได้อ่านหนังสือและทำกิจกรรมได้ในตอนกลางคืน ซึ่งตามโครงการของตนต้องการให้เด็กอ่านหนังสือทุกวันวันละ 1 ชั่วโมงโดยอ่านให้ผู้ปกครองฟัง การได้หลอดไฟฟ้ามาจะเป็นทางเลือกสำหรับเด็กๆนักเรียน เปิดโอกาสสามารถนำไปทำกิจกรรมที่บ้านได้ไว้อ่านหนังสือ ทำการบ้านได้ถือว่าได้ประโยชน์มาก

ด้านพระครูปลัดอานนท์ วิสุทโธ เจ้าอาวาสวัดล่ามช้าง เผยว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ได้รวบรวมปัจจัยจากศรัทธาญาติโยมซื้อหลอดไฟโซล่าเซลมาบริจาคให้กับเด็กนักเรียนในถิ่นธุรกันดา เพราะเท่าที่ตนเห็นมาเด็กๆไม่มีไฟฟ้าใช้ เวลาอ่านหนังสือต้องจุดเทียนอ่านกันซึ่งตนจะดำเนินการให้เด็กในถิ่นกันดารของ จ.ลำพูน จ.เชียงใหม่ที่ อ.อมก๋อย และ จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนจากญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งโครงการนี้จะทำต่อไปเรื่อยๆเพราะถือว่า “การศึกษาคือชีวิต”


สำหรับพระครูปลัดอานนท์ วิสุทโธ เจ้าอาวาสวัดล่ามช้างวัดเก่าแก่อายุกว่า 700 ปีคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ เป็นพระสงฆ์ที่มีลูกศิษย์ลูกหาทั้งในและต่างประเทศ เป็นพระสงฆ์ที่ใฝ่ในการศึกษาหาความรู้และเป็นพระนักพัฒนา เป็นที่ปรึกษาของสถาบันการศึกษาดังของเชียงใหม่//

ผบ.ตร.แถลงข่าวการจับกุมเฮโรอิน 551 กิโลกรัม ยาบ้า 8 ล้านเม็ดฝีมือตำรวจภูธรภาค5

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 16 ก.พ.นี้ ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร , พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต, ร่วมกับ พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 และ พล.ต.ต.มาโนช มีสกุลคุณ ผบก.ภ.จว.แพร่ พร้อมฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครองพร้อมทั้ง นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 แถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ 2 ราย ผู้ต้องหา 2 คน ของกลาง เฮโรอีน 1,400 แท่ง น้ำหนักประมาณ 551 กิโลกรัมพร้อมยาบ้าประมาณ 8,000,000 เม็ด รถยนต์บรรทุก 10 ล้อ 2 คันรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ เลขทะเบียน 70 9612 นครราชสีมา

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้เผยว่าการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดทั้งสองราย เกิดขึ้น วันที่ 14 ก.พ. 2564 เวลาประมาณ 08.40 น.สถานที่จับกุม ด่านตรวจห้วยไร่ อ.เด่นชัย จว.แพร่หน่วยจับกุม บก.สส.ภ.5, กก.1 บก.ปส.1 บช.ปส., ภ.2, และ ภ.จว.แพร่ทำการตรวจค้น รถยนต์บรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ เลขทะเบียน 70 9612 นครราชสีมา มี นายปรีดา สงวนหงส์ อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 23/1 หมู่ 6 ต.เนินทราย อ.เมืองตราด จว.ตราด เป็นรถบรรทุกมะม่วงมาเต็มคันผลการตรวจค้นพบเฮโรอีนซุกซ่อนในกระสอบปุ๋ย คลุมด้วยถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 17 กระสอบ ภายในบรรจุเฮโรอีนชนิดอัดแท่ง จำนวน 80 แท่ง รวมจำนวน 1,360 แท่ง , ซุกซ่อนในกระสอบคลุมด้วยถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 1 กระสอบ ภายในบรรจุเฮโรอีนชนิดอัดแท่ง จำนวน 40 แท่ง รวมเฮโรอีน จำนวน 1,400 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 551 ก.ก.

การจับกุมครั้งนี้ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 11 ก.พ.2564 บก.สส.ภ.5 ได้รับการประสานจาก บก.สส.ภ.2 ว่า กลุ่มลำเลียง ยาเสพติดพื้นที่ จว.ตราด จะใช้รถยนต์บรรทุก 10 ล้อ เข้ามาลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ ภ.5 เพื่อลักลอบลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ ทางพล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 จึงได้สั่งการให้ บก.สส.ภ.5 ทำการสืบสวนติดตามจับกุม โดยการบูรณาการร่วมกันทำงานระหว่าง ภ.5, ภ.2 และ บช.ปส. ในการสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มลำเลียงยาเสพติดเครือข่ายดังกล่าว โดยมี พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 , พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5

ต่อมาเมื่อวันที่ 11 ก.พ.2564 เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้ตรวจพบรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ เลขทะเบียน 70 – 9612 นครราชสีมา จอดในพื้นที่ หอพักสุขสบาย ต.หย่วน อ.เชียงคำ จว.พะเยา จึงได้สะกดรอยสืบสวนติดตามจากการสืบสวนในห้วงวันที่ 11-13 ก.พ.2562 พบชาย 1 คน คือ นายปรีดา สงวนพงศ์ ได้ขับรถวนอยู่ในพื้นที่ อ.เชียงคำ, อ.จุน, อ.ดอกคำใต้ และ อ.ปง แล้วเข้าพักบริเวณตามปั๊มน้ำมัน หรือจอดรถบริเวณข้างถนน จึงได้สะกดรอยสืบสวนติดตามอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา โดยในวันที่ 13 ก.พ.2564 เวลาประมาณ 21.50 น. รถยนต์บรรทุก 10 ล้อคันดังกล่าว ได้ขับออกจากปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ ต.หย่วน อ.เชียง และขับมุ่งหน้าไปยัง ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จว.พะเยา ซึ่งเป็นหมู่บ้านกลุ่มคนชนเผ่าม้ง ซึ่งมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเชื่อว่ารถยนต์คันดังกล่าวจะไปรับยาเสพติด จึงได้จัดกำลังเฝ้ารอบริเวณเส้นทางในพื้นที่ อ.เชียงคำ จว.พะเยา จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.30 น. พบรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ คันดังกล่าว ขับลงมา จากหมู่บ้าน ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ ฯ ผ่าน ทางแยก รพ.เชียงคำ มุ่งหน้าไป อ.จุน จึงได้สะกดรอยติดตาม ซึ่งใช้เส้นทางผ่าน อ.จุน , อ.ดอกคำใต้ จว.พะเยา ผ่าน อ.งาว จว.ลำปาง เข้าสู่ พื้นที่ อ.สอง จว.แพร่


จนกระทั่งต่อมาในวันที่ 14 ก.พ.2564 เวลาประมาณ 08.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงเรียกตรวจค้นรถยนต์บรรทุก 10 ล้อคันดังกล่าว ที่ด่านตรวจห้วยไร่ อ.เด่นชัย จว.แพร่ พบ นายปรีดา สงวนหงส์ อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 23/1 หมู่ 6 ต.เนินทราย อ.เมืองตราด จว.ตราด ขับรถมาแต่เพียงผู้เดียว ตรวจค้นรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ พบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายในกระบะบรรทุก โดยมีตะกร้าผลไม้/มะม่วงวางทับอยู่ จึงจับกุมตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายนี้ เพื่อติดตาม จับกุม นำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

ส่วนรายที่ 2 วันที่ 15 ก.พ. 64 เวลา 04.10 น.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด่านตรวจห้วยไร่ อ.เด่นชัย จว.แพร่ ได้ทำการตรวจค้นรถบรรทุก 10 ล้อต้องสงสัยเป็นรถรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ หมายเลขทะเบียน 70-1966 ชัยภูมิ มีนายวุฒิชัย นวลเกตุ อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 60/2 หมู่ 4 ต.ดงมูลเหล็ก อ.เมือง จว.เพชรบูรณ์ เป็นคนขับพบว่าบรรทุกกระสอบถ่าน ทางตำรวจได้เข้าตรวจค้นอย่างละเอียดพบยาบ้า ใส่กระสอบซุกซ่อนมาประมาณ 8,000,000 เม็ด

การจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยไร่ ประจำด่านตรวจยาเสพติดห้วยไร่ ปฏิบัติหน้าที่สกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดนเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ04.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งทำหน้าที่คัดกรองรถประจำด่านตรวจฯ ได้เรียกตรวจรถยนต์บรรทุก10 ล้อคันดังกล่าว โดยมี นายวุฒิชัย นวลเกตุ เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ได้สอบถามนายวุฒิชัยฯ ให้ข้อมูลว่า ได้บรรทุกถ่านไม้ จะเดินทาง ไป จว.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ได้นำรถเข้าจุดตรวจค้นโดยใช้เหล็กแหลมเสียบเข้าไปในกระสอบถ่านไม้ ปรากฎว่าสามารถแทงทะลุผ่านกระสอบได้โดยง่าย


ซึ่งจากการสันนิษฐานเบื้องต้น วัตถุภายในกระสอบไม่น่าจะใช่ถ่านไม้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบโดยละเอียด พบเป็นยาบ้าจำนวน 40กระสอบๆ ละ 200,000 เม็ด รวมยาบ้า 8ล้าน เม็ด จากการสอบถาม ในเบื้องต้น นายวุฒิชัยฯ ให้การว่าได้มีนายฉลวยศักดิ์ จันทร์แย้ม บ้านเลขที่ 14 หมู่ 2 ต.บ้านโคก อ.เมืองเพชรบูรณ์ จว.เพชรบูรณ์ และ นายกฤษณะ แก้วแท้ บ้านเลขที่ 128/2 หมู่ 11 ต.บ้านโคก อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ เดินทางโดยรถยนต์กระบะ โตโยต้า สีบรอนด์ทอง หมายเลขทะเบียนผข 8378 เพชรบูรณ์ มารับตนเอง เพื่อให้ร่วมเดินทางไปซื้อรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ โดยให้ช่วยดูรถและขับรถด้วย นายฉลวยศักดิ์ฯ และ นายกฤษณะฯ ได้ขับรถยนต์บรรทุก 10 ล้อก่อน ในช่วงแรก แต่พอมาถึงบริเวณสามแยกซึ่งไม่ทราบว่าเป็นจุดใดแน่ชัด บุคคลทั้ง 2 จึงสลับให้นายวุฒิชัยฯ ขับรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ จนถึงด่านตรวจห้วยไร่ และถูกจับกุมในที่สุด โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนขยายผล เพื่อติดตาม จับกุม ผู้ร่วมขบวนการต่อไป


พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.เผยว่าการจับกุมยาเสพติดครั้งนี้โดยเฉพาะเฮโรอิน จำนวน 551 กิโลกรัมถือเป็นรายใหญ่ที่สุด ซึ่งกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด ขนจากชายแดนด้าน อ.เวียงแก่ง จ.เชียงรายเข้าไปในพื้นที่ ตอนกลาง โดยเป้าหมายนำออกต่างประเทศ ซึ่งมีวิธีการใช้รถ 10 ล้อ ในการขนซึ่งถือเป็นการปรับเปลี่ยนวิธีการขนจากรถกระบะทั่วไปมาใช้รถบรรทุกโดยใช้พืชไร่และกระสอบถ่าน ซึ่งโดยเฉพาะถ่านน่าจะใช้ดับกลิ่นยาบ้า ซึ่งในเรื่องนี้ได้สั่งการให้มีการขยายผลถึงตัวการใหญ่ซึ่งในขณะนี้เตรียมออกหมายจับและยึดทรัพย์แล้ว/


ทาง พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 เผยว่าการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดทั้งสองรายนี้เป็นผลมาจากทางตำรวจภูธรภาค 5 จัดยุทธการพิทักษ์ล้านนา กดดันขบวนการค้ายาเสพติดที่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย และ อ.ภูซาง จ.พะเยา ทำให้มีการขนย้ายยาเสพติดออกนอกพื้นที่โดยทั้งสองรายขนมาจาก ต.สบปง อ.ภูซาง จ.พะเยา เป็นบริเวณที่ทางตำรวจไปปฎิบัติการตรวจค้น โดยคนร้ายอาศัยช่วงตรุษจีนและวันหยุดขนยาเสพติด โดยทั้งสองรายเป็นคนละกลุ่มกัน เป็นเครือข่ายภาคตะวันออก จ.ตราด โดยคนร้ายขนเฮโรอินรับจ้างมาจำนวน 1 แสนบาท ส่วนคนร้ายที่ขนยาบ้ารับจ้างมา คนละ 6หมื่นบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับมูลค่าเฉพาะเฮโรอิน หากขนออกนอกประเทศไปได้จะมีมูลค้าร่วม 2,000 ล้านบาท ซึ่งทางตำรวจเตรียมขยายผลจับกุมผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งในขณะนี้ขยายผลรูปกลุ่มผู้กระทำผิดแล้ว เตรียมเสนอออกหมายจับและยึดทรัพย์ต่อไป///

 

ตระการตา”ซากุระดอย”พญาเสือโคร่งบานสะพรั่ง ดอยขุนวาง อ.มแม่วาง จ.เชียงใหม่

นักท่องเที่ยวยังแห่ชม”ดอกซากุระเมืองไทย “พญาเสือโคร่งบานสะพรั่งที่ดอยขุนวาง จ.เชียงใหม่

นักท่องเที่ยวยังแห่ขึ้นไปชมความงดงามของ”ซากุระเมืองไทย”ดอกพญาเสือโคร่งบาน บนยอดดอยขุนวาง ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ดดยตลอดเส้นทางขึ้นสู่ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) ไม่ว่าจะขึ้นทางเส้นทางดอยอินทนนท์ ก็จะพบดอกพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งตลอดเส้นทางที่เข้าไปสู่ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) เป็นภาพที่งดงามตายิ่งนัก และเมื่อเข้าไปที่บริเวณภายในซึ่งมีการจัดหนาวนี้ที่ขุนวาง

ซึ่งมีการตั้งจุดป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดโดยเจ้าหน้าที่จะปล่อยเข้าไปชมรอบละ 50 คนต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิเว้นระยะห่างในการเข้าชม โดยภายในดอกซากุระเมืองไทย หรือพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งเป็นสีชมพูตัดกับต้นไม้เขียวของดอยขุนวางเป็นภาพงดงามสุดบรรยาย และภายในยังมีถนนผ่านอุโมงค์พญาเสือโคร่ง ทำให้นึกถึงบรรยากาศดอกซากุระบานที่ญี่ปุ่น ซึ่งจุดนี้เป็นไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวพากันไปถ่ายภาพและเลือกมุมประทับใจในการเซลฟี่กับดอกพญาเสือโคร่ง ทีมีทั้งสีชมพูและสีขาว ซึ่งที่บริเวณแห่งนี้ทราบว่าจะออกดอกยาวไปถึงกุมภาพันธ์ก็จะหมดไป

สำหรับ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) ตั้งอยู่บนดอยอินทนนท์ ได้รับการจัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2525 ครั้งนั้นพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ท่านทรงมีพระราชดำรัสให้กองพืชสวน กรมวิชาการเกษตร ดำเนินการใช้ท้องทุ่งแห่งนี้ เป็นสถานที่ทดลองและขยายพันธุ์พืชบนที่สูง เพื่อส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยี แก่เกษตรกรบนที่สูง และเพื่อทดแทนการปลูกฝิ่น

 

นักท่องเที่ยวที่มาเยือนศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) จะได้สนุกไปกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เต็มไป ชมความสวยงามแห่ง แปลงไม้ ผลเมืองหนาวที่จะพากันออกดอกบานสะพรั่งดูสดใส ไม่ว่าจะเป็นสาลี่ พลัม ท้อ แนคตารีน หรือสตรอว์เบอร์รี่ หรือเดินชม ศึกษาแปลงทดลองการเกษตรภายในศูนย์ฯ

โดยในช่วงเดือนมกราคมจะได้ สัมผัสความสวยงามของดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระดอย ที่พากันออกดอกสีชมพูสว่างไสวเต็มต้น ขับให้ดอยขุนวางกลายเป็นสีชมพูไปทั้งดอย โดยจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งภายในสถานีเกษตรที่สูงขุนวางที่น่าสนใจมี 2 จุด คือ มุมด้านหน้าสถานีเกษตรขุนวาง บริเวณแปลงดอกไม้เมืองหนาว และ จุดไฮไลต์ อุโมงค์พญาเสือโคร่ง ต้องเข้าไปข้างในโครงการ จะพบกับความงดงามตื่นตาตื่นใจเลยทีเดียว

คนแพร่ใจบุญตัดเย็บเสื้อกันหนาวช้างให้บรรดาช้างๆปางช้างแม่สาคลายหนาว

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 4 ม.ค.นี้ เจ้าหน้าที่และควาญช้าง ของปางช้างแม่สา ช่วยกันนำชุดกันหนาวช้างที่ผู้ใจบุญ คือ คุณประชิต กาทองทุ่ง นายก อบต.ร่องฟอง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ บริจาคให้ จากเดิมเป็นผ้าผืนใหญ่ธรรมดาที่นำมาเย็บต่อกันเป็นผ้าห่มให้ช้าง แต่ครั้งนี้ได้ส่งพนักงานมาวัดสัดส่วนของช้างทุกเชือก ให้เข้ากับขนาด และออกแบบให้เข้ากับสรีระ เพื่อให้ช้างสามารถสวมใส่ชุดกันหนาวได้ โดยไม่รำคาญ และชุดไม่หลุดเวลาเดิน รวมทั้งยังขับถ่ายได้ตามปกติ


โดยวันนี้ได้นำชุดกันหนาวลักษณะเหมือนเสื้อกันหนาวคนมีแขนขาด้วย จำนวน 7 ตัวที่ตัดเย็บจากผ้านาโนและผ้าสำลี น้ำหนัก 6 กิโลกรัม มาทดลองใส่ให้ช้างทั้งหมด 7 เชือก อาทิ ช้างน้อยพังเอื้องคำ อายุ 3 ปี ช้างพังเพิ่มพูน อายุ 22 ปี ช้างพังแม่ม้า อายุ 50 ปี ช้างพังพรทิพย์ อายุ 50 ปี ช้างพังแม่วันเพ็ญ 2 อายุ 22 ปี พังแม่มูลอายุ 50 ปี และช้างพลายปู่บานเย็น อายุ 75 ปี ปรากฎว่าช้างเมื่อได้ใส่เสื้อกันหนาวแล้ว รู้สึกชอบจากการใส่แบบไม่มีอาการรำคาญให้เห็นกลับนิ่งเฉย ซึ่งนักท่องเที่ยวได้เห็นต่างชื่นชอบเหมือนช้างใส่เสื้อกันหนาวหรือกางเกงขายาว เข้ากับรูปร่างแต่ละตัว

คุณอัญชลี กัลมาพิจิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปางสาแม่สา จำกัด เปิดเผยว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นโดยเฉพาะช่วงกลางคืน และช่วงเช้า ซึ่งปางช้างตั้งอยู่ติดภูเขาจึงมีอากาศจึงหนาวเย็นกว่าพื้นราบ อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ประมาณ 10 เซลเซียส ทำให้ควาญช้างต้องค่อยสุมไฟ และนำผ้ามาห่มให้ช้างทั้ง 73 เชือก เพื่อคลายหนาว

โดยเฉพาะช้างชรา เพราะหากช้างป่วยเป็นไข้จะทำให้ช้างกินน้ำและอาหารน้อยลง ทั้งนี้ปางช้างเองก็มีวัสดุผ้าห่มที่นำมาห่มให้ช้างช่วยคลายความหนาวเย็นอยู่แล้ว ในอนาคตเตรียมจะตัดเย็บชุดกันหนาวให้ช้างเพิ่มเติมจนครบทุกตัว หรือบางตัวที่มีขนาดตัวใหญ่ขึ้น ชุดกันหนาวเดิมก็จะตกทอดไปยังช้างที่ตัวเล็กกว่า

คุณอัญชลี บอกว่า ถือเป็นไอเดียการตัดเย็บชุดกันหนาวให้กับช้างแม่สาเป็นที่แรกในโลกเลยก็ว่าได้ เพราะปางช้างแม่สาเราห่วงใยสุขภาพช้างทุกเชือก ไม่อยากให้เจ็บป่วย นอกจากชุดกันหนาวช้างแล้ว ทุกๆวันจะให้สัตวแพทย์ตรวจวัดอุณหภูมิของช้างทุกเชือก และตรวจสุขภาพช้างตลอดเวลา

พรครูบาน้อย เตชปัญโย สู่ปีใหม่ 2564 ขอห่างไกลจากสัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย

กล้ถึงปีใหม่ 2564 พระครูสิริศิลสังวรณ์ หรือ ครูบาน้อย เตชปัญโญ เกจิอาจารย์ล้านนา เจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ใด้เมตตาให้พรบรรดาศิษยานุศิษย์เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้จากกระแสไวรัสโควิด 19 ส่งผลกระทบกับผู้คนทุกระดับรวมทั้งวัดวาอารามก็พลอยได้ผลกระทบไปด้วย โดยเฉพาะครูบาน้อย มีลูกศิษย์เป็นชาวต่างชาติจำนวนมาก ทั้งจีนและสิงคโปร์ ไม่สามารถเดินทางมาได้ สำหรับพรปีใหม่ของครูบาน้อย ยังมีคาถาแนบท้ายให้ทุกครั้ง


ครูบาน้อย เตชปัญโญ ได้เมตตาให้พรปีใหม่”ในโอกาสใกล้จะสิ้นปีอยู่แล้ว ขอให้พี่น้องศรัทธาทุกคนทุกท่านจงพ้นจากภัยไกลจากทุกข์
พ้นจากสัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเสนียดจัญไรทั้งมวลทั้งหลาย ภัยพิบัตินานาต่างๆหรือโรคร้ายโควิด 19ทั้งหลายทั้งมวลอย่าได้มากล้ำกรายยังตนยังตัว ขอให้พี่น้องศรัทธาทุกคนจนพ้นจากพิบัตินานาต่างๆหนักขอให้เป็นเบา ร้อนให้เป็นเย็นมืดให้สว่าง ขุ่นมัวจะได้แจ่มใสโอกาสต่างๆคลี่คลายไปในทางที่ดี ต่อไปเมื่อเข้าถึงวันเดือนปี พ.ศ.2564 ที่จะมาถึงขอให้ศรัทธาทุกท่านจึงมีสติทุกเมื่อ กอบกิจการงานต่างๆขอให้ทะลุปรุโปร่ง คิดเงินขอให้ได้เงิน คิดทองก็ขอให้ได้ทอง การงานสำเร็จผล ขอให้มีอายุมั่นขวัญยืน ขอให้เจริญงอกงามสมบูรณ์พูนผลตลอดปี2564 นี้ขอให้โชคดีมีชัย เฮงๆๆรวยๆๆทั้งทรัพย์ภายในและทรัพย์ภายนอกยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ”

แม่ทัพภาคที่ 3 ร่วม ผบช.ภ.5 และผู้ว่าฯเชียงใหม่บินตรวจเส้นทางและจุดสกัดไวรัสโควิด19

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.นี้พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์แม่ทัพภาคที่3 นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.เชียงใหม่ พล.ต.ท. ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 พล.ต.ต. พิเชษฐ จิระนันตสิน  ผบก.ภจว. ชม. ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจเส้นทางตามแนวตะเข็บชายแดน อ .แม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และอ.แม่สาย.จ.เชียงราย หลังพบหญิง อายุ 29ปี ทำงานที่ร้านเสริมสวย อ.แม่อาย ที่เดินทางไปเลือกตั้ง อบจ.ที่บ้านเกิด จ.อยุธยา  ติดเชื้อโควิด จนทำให้ทางคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่สั่งล๊อกดาวน์3 ตำบล อ.แม่อาย   คือ ตำบลท่าตอน ตำบลแม่อาย และตำบลมะลิกา และสั่งปิดโรงเรียน  ก่อนจะนำรถชีวนิรภัยไปตรวจหาเลื้อให้กับประชาชนในพื้นที่ 3ตำบล ที่ เทศบาลตำบลแม่อายตั้งแต่วันที่ 20ธค.63โดยวันแรกตรวจทั้งหมด145คน ผลตรวจเป็นลบทั้งหมดและวันที่2ตรวจ 386คน ผลตรวจทั้งหมดก็เป็นลบ

พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์แม่ทัพภาคที่3 ได้เผยว่าได้การมาตรวจในครั้งนี้เป็นเดสการติดตามเหตุที่มีคนติดเชื้อในพื้นที่ อ.แม่อาย โดยไปตรวจพบที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากในห้วงที่ผ่านมาทหารของเราสามารถสกัดกั้นโดยเฉพาะในพื้นที่ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงรายที่จะเข้ามาได้อย่างดีมากโดยทุกคนที่้ผ่านเข้ามาจะผ่านระบบคลอรันทีน แต่ในพื้นที่แม่อายกลับมี 1 คนและหลุดเข้าไปที่ จ.พระนครศรีอยุธยาเราพยายามตามหาความจริงว่าในข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรและทางเชียงใหม่มีมาตรการอย่างไร แต่ในส่วนของตนต้องการทราบว่าเรามีจุดบอดอยู่ตรงไหน จะนำมาพิจารณาว่าการตั้งจุดตรวจจุดสกัดการจะสกัดกั้นคนที่จะเข้าเมืองอย่างลักลอบเรายังทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน เรามีจุดบอดที่ไหน เพราะหลังวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมาเรามีกำลังเพิ่มขึ้นอีก 2 กองร้อยเพื่อสกัดกั้นในพื้นที่ทีคิดว่ายังหละหลวมอยู่ จึงมาขอทราบข้อเท็จจริงและฟังมาตรการป้องกันจากทางจังหวัดและผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค5ว่าข้อมูลที่แท้จริงที่มีการติดจาก อ.แม่อายไปเป็นอย่างไร หากเป็นจุดอ่อนของเราก็จะได้ปรับการทำงานต่อไป


พลตำรวจโท ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ. 5เปิดเผยว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้จากการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ เป็นชาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ไปตรวจพบที่ จ.พระนครศรีอยุธยาทางตนและแม่ทัพภาคที่ 3 ผวจ.เชียงใหม่และคณะจึงได้เดินดูที่ อ.แม่อาย ซึ่งก็อยากจะบอกในขณะนี้เรายังไม่ทราบว่าผู้ติดเชื้อรายนี้ติดจากที่ไหนอย่างไร เนื่องจากบุคคลที่เกี่ยวข้องที่เสี่ยงใน อ.แม่อาย ทางเราได้ดำเนินการนำมาตรวจเป็นจำนวนมากแต่ยังไม่พบผู้ใดติดเชื้อดังกล่าว อย่างไรก็แล้วแต่ทางตำรวจภูธรภาค5 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนได้ติดตามไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้ออย่างชัดเจนจึงอยากจะฝากไปยังผู้เกี่ยวข้องรับทราบข้อมูลผู้ติดเชื้อรายนี้ไปที่ไหนอย่างไรมาขอให้แจ้งให้ทางเราทราบเราจะติดตามตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ในส่วนการดำเนินการทางตำรวจภูธรภาค5 ได้จุดตรวจสกัดที่ลักลอบป้องกันคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาตามแนวชายแดนฝั่ง อ.แม่สาย เชียงรายและ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ซึ่งตำรวจภูธรภาค5 ได้ตั้งจุดตรวจยกระดับความเข้มข้นในการป้องกันและสกัดกั้นการป้องกันลักลอบข้ามมาของแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ตามแนวชายแดนในพื้นที่8จังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงได้มีการตั้งด่านตรวจจังหวัดแม่ฮ่องสอน 6จุด เชียงราย 6จุด และเชียงใหม่5จุด พร้อมกันนี้ได้มีการจุดชุดลาดตระเวนเคลื่อนที่เร็วอีก183นาย เพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามายังพื้นที่พร้อมกันนี้ได้ขอความร่วมมือไปยัง ผู้ประกอบการ และสถานบันเทิง ให้มีการคัดกรองอีกทางด้วย

ด้านนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าสถานการณ์เดิมของเชียงใหม่มันไม่มีการแพร่ระบาดแล้วนานถึง 6 เดือน แต่ต่อมาช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน -ต้นธันวาคม พบว่ามีผู้ติดเชื้อในพื้นที่เชียงใหม่ แต่จากการสอบสวนโรคเป็นการลักลอบเข้ามาไม่ใช่การแพร่ระบาด ในส่วนของผู้มีความเสี่ยงทั้งหลายก็มีการผ่านขบวนการตรวจเชื้อผลก็เป็นเนกาตีฟ แต่ต่อมามีรายงานจาก จ.อยุธยา มีชาวอยุธยาที่มาทำงานที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ กลับไปที่อยุธยาพบว่ามีการติดเชื้อ เมื่อมีข้อมูลเช่นนี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ทางจังหวัดได้มีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและขอควบคุมการเดินทางของผู้มีไทม์ไลน์ของเขา ก็คือตำบลแม่อาย ,ท่าตอนและมะลิกา จำกัดการเดินทางเพื่อให้มีการเคลื่อนไหนน้อยที่สุด เพื่อดำเนินการในเชิงรุกได้มีการตรวจกลุ่มผู้เสี่ยงที่มีการสัมผัสในกลุ่มแรก 145 คนและจะตรวจไปเมื่อไม่พบก็จะทำการผ่อนคลาย โดยจะทำการตรวจ 3 วัน

ซึ่งในขณะนี้ยังไม่พบผลเป็นเนกาตีฟโดยทางเจ้าหน้าที่ สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับ รพ. แม่อายได้มีการนำรถพระราชทานชีวนิรภัยมาตั้งตรวจคัดกรองทั้ง3ตำบลพื้นที่เสียงแล้วซึ่งตั้งแต่ตรวจมายังไม่พบการติดเชื้อ โดยทางเจ้าหน้าที่ขอคัดกรองอีก1วันถ้าหากไม่พบว่ามีผู้ติดเชื้อก็จะเปิดให้ประชาชนใน3ตำบลของอำเภอแม่อายกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงที่ทางพลโทอภิเชษฐ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมคณะตรวจสอบ นพ.เฉลิม โพธานารักษ์ ผอ.โรงพยาบาลอำเภอแม่อาย ได้รายงานให้ทางแม่ทัพและ ผวจ.เชียงใหม่ ว่าทางแพทย์ได้ทำการตรวจผู้ใกล้ชิดทั้งหมด ผลเป็นลบไม่พบผู้ติดเชื้อ ซึ่งตามรูปการณ์แล้ว มีการตรวจสอบเส้นทางที่นั่งรถยนต์ตู้จากแม่อายไป อำเภอฝาง คนที่ร่วมทางไปได้ติดต่อนำมาตรวจแล้วก็ไม่พบผู้ติดเชื้อ จึงจะทำการติดตามผู้ที่นั่งในรถประจำทางที่ออกจากเชียงใหม่ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้อาจจะรับเชื้อในรถที่จะไปอยุธยา อย่างไรก็ตามอยู่ช่วงติดตามอยู่จากนั้นคณะแม่ทัพภาค 3 ได้เดินทางไปตรวจจุดสกัดที่ดอยผาหมี อ.แม่สาย จ.เชียงรายโดยกำชับมาตรการคุมเข้มผู้ลักลอบเข้ามาซึ่งมีการวางลวดหนามสกัดกั้นแนวชายแดนไว้หมดแล้ว

 

โอ๊ะแม่เจ้า..สวยสะคราญตา สาวงามว่าที่นางสาวไทย2563 โชว์โฉมชุดว่ายน้ำ

โชว์โฉมสะคราญเหนือเมืองเชียงใหม่ เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 10 ธ.ค.นี้ที่บริเวณสระว่ายน้ำดาดฟ้าชั้น5 โรงแรมยูนิมมาน ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ บรรดาสาวงามผู้ประกวดนางสาวไทย ทั้ง 30 สาวงาม ได้โชว์โฉมในชุดว่ายน้ำให้คณะกรรมการผู้ร่วมตัดสินนางสาวไทย ได้โชว์โฉมพร้อมให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ

ซึ่งในเวลาดังกล่าวอากาศไม่หนาว มีแต่ลมพัดโชย สาวงามแต่ละนางออกมาโชว์ในชุดว่ายน้ำแบ่งกลุ่มเป็นสีชมภู สีม่วง สีเขียว ซึ่งสาวงานแต่ละคนมีความงดงามทั้งรูปร่างหน้าตาที่ใกล้เคียงกันมาก ซึ่งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้ดูและมีการไลฟ์สดทางเพจ นางสาวไทย ด้วย


นายอดิศร สุดดี ผู้จัดการประกวดนางสาวไทย ได้เผยว่าในขณะนี้สาวงามทั้งหมดมีความพร้อมอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นบรรดาสาวงามที่ได้รับบาดเจ็บจากสะพานขาดที่ปางเปาก็กลับมาร่วมกิจกรรมได้ทุกคนแล้ว

ซึ่งในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ก็จะมีการตัดสินตำแหน่งนางสาวไทยประจำปี 2563 โดยผู้ชนะเลิศได้ตำแหน่งนางสาวไทยจะได้เงินสดจำนวน 1 ล้านบาทพร้อมมงกุฎเพชรสายสะพายและรางวัลอื่นอีกมากมาย

โดยการตัดสินตำแห่งภายในเวลา 22.30 น.ของวันที่ 13 ธ.ค.นี้ที่เวทีการประกวดที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่

ตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมทหาร ปส. เปิดยุทธการฟ้าสางที่ล้านนา เชียงราย ล้างเครือข่ายนรกยึดทรัพย์กว่า300 ล้านบาท

ตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมทหาร ปส. เปิดยุทธการฟ้าสางที่ล้านนา เชียงราย ล้างเครือข่ายนรกยึดทรัพย์กว่า300 ล้านบาท

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 30 พ.ย.63 ที่หน้า สภ.เวียงป่าเป้า อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พล.ท.บุญยืน อินกว่าง มทน.3/ผบ.ศป.บส.ชน. นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 ได้แถลงข่าวการกวาดล้างยาเสพติดและขยายผลการยึดทรัพย์ ภายใต้การปฏิบัติการยุทธการฟ้าสางที่ล้านนา@เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย” โดยปฎิบัติการต่อเนื่้องตั้งในห้วงวันที่ 21 – 30 พ.ย.2563 โดยมีเป้าหมายปิดล้อมตรวจค้น จำนวนทั้งสิ้น 842 เป้าหมาย โดยเน้นตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติด นายวิวัฒน์ชัย หรืออู๋ ศิริมิรินทร์ เอเย่นต์รายเสพติดรายใหญ่ระดับประเทศ โดยได้นำของกลางยาเสพติด และรถยนต์ บ้านพักหรู ทั้งในพื้นที่ อ.เวียงป่าเป้าและในกรุงเทพ ที่มีมูลค่ากว่า300 ล้านบาท


พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 ได้เผยว่าในคดีของนายวิวัฒน์ชัย หรืออู๋ ศิริมิรินทร์ เอเย่นต์รายเสพติดรายใหญ่ระดับประเทศ สืบเนื่องจากวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 ด่านตรวจกิ๋วคอหมา สภ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ทางตำรวจสืบสวนภาค 5 ได้จับกุมนายปรเมศ รวยสูงเนิน พร้อมของกลางยาบ้า 2,800,000 เม็ด ก่อนขยายผลออกหมายจับนายวิวัฒน์ชัย หรืออู๋ ศิริมิรินทร์ อายุ 36 ปี นางเพ็ญพร ศิริมิรินทร์ มารดาของนายวิวัฒน์ชัย และนายสุพจน์ หรือปุ๊ เหรียญทอง อายุ 34 ปี นายธนกฤต หรืออ้น กันทราวิรัตน์ อายุ 36 ปี ซึ่งแบ่งหน้าที่เป็นผู้ขนยาเสพติดและผู้ขับรถนำและสำรวจเส้นทาง ซึ่งหลบหนีไปทั้งหมดจากการรวบรวมพยานได้เข้าตรวจสอบบ้านและที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของนางเพ็ญพร บริเวณซอยวิภาวดีรังสิต 41 เขตดอนเมือง จำนวน 4 หลังในบริเวณเดียวกัน มูลค่าประมาณ 15,000,000 บาท พร้อมตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน ได้แก่ รถยนต์ 2 คัน และบัญชีธนาคาร 5 บัญชี ยอดเงินรวม 436,602 บาท

ในส่วนการขยายผลจับกุมที่จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบ้านใน ต.สันสลี อ.เวียงป่าเป้า ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของนายธนกฤต มากมีธนกุรชร โดยใช้เป็นที่ตั้งของ หจก.พ.เจริญพานิชย์ พร้อมเข้ายึดอายัดทรัพย์สิน ได้แก่ รถจักรยายนต์ 1 คันรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล 2 คัน มูลค่ารวมราว 1,000,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินเป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ปฏิบัติการยึดอายัดในวันนี้ประมาณ 20 ล้านบาท


ต่อมา ตำรวจภูธรภาค 5 และ สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 ได้ตรวจสอบพบทรัพย์สินในชื่อเครือญาติครอบครองเพิ่มเติม เป็นที่ดินมีโฉนดและสิ่งปลูกสร้าง ในพื้นที่ จว.เชียงราย และ จว.เชียงใหม่ สามารถตรวจยึดอายัดทรัพย์สินเป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 37 แปลง มูลค่า 320,000,000 บาท, อายัดเงินฝาก จำนวน 49 บัญชี มูลค่า 7,000,000 บาท และรถยนต์ 3 คัน มูลค่า 1,000,000 บาท รวมมูลค่าประมาณ 328,000,000 บาท จึงทำการตรวจยึด อายัดไว้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ ต่อไป


โดยสรุปผลปฏิบัติการยุทธการฟ้าสางที่ล้านนา@เวียงป่าเป้า จ.เชียงรายเมื่อเช้าวันที่ 30 พ.ย. ตำรวจภูธรภาค 5 และ สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 ได้ตรวจสอบพบทรัพย์สินในชื่อเครือญาติครอบครองเพิ่มเติม เป็นที่ดินมีโฉนดและสิ่งปลูกสร้าง ในพื้นที่ จว.เชียงราย และ จว.เชียงใหม่ สามารถตรวจยึดอายัดทรัพย์สินเป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 37 แปลง มูลค่า 320,000,000 บาท, อายัดเงินฝาก จำนวน 49 บัญชี มูลค่า 7,000,000 บาท และรถยนต์ 3 คัน มูลค่า 1,000,000 บาท รวมมูลค่าประมาณ 328,000,000 บาท จึงทำการตรวจยึด อายัดไว้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.มาตรการ


นอกจากนี้ในการแถลงข่าวทางตำรวจได้นำของกลาง ที่มีผลการจับกุมในพื้นที่เชียงใหม่,เชียงรายและลำปาง มีทั้งไอซ์จำนวจ 60 ก.ก.ที่จับกุมในพิ้นที่เชียงรายและ ยาบ้าจำนวน 2.8 ล้านเม็ด และรถยนต์ที่ยึดจากขบวนการลำเลียงยาเสพติดจำนวน 10 คันมาโชว์ในการแถลงข่าวในครั้งนี้

 

 

หาชมยาก ช้างเดินนวดข้าวแทนคน ที่เดอะช้าง ปางช้างแม่สาเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 ที่เดอะช้างวิลเลจ ปางช้างแม่สา อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้บริหารปางช้างแม่สา พร้อมด้วยชาวบ้าน ซึ่งเป็นชนเผ่าดาราอั้ง ปะหล่อง ปกาเกอญอ และควาญช้าง ร่วมกันทำพิธี นำช้างนวดข้าวข้าวเหนียวอินทรีย์ที่ผ่านการเก็บเกี่ยวเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจประเพณีพื้นถิ่นเข้าร่วมชมการนวดข้าวอย่างคับคั่ง ท่ามกลางสภาพอากาศเย็นสบายในฤดูหนาว

ทั้งนี้พิธีนวดข้าวดังกล่าว ควาญช้างได้นำช้าง 3 เชือก ประกอบด้วย น้องดอย ออก้า พูนทรัพย์ อายุระหว่าง 7-10 ปี ลงสู่ลานนวด ซึ่งมีการนำต้นข้าวที่เก็บเกี่ยวมากองรวมกันเป็นวงกลม ให้ช้างขึ้นไปช่วยกันย่ำ ขณะที่เด็กๆและชาวบ้านก็ได้มาช่วยกันทำกิจกรรมนวดข้าวไปพร้อมกับช้างกันอย่างสนุกสนาน ถือเป็นครั้งแรกของโลกและผลจากการใช้ช้างนวด เม็ดข้าวแยกจากรวงรวดเร็ว กว่าใช้แรงงานคนหลายเท่าตัวโดยข้าวที่นวดออกมาจะนำไปตำแยกเปลือกออกเพื่อนำกลับมาเลี้ยงทั้งช้างทั้งคน

โดยทางนางอัญชลี ได้สาธิตการปั้นข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้ว ปั้นเป็นก้อนกลมใส่เกลือ เพื่อนำไปมอบให้เป็นอาหารช้างในชีวิตประจำวัน เป็นอาหารเสริมกำลัง นอกเหนือไปจากอาหารเลี้ยงช้างอื่นๆ เช่นหญ้าสด หญ้าแห้ง ซึ่งวันนี้ได้มอบให้เป็นรางวัลแก่ช้าง 3 เชือกในฐานะตัวแทนของช้างกว่า 70 เชือกของปางช้างแม่สา

 

นางอัญชลี กล่าวว่า การนำช้างมานวดข้าวเปลือกถือเป็นการฟื้นประเพณีที่มีมาแต่โบราณในการใช้ช้างไถนาปลูกข้าวแทนการใช้แรงงานคน ซึ่งการใช้ช้างย่ำ จะได้ปริมาณข้าวขาวที่รวดเร็วกว่าการใช้วัวควาย หรือคน ทั้งนี้ข้าวเปลือกอินทรีย์ที่นำไปนวดในวันนี้ ได้ถูกนำไปทำการตำเพื่อให้ได้เป็นเมล็ดข้าวเหนียวขาวจำนวน 100 กระสอบ เพื่อใช้เลี้ยงครอบครัวชนเผ่า และช้างทุกเชือก เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

ควาญช้างขอขมาพระแม่โพสพ ก่อนเกี่ยวข้าวเลี้ยงช้าง โดยมีฝูงช้างมาช่วยเกี่ยวให้กำลังใจ ท่ามกลางความสนุกสนานของนักท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 22 พ.ย.นี้ ที่เดอะช้าง วิลเลจ ของปางช้างแม่สา ในบ้านโต้งหลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ทางผู้อาวุโสพ่อแก้ว ศรีหมอก นำกรวยดอกไม้ธุปเทียนอาหารคาวหวานบอกกล่าวที่หัวนาที่เคยทำพิธีปลูกข้าวเดิมขออนุญาติเก็บเกี่ยวข้าวจากเจ้าที่ที่ดูแลปกป้องที่นาและขอให้ได้ผลผลิตที่ดี

โดยนำควาญช้างชนเผ่าดาราอั้ง ปะหล่อง และปกาเกอะญอ หรือ กะเหรี่ยง กว่า 50 คน สวมชุดชนเผ่า และนางอัญชลี กัลมาพิจิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปางช้างแม่สา จำกัด ร่วมขอขมาพระแม่โพสพ ก่อนลงมือเกี่ยวข้าวในแปลงนาอินทรีย์ 15 ไร่ เพื่อใช้เลี้ยงช้างของปางช้างแม่สากว่า 78 เชือก

โดยมีนายวรญาณ บุญณราช รองผู้ว่าราชการ จ.แพร่ เดินทางมาร่วมงานมีนักท่องเที่ยวมาชมพิธีด้วย จากนั้นทั้งหมดได้ร่วมกับเกี่ยวข้าวในแปลงนา เพื่อนำผลผลิตข้าวเหนียวอินทรีย์ที่ได้ทั้งหมด ไปเลี้ยงช้างในปางช้างแม่สา และเดอะช้างวิลเลจทั้ง 78 เชือก โดยข้าวในแปลงนา 15 ไร่ กำลังชูช่อเหลืองอร่ามพร้อมเก็บเกี่ยว หลังจากเริ่มปลูกเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา จากนั้นทั้งหมดได้ร่วมกับเกี่ยวข้าวในแปลงนา เพื่อนำผลผลิตข้าวเหนียวอินทรีย์ที่ได้ทั้งหมด ไปเลี้ยงช้างในปางช้างแม่สา และเดอะช้างวิลเลจทั้ง 78 เชือก


นางอัญชลี เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ส่งผลกระทบทำให้ปางช้างแม่สา และหมู่บ้านเดอะช้างวิลเลจ หรือเดิมชื่อ หมู่บ้านโต้งหลวง ได้รับผลกระทบ การท่องเที่ยวหยุดชะงักนักท่องเที่ยวกลายเป็นศูนย์ แต่ในหมู่บ้านยังมีชนเผ่าปะหล่อง และปกาเกอะญอ ที่เป็นกลุ่มคนเลี้ยงช้างอาศัยอยู่หลายครอบครัว ปางช้างแม่สา จึงปรับเปลี่ยนรูปแบบหันมาพึ่งพาตัวเองตาม หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อปลูกข้าวและพืชผักไว้เป็นคลังอาหาร สำหรับเลี้ยงคน และส่วนหนึ่งใช้เลี้ยงช้างที่มีอยู่ทั้งหมด 78 เชือก

 

ดยอาหารหลักของช้างกว่าร้อยละ 70 คือ หญ้า กล้วย และอ้อย ส่วนอีกร้อยละ 30 เป็นอาหารเสริม คือ ข้าวเหนียวนึ่งคลุกเกลือ ซึ่งแต่ละวันช้างต้องกินข้าวเหนียวอย่างต่ำวันละ 1 กระสอบ ผลผลิตที่เราได้วันนี้ไม่ต่ำกว่า 300 กระสอบ สามารถดูแลช้างไปได้ราว 3 – 4 เดือน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้กว่า 1 แสนกว่าบาทสำหรับผลผลิตข้าวเหนียวพันธุ์สันป่าตองที่ปลูกในแปลงนาทั้งหมด ไม่ใช่สารเคมี ใช้ปุ๋ยมูลช้างอินทรีย์ในการบำรุงต้นกล้า จึงเป็นข้าวเหนียวอินทรีย์ เพราะเราใช้ในการเลี้ยงช้าง จึงต้องปลอดภัย สำหรับผู้ที่มาเกี่ยวข้าวเป็นควาญช้างและครอบครัว

โดยวันนี้มีนักท่องเที่ยวมาชมและร่วมในการเกี่ยวข้าวบรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนานและที่สำคัญมีความสวยงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแฝงอยู่และบรรดาช้างพังช้างพลายที่เข้าร่วมสร้างสีสันงานเกี่ยวข้าวเลี้ยงช้าง9เชือกมีพลายหนึ่งช้างงายาวงดงามนำทีมมีพลายหน้อย ,พลายอ๊อด ,สีดอล้านคำ ,พังวันเพ็ญ2,พังอ้วน ,พังบัวคำ ,พังคำตัน ,พังพูนทรัพย์ยืนตามบริเวณแนวคันนาเพื่อให้กำลังใจแก่การเกี่ยวข้าวในครั้งนี้ที่จะนำข้าวเหนียวที่ได้ในครั้งนี้ไปนึ่งเลี้ยงช้าง