งานบุญปอยหลวงโรงพยาบาลสงฆ์แห่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่

ขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงร่วมงานบุญปอยหลวงโรงพยาบาลสงฆ์แห่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ สมทบทุนเพื่อพระภิกษุสงฆ์อาพาธในเขต 8 จังหวัดภาคเหนือ

ปัจจุบันโรงพยาบาลสงฆ์แห่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้เพิ่มจำนวนแพทย์ที่ให้บริการในห้องตรวจพระภิกษุสงฆ์ทั้งแพทย์ทั่วไป, แพทย์เฉพาะทางด้านอายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ,แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุ และได้เพิ่มห้องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ซึ่งยังขาดเครื่องช่วยหายใจ เครื่องวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในกระแสเลือด เครื่องดูดเสมหะชนิดพกพา เปลขนย้ายผู้ป่วยอาการหนัก และเครื่องวัดอุณหภูมิ

ด้วยเหตุนี้ในระหว่างวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ 2562 นี้ ทางโรงพยาบาลฯจึงได้จัดให้มีปอยหลวงเพื่อเฉลิมฉลองโรงพยาบาลสงฆ์แห่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ขึ้น เพื่อสมทบทุนมูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอกเพื่อพระภิกษุสงฆ์อาพาธและจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อรองรับพระภิกษุสงฆ์ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นมีข้อจำกัดในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลในระบบทั่วไป ให้ได้รับการบริการที่ดีที่สุด

โดยในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 จะมีการแห่ขบวนเครื่องไทยทานและครัวทานของบุคลากรคณะแพทยศาสตร์ และวันที่ 9 -10 กุมภาพันธ์ 2562 คณะสงฆ์และศรัทธาประชาชนจากวัดต่างๆ ทั่วภาคเหนือจะได้แห่ครั้งนี้ด้วย
ผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านได้ร่วมงานบุญปอยหลวงในครั้งนี้ด้วยกันครับ และร่วมบริจาคสมทบทุนมูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอกในครั้งนี้ด้วย
ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมทำบุญสมทบทุนด้วยการบริจาคทุนทรัพย์หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ได้ที่
1. มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชั้น 1
2. โรงพยาบาลสงฆ์แห่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 053-938400
3. กรณีโอนเงินผ่านธนาคาร ชื่อบัญชี “มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก เพื่อพระภิกษุสงฆ์อาพาธ” ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาคณะแพทยศาสตร์ เชียงใหม่ เลขที่บัญชี 566-4-95594-8 (ใบเสร็จรับเงินสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้)

เปิดแลนด์มาร์คใหม่ ซุ้มประตูหัวคิงคอง “ประตูสู่ความรุ่งเรือง”ที่ห้วยตึงเฒ่าเชียงใหม่

เมื่อเวลา 10.00 น. พลตรีสาธิต ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 เป็นประธานเปิดซุ่มประตูสู่ความรุ่งเรือง ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของห้วยตึงเฒ่า โดยมีลักษณะเป็นซุ้มประตูหัวคิงคอง ใช้ไม้ไผ่จำนวน 500 ลำ ความสูง 6 เมตร กว้าง 5 เมตร แบ่งเป็น 2 ชั้น สามารถถ่ายภาพกับวิวสวยๆ ได้ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ซึ่งเกิดจากแนวคิดที่ต้องการให้ผู้คนได้เดินผ่านเข้าสู่ประตูแห่งความรุ่งเรือง เพราะไม้ไผ่จะเป็นสีทอง และถือว่าเป็นศิลปะที่หาดูได้ยาก นอกจากนี้ เส้นทางเดินเข้ามาเป็นสะพานไม้ไผ่ หรือทางเหนือเรียกว่า ขัวแตะ ที่มีความสวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก

 

ทั้งนี้ มณฑลทหารบกที่ 33 ได้อนุมัติให้ห้วยตึงเฒ่า ทำซุ้มประตูคิงคอง โดยใช้ทีมงานจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จำนวน 7 นาย ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม จนถึงวันที่ 18 มกราคม 2562 รวมเวลาในการสร้างจำนวน 13 วัน ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 195,000 บาท ซึ่งบริเวณโดยรอบจะเป็นน้ำ เกือบจะเรียกว่าเป็นเกาะก็ว่าได้ จึงถือได้ว่าเป็นจุดพักผ่อนแห่งใหม่ในห้วยตึงเฒ่าที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

ด้าน พ.อ.สุปกรณ์ เรือนสติ ผจก.สนง.โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวว่า นอกจากซุ้มประตูคิงคองที่เปิดตัวในวันนี้แล้ว ภายในห้วยตึงเฒ่า ยังมีหุ่นฟางคิงคองยักษ์พ่อ แม่ ลูก และบรรดาหุ่นฝางสัตว์ต่างๆมากมาย

 

ซึ่งเป็นที่โด่งดังมากในโลกโซเชียลตั้งแต่ปีที่แล้ว รวมทั้งมือคิงคองยักษ์จากฟาง ที่สามารถชมวิวของอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า และเห็นตัวเมืองเชียงใหม่อีกด้วย ทำให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวเชียงใหม่ และจากจังหวัดอื่นแวะมาเช็คอินถ่ายรูป โดยในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มมากขึ้นกว่า 400,000 คน

นักธุรกิจใหญ่เมืองเชียงใหม่คว้า หมายเลขทะเบียนสวย ขษ9999เชียงใหม่ไปครอง ประมูลหลักล้าน

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 19 ม.ค.นี้ ที่ศูย์ประชุมนานาาติเอ็มเพรส โรงแรมดิเอ็มเพรสเชียงใหม่ นายศรัญญู มีทองคำ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีการประมูลหมายเลขทะเบียนรถ หมวดอักษร ขษ เชียงใหม่ ครั้งที่ 23 โดยมีนายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก พร้อมทั้ง นางพรรณี พุ่มพันธ์ ผู้ตรวจราชการกรม รักษาราชการแทนขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมในการต้อนรับ

นางพรรณ พุ่มพันธ์ ผู้ตรวจราชการกรม รักษาราชการแทน ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหมกำหนดจัด การประมูลหมายเลขทะเบียนรถสวย ครั้งที่ 23 หมวดอักษร ขษ จำนวน301หมายเลข ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 19-20 มกราคม2562ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติเอมเพรส โรงแรมดิเอ็มเพรสจังหวัดเชียงใหม่


ทั้งนี้ แผ่นป้ายที่จะนำออกประมูลเป็นแผ่นป้ายภาพกราฟฟิคที่มีสีสันสวยงาม มีเอกลักษณ์และความหมายเฉพาะตัว บ่งบอกความเป็นจังหวดเชียงใหม่ ประกอบ ด้วย พระบรมธาตดอยสุเทพ ประเพณีปี๋ใหม่เมืองหรือสงกรานต์ ประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทง ดอกทองกวาวซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7รอบ พระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รวมถึงสัญลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ที่โด่งดังและรู้จักกันไปทั่วโลก นันคือ หอคำหลวงในอุทยานหลวงราชพฤกษเชียงใหม่ ซึ่งจะสื่อความหมายของ จังหวัดเชียงใหม่ที่เป็นจังหวัดที่มีความเจริญรุงเรือง สงบ ร่มเย็น ประชาชนมีความสุขโดยถ้วนหน้า

นอกจากนี้หมวดอักษร ขษ ยังสื่อความหมายถึง “ขับรถเลขสวย ร่ำรวยหรรษา อันหมายถึง ผู้ครอบครองป้ายดังกล่าวจะมีแต่ความสุขมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และที่ใช้อยู่ จะนำพาให้มีทรัพย์เพิ่มพูนยิ่งๆ ขนไป และเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ผู้เป็นเจ้าของแผ่นป้ายทะเบียนที่จะทำการประมูล สำนักงานฯ ได้บ้าแผนป้ายทั้งหมดเข้าประกอบพิธีอธิษฐานจิตภาวนาณ พระธาตุศรีจอมทอง วรวิหารโดย พระพรหมมงคล (ทอง สิริมฺงคโ ล )ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 7เจ้าอาวาส วัดดพระธาตุ ศรีจอมทองวรวิหาร เมื่อวันที่26ธันวาคม 2561ที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดประมูลแผ่นป้ายทะเบียนรถเลขสวยมาแล้ว จำนวน 22ครั้ง 2หมวดอักษรนำเงินรายได้โดยไม่หักค่าใช้จ่ายเข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) จำนวนรวมทั้งสิน492,139,204บาท ทั้งนี้เพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนทั่วประเทศ จังหวัดเชียงใหม่

โดยผลการประมูลที่สร้างความสนใจมากก็คือ เลขทะเบียน ขษ 9999 เชียงใหม่ ผู้ประมูลได้ในจำนวนเงิน 809,999 บาท ก็คือนักธุรกิจใหญ่ของเชียงใหม่ นายวรวัชร์ ตันตรานนท์ โดยให้นายมนต์ชัย เตชะสา เป็นตัวแทนมาประมูล พร้อมกันนี้ยังประมูลมหายเลข ขษ.7777 ในราคา 185,500 บาทและ ขษ 2222 ราคา 195,000 บาท

เกษตรเชียงใหม่ชวน “ชม ชิม ช็อป สตรอว์เบอร์รี่สะเมิง”ผลโตๆแดงๆแสนอร่อย

นายสมพล แสนคำ เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ ติดตามสถานการณ์ การผลิตสตรอว์เบอร์รี่อำเภอสะเมิงจังหวัดเชียงใหม่ โดยนายเสกสรร บัลลังก์ เกษตรอำเภอร่วมให้ข้อมูลการผลิต

เชียงใหม่เป็นแหล่งปลูก “สตรอว์เบอร์รี่” ที่สำคัญของประเทศโดยมีพื้นที่การผลิตทั้งสิ้น 6,670 ไร่ ปลูกมากที่สุดที่อำเภอสะเมิง เนื่องด้วยสภาพภูมิประเทศ ความสูงที่เหมาะกับการติดดอก พัฒนาผลของสตรอว์เบอร์รี่ ซึ่งเกษตรกรจะเริ่มทำการเพาะปลูกปลายเดือนสิงหาคม เก็บผลผลิตตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เมษายน ซึ่งตั้งแต่เริ่มปลูกจนเก็บเกี่ยวใช้ระยะเวลาทั้งสิ้น 3 เดือน ส่วนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ จะเป็นเดือนที่สตรอว์เบอร์รี่ออกสู่ตลาดจำนวนมาก และทางอำเภอสะเมิงมีการจัดงานวันสตรอว์เบอร์รี่เป็นประจำทุกปี ซึ่งปีนี้เป็นครั้งที่ 18 จะตรงกับวันที่ 6-10 กุมภาพันธ์ 2562 เพื่อเป็นการส่งเสริมการการผลิต ที่ปลอดภัย การคัดพันธุ์ดี อีกทั้งยังเป็นกระจายผลผลิตสตรอว์เบอรี่ในช่วงที่ออกสู่ตลาดมาก รวมถึงเป็นการเพิ่มมูลค่าจากการท่องเที่ยววิถีเกษตร ซึ่งปีหนึ่งสามารถสร้างมูลค่าหลายล้านบาท

นายสมพล แสนคำ เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่ากรมส่งเสริมการเกษตร ได้ส่งเสริมสตรอว์เบอร์รี่แปลงใหญ่ จำนวน 50 ราย พื้นที่กว่า 350 ไร่ ผ่านศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร(ศพก.) โดยมีนายวิทยา นาระต๊ะและนายธนิน ยี่โท เกษตรกรต้นแบบ ส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตสรอว์เบอร์รี่ปลอดภัย ตั้งแต่การขยายพันธุ์โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ใช้ไหลปลอดโรค การใช้สารชีวภัณฑ์ ปุ๋ยหมักรวมถึงการแปรรูปเพิ่มมูลค่า ในรูปแบบ แยม,อบแห้ง,น้ำ, ไวน์ ผ่านการรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน

 

ไม่เพียงเท่านี้ยังมีหน่วยงานเอกชนร่วมนำนวัตกรรมในการผลิตโดยใช้กระดาษแทนใบตองตึง คลุมแปลงเพื่อต่อยอดนวัตกรรมสู่เกษตรกรไม่เพียงเท่านี้ยังได้รับงบประมาณจังหวัดเพื่อพัฒนาการผลิตสตรอว์เบอร์รี่ในระบบปิดเพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตและสามารถแข่งขันในระบบธุรกิจลดการใช้สารเคมีเกษตรกรมีรายได้อย่างยั่งยืนต่อไป

 

ล่าจนได้ จับหนุ่มอันตราย ฆ่าพ่อเลี้ยง ข่มขืนแม่ตัวเองได้แล้ว

กรณีนายไชยา ต๊ะนา อายุ 31 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุ ข่มขืนแม่ของตัวเอง เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2561แล้วหลบหนีไป พร้อมกับขโมยปืนล่าสัตว์ของชาวบ้านไปด้วย และเชื่อว่าขณะนี้ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าเขานานนับเดือนแล้ว โดยชาวบ้านต่างหวาดผวา เนื่องจาก นายไชยา มีประวัติ เคยต้องโทษคดีฆ่าพ่อเลี้ยงเสียชีวิตเมื่อครั้งเป็นเยาวชน และเมื่อพ้นโทษออกมายังเคยก่อเหตุคดีอื่นๆจนเข้าๆออกๆคุก และยังพฤติกรรมเป็นอันธพาล ชอบพกอาวุธมีด เมาสุราแล้วมีเรื่อง ทะเลาะวิวาท กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นประจำด้วย จนกระทั่งล่าสุดมาก่อเหตุข่มขืนแม่ของตัวเองอีก จึงทำให้ชาวบ้านต่างหวาดจนทางตำรวจต้องตั้งค้าหัวนำจับ 5,000 บาท ตามข่าว

โดยความคืบหน้าในคดีนี้ ทาง พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร ผบก.สส.ภ.5 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัชชัชัย พงษ์วิวัฒน์ รอง ผบก.สส.ภ.5 ,พร้อมชุดสืบสวนภาค 5 ,ชุดสืบสวน สภ.จว.เชียงใหม่ และสืบสวน สภ.แม่โป่ง อ.ดอยสะเก็ด ได้มีการประชุมร่วมกันกลางดึกวันที่ 14 ม.ค.โดยตั้งศูนย์ไล่ล่าอยู่ในห้องประชุม สภ.แม่โป่ง จากการวางสายไว้ตามจุดต่างๆ จนทราบว่าในห้วงเวลา ประมาณ 21.00 น.วันที่ 14 ม.ค.ได้มีสัญญาณมือถือของนายไชยา ต๊ะนา ผู้ต้องหารายนี้ได้โทรศัพท์เข้ามาที่เบอร์ของหญิงสาวคนสนิท โดยบอกว่าตลอดเวลาที่หลบหนีตำรวจอยู่ในป่ากินแต่ไข่มดแดง ไม่ได้กินข้าวและเหล้าเลย ทางหญิงสาวจึงให้บอกที่อยู่และจะนำน้ำอาหารและเหล้าไปส่งให้

โดยนัดหมายกันที่กระท่อมร้างในป่าใกล้หมู่บ้านของของนายไชยา ซึ่งห่างจากสถานีตำรวจประมาณ 7 กิโลเมตร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนให้ทางหญิงสาว นำอาหารสุราผสมยานอนหลับ ไปให้ เพราะหากเข้าไปจับกุมเกรงคนร้ายมีอาวุธปืนจะมำให้เกิดการสูญเสียขึ้นเพราะเป็นช่วงกลางคืน ซึ่งทางหญิงสาวได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปโดยพบนายไชยา นั้นหลบอยู่ในกระท่องมีสภาพอิดโรย สวมเสื้อหนาวสีน้ำเงินกางเกงขายาวสีดำ สวมรองเท้าผ้าใบ ซึ่งนายไชยา มีการระวังตัวอย่างเต็มที่ แต่เมื่อนกินอาหารและดื่มเหล้าเข้าไป ทางนายไชยา มีอาการเมาแต่ไม่ยอมนอน แม้หญิงสาวจะแกล้งเมาและนอนหลับไปแล้ว และเมื่อเวลา 03.00 น.เป็นเวลาที่ทางตำรวจข้เาจับกุม แต่นายไชยา ได้ไหวตัววิ่งหลบหนีออกกระท่อมเข้าป่าไปโดยทางเจ้าหน้าที่ติตตามไล่ล่าตัว

จนกระทั่งเวลา เวลา 09.46 น.วันที่ 15 ม.ค.นี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 5 และตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้สืบทราบว่านายไชยาที่หลบหนีได้กบดานยังกระท่อมบริเวณทางไปโรงโม่หิน ในบ้านตลาดขี้เหล็ก หมู่ 1 ตำบลแม่โป่ง อำเภอดอยสะเก็ด จึงได้นำกำลังไปตรวจค้นปิดล้อม จับกุม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบเห็นนายไชยา ต๊ะนา วิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่จากกระท่อมร้างจะไปบนดอยวิ่งจอมแจ้ง จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่าติดตามจับกุมตัวได้ในสภาพอิดโรย ก่อนนำตัวขึ้นรถหน่วยปฎิบัติการพิเศษภาค 5 มาสอบสวนปากคำที่ สภ.แม่โป่ง เบื้องต้นผู้ต้องหายังไม่สามารถให้การใดๆได้เอาแต่หลับด้วยความอ่อนเพลีย

เมือเวลา 12.00 น.พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รอง ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธรเชียงใหม่ ตำรวจ สภ.แม่โป่ง ได้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาคือนายไชยา ต๊ะนา ได้แล้ว เบื้องต้นจะได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจสภาพร่างกายที่โรงพยาบาลดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากผู้ต้องหาอยู่ในสภาพอิดโรย อ่อนเพลีย ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายบุพการี และข่มขื่นกระทำชำเรา โดยมีโทษจำคุก 4-20 ปี โดยเมื่อนายไชยา มีสติและสภาพแข็งแรงก็จะนำไปทำแผนและกราบขอขมาผู้เป็นแม่ต่อไป

โดยล่าสุดทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้ส่งข้อความผ่านเอสเอ็มเอส มายังมือถือของ พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รอง ผบช.ภ.5 ชื่นชมและขอบคุณทีมงานตำรวจภาค 5 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และตำรวจ สภ.แม่โป่ง ที่สามารถปิดคดีได้สำเร็จ

สืบสวนภาค 5 ยกกำลังปิดป่าไล่ล่า หนุ่มยอดชั่ว ฆ่าพ่อเลี้ยง ข่มขืนแม่ตัวเอง ซ้อมน้องสาว ชาวบ้านขวัญผวา

ตำรวจ สภ.แม่โป่ง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ได้ออกหมายจับกุมตัวนายไชยา ต๊ะนา อายุ 31 ปีอยู่บ้านเลขที่ 64/1 หมู่1 ต.แม่โป่ง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ พร้อมกันตั้งสินบนนำจับเป็นบุคคลอันตรายแล้ว โดยจากกรณีโซเชียลมีเดียมีโพสต์และแชร์เรื่องราวเตือนภัย รวมทั้งให้ช่วยกันแจ้งเบาะแสของนายไชยา ต๊ะนา อายุ 31 ปี ชาวตำบลแม่โป่ง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ซึ่งเมื่อครั้งเป็นเยาวชนเคยก่อเหตุฆ่าพ่อตัวเองจนเสียชีวิตและถูกจำคุก เมื่อพ้นโทษออกได้ก่อเหตุข่มขืนแม่ของตัวเอง เมื่อช่วงเดือน ธ.ค.61 จากนั้นได้หลบหนีไป ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างหวดผวากันอย่างมาก เนื่องจากเชื่อว่านายไชยา ยังคงหลบซ่อนตัวและวนเวียนอยู่ในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด ซึ่งเป็นพื้นที่เป็นป่าเขายากในการค้นหาตัวผู้ต้องหามาเนินคดี

ความคืบหน้าในเรื่องนี้เมื่อวันที่ 14 ม.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่โป่ง นำโดย พ.ต.ท.สถิตชัย นิตยวัน สว.สภ.แม่โป่ง / หน.ชุดฯ พร้อมด้วยฝ่ายปกครองและท้องถิ่น รวมทั้งประสานไปตำรวจสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่ และตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 ให้ช่วยจัดกำลังร่วมกันลาดตระเวนค้นหาตามจุดต่างๆ ทั่วพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามจนถึงเวลานี้ยังไม่พบตัว ตอนนี้ทางพี่สาวและแม่ของนายไชยา ผวาหนักต่างพากันอพยพหนีไปอยู่กับญาติในที่ปลอดภัย แล้ว

 

พ.ต.ท.สถิตชัย นิตยวัน สว.สภ.แม่โป่ง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า กรณี นายไชยา ต๊ะนา อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุและได้หลบหนีคดีเข้าป่า และได้มีการโพสต์ได้ระบุข้อมูลว่า “ฝากแจ้งข่าว ใครพบเจอ แจ้งเบาะแสด้วยนะคะ ตอนเป็นเยาวชน ฆ่าพ่อ ติดคุกออกมา ข่มขืนแม่หลบหนีอยู่ เขต อ.แม่ออน ยังจับไม่ได้นั้น ซึ่งตามข้อเท็จจริงเหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2561 ที่ผ่านแล้ว หลังจากเกิดเหตุ ทาง สภ.แม่โป่ง ไม่ได้นิ่งนอนใจหรือ ปล่อยปะละเลยแต่อย่างได้ ประชุมชุดสืบสวนสอบและวางแผนได้ระดมกำลังและตามไล่อยู่ตลอดเวลา และได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นเป็นระยะเเละต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลาแต่เนื่องจากพื้นที่ เป็นป่าเขา จากเขาลูกหนึ่งไปอีกลูกต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ละวันตนและผู้ใต้การบังคับบัญชาจะต้องเดินปีนขึ้นวันละหลายสิบกิโล ซึ่งบางวันต้องเดินถึงเที่ยงคืน โดยจะพยายามทุกวิธีการเพื่อจะทำการจับกุมผู้ต้องหาได้ไวที่สุด โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งรางวัลสินบนนำจับนายไชยา จำนวน 5,000 บาท สำหรับผู้ชี้เบาะแส จนสามารถนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้เชียงใหม่ ครอบครัวผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าพ่อข่มขืนแม่ผวาแม่หลบไปอยู่บ้านญาติ

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 64 / 1 บ้านตลาดขี้เหล็ก หมู่ 1ต.แม่โป่ง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านของนางสม (นามสมมุติ) แม่ของนายไชยา ต๊ะนา อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาที่พ้นโทษจากคดีฆ่าพ่อ และก่อเหตุข่มขืนแม่ และทำร้ายพี่สาว แต่ไม่มีใครอยู่บ้าน จากการสอบถามนายจรูญ สุนันทศิลป์ ผู้ใหญ่บ้าน ทราบว่านางสม (นามสมมุติ) ยังมีอากาหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ไปอาศัยอยู่กับญาติที่ในพื้นที่ต่างอำเภอ เนื่องจากยังอยู่ในอาการผวาและเกรงว่าลูกชายจะกลับมาทำร้าย ส่วนน้องสาววัย 13 ปี ของนายไชยา ผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดูแลอยู่ เนื่องจากยังมีอาการหวาดกลัวเพราะว่าถูกพี่ชายทำร้ายหลายครั้ง

 

พ.ต.ท.สถิตย์ นิตย์วัน สารวัตร หน.สภ.แม่โป่ง เปิดเผยว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้านตลาดขี้เหล็กโดยได้ประสานกำลังกับชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เข้าไปดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับชาวบ้านในพื้นที่เนื่องจากหมู่บ้านดังกล่าวติดกับป่าดอยจอมแจ้งซึ่งค่อนข้างเปลี่ยว

ด้านชาวบ้านในพื้นที่หากันหวาดผวากันทั้งหมู่บ้านเพราะะชาวบ้านเชื่อยังคงหลบซ่อนตัวและวนเวียนอยู่ในพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด หรือ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกันและเป็นพื้นที่ป่าเขา ซึ่งนายไชยามีอาวุธปืนติดตัว ตำรวจตามล่าอย่างกระชั้นชิด ถือเป็นบุคคลอันตราย แต่ยังไม่พบตัวนั้น

ญาติๆแฉประวัตินายไชยา ต๊ะนา อายุ 31 ปี โดยเมื่อปี 2545 ขณะยังเป็นเยาวชนอายุ 14 ปี ผู้ต้องหาได้ใช้มีดปลายแหลมฆ่าพ่อเลี้ยง และถูกจับกุมดำเนินคดี เนื่องจากเป็นเยาวชนจึงติดคุกเพียง 3 ปีเท่านั้น หลังพ้นโทษกลับมาอยู่บ้าน ก็ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ทำตัวเกเร ดื่มสุราหาเรื่องข่มขู่ทำร้ายชาวบ้านและทำร้าย ข่มขืนคนในครอบครัวเป็นประจำ เป็นที่หวาดกลัวของชาวบ้าน


ในช่วงที่ทางตำรวจไล่ล่าติดตามตัวอยู่ ทำให้ชาวบ้านวิตกกังวลไม่มีใครกล้าไปหาของในป่า กลัวเจอผู้ต้องหา อยากให้เจ้าหน้าที่จับตัวให้ได้เร็วๆ ชาวบ้านตอนนี้ก็ไม่ต้องทำมาหากินอะไรกันแล้ว หวาดผวากัน บางคนมีไร่มีสวนติดกับป่าก็ไม่กล้าเข้าไปในสวน ตอนนี้หลายกระแสก็บอกว่าคนร้ายหนีไปในป่าแถวเทพเสด็จ อ.ดอยสะเก็ด เจ้าหน้าที่ก็ติดตามอยู่

ด้าน พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร ผบก.สส.ภ.5 ได้เปิดเผยว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 นำกำลังลงพื้นที่สมทบกับตำรวจเชียงใหม่และ สภ.แม่โป่ง ไล่ล่าผู้ต้องหาแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลอันตราย ขโมยปืนชาวบ้านไปด้วย ได้แจ้งให้ตำรวจระมัดระวัง แต่คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้


ทางด้าน พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เดินทางไปยัง สภ.แม่โป่ง และรับฟังรายละเอียดต่างๆ รวมถึงแบ่งงานไล่ล่าผู้ต้องหา พร้อมเปิดเผยว่า คดีนี้ พล.ต.ต.พิเชษฐ์ จีระนันติสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้สั่งการให้ตำรวจเชียงใหม่ประสานกับตำรวจท้องที่ และภาค 5 ติดตามจับกุมตัวมาให้จงได้ โดยได้ส่งกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษและตำรวจท้องที่มาร่วมกันไล่ล่าอยู่แล้ว และก็ได้มาสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน เพื่อให้ชาวบ้านได้อบอุ่นใจ

 

” นายไชยา ต๊ะนา อายุ 31 ปีพฤติกรรมก้าวร้าว หากได้ดื่มสุราแล้วก็จะมีนิสัยแปลกๆ หลังพ้นโทษฆ่าพ่อก็มาก่อคดีข่มขืนแม่ ทำร้ายแม่ และน้องสาว รวมถึงก่อคดีลักเล็กขโมยน้อยอีก ขอฝากไปยังผู้ต้องหาหรือบุคคลที่ให้ที่พักพิงหรือช่วยเหลือในการหลบหนีก็ขอให้มอบตัวเสีย หากมีการต่อสู้เจ้าหน้าที่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามกฏหมายและยุทธวิธีของเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันตัว ตอนนี้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นทุกจุดที่ต้องสงสัย และจุดที่ได้รับข้อมูลมาจากประชาชน ขอให้ประชาชนช่วยสอดส่องด้วย หากพบก็ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที”รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่กล่าวทิ้งท้าย//

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการ และพบปะพี่น้องประชาชน อำเภอแม่แจ่ม

วันที่ 14 มกราคม 2562 เวลา10.35 น.  พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการโครงการแม่แจ่มโมเดลการบูรณาการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าอย่างยั่งยืนครบวงจรด้วยกลไกประชารัฐ

ในการนี้นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการของกรมส่งเสริมการเกษตรที่ได้นำกิจกรรม และผลิตภัณฑ์ด้านวิสาหกิจชุมชนเกษตรธรรมชาติปลอดภัยบ้านแม่ปาน-สันเกี๋ยง ตำบลช่างเคิ่ง ซึ่งวิสาหกิจชุมชนแห่งนี้มีสมาชิกทั้งหมด 141 คนร่วมมือกันประกอบอาชีพด้านเกษตรผสมผสาน,เกษตรแปรรูปและหัตกรรม โดยเป็นผลสำเร็จจากการทำเกษตรผสมผสานเพื่อลดการทำไร่ข้าวโพด มาทำกิจกรรมทางเลือก

นอกจากนี้กรมส่งเสริมการเกษตร ยังได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยมีมหาวิทยาลัยแม่โจ้เป็นผู้ริเริ่มวิจัยและพัฒนาโครงการ ธรรมชาติปลอดภัยแม่แจ่ม: แม่ปาน-สันเกี๋ยง โมเดล กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรธรรมชาติปลอดภัย ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปี 2555 จนถึงปัจจุบัน ที่ยึดหลักศาสตร์พระราชารัฐกาลที่ 9 คือการระเบิดจากข้างใน เข้าใจ เข้าถึงพัฒนา บนรากฐานของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นหลักในการดำเนินโครงการ

 

ซึ่งการดำเนินงานของโครงการฯได้ดำเนินการสร้างบ่อพวง ทำให้เกษตรกร แม่บ้าน บ้านสันเกี๋ยงได้รับผลประโยชน์จากการใช้น้ำบ่อพวง โดยเฉพาะกลุ่มแปลงใหญ่ลำไย ที่มีสมาชิกทั้งหมด 80 ราย พื้นที่ปลูก 391 ไร่

ในการนี้นางดาเรศร์ กิตติโยภาส รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมด้วยนายสมพล แสนคำ เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ ให้การต้อนรับ คณะนายกรัฐมนตรี ณ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์31 ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่

“วัด ประชา รัฐ สร้างสุข กาดก้อม กองเตียว ถนนสายวัฒนธรรม 100 ปี ศรีนวรัฐ”

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2562 เวลา 14.30 น. นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นำคณะเดินทางมาตรวจงานใน จ.เชียงใหม่ และได้เยี่ยมชมตลาดประชารัฐ ถนนสายวัฒนธรรมชุมชนวัดศรีนวรัฐ (บ้านทุ่งเสี้ยว) ต.บ้านกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ พร้อมชมคุ้มเจ้าเก่า และสัมผัสวิถีชีวิตชาวไทเขิน ซึ่งมีชุมชนร่วมกันแต่งกายชุดไทเขินคอนต้อนรับ และจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองเพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมโดยมี น.ส.ภัทราภร ลายจุด นายอำเภอสันป่าตอง ให้การต้อนรับและนำเยี่ยมชมพร้อมเปิดงาน

 

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้เดินทางมาที่วัดศรีนวรัฐ เพื่อเยี่ยมชมคุ้มเจ้าแก้วนวรัฐ (ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าวัดศรีนวรัฐ) ที่ถูกบันทึกไว้ว่าสร้างเมื่อปี 2470 และสร้างหลองข้าวขนาดใหญ่ไว้ที่ด้านหน้าคุ้มเจ้าอีกด้วย ว่ากันว่าพระราชชายาเจ้าดารารัศมีก็เคยมาพำนักที่นี่ตามคำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่ที่ยังจดจำได้ จากนั้นท่านรัฐมนตรีฯ เข้ากราบไหว้พระประธาน พระเจ้าหลวง (หลวงพ่อทองคำ) พระเจ้าสักคงตัน ซึ่งเป็นพระพุทธรูป ที่นับถือของชุมชนแห่งนี้ พร้อมถวายชุดผ้าไตร พระครูถาวรนพรัฐ เจ้าอาวาสวัดศรีนวรัฐ โดยมี น.ส.ภัทราภร ลายจุด นายอำเภอสันป่าตอง ผู้แทน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ ณ พิพิธภัณฑ์เรือนไทเขิน (ตั้งอยู่ข้างวัดศรีนวรัฐ) พร้อมเดินเยี่ยมชมกิจกรรม “วัด ประชา รัฐ สร้างสุข กาดก้อม กองเตียว ถนนสายวัฒนธรรม 100 ปี ศรีนวรัฐ” ชมการแสดงของเด็กๆ, การแสดงพื้นถิ่นทางวัฒนธรรม และการแสดงดนตรีไทยล้านนา พร้อมรับประทานอาหารเย็นแบบขันโตก (อาหารพื้นเมือง) โดยชุมชนบ้านทุ่งเสี้ยว

 

พระครูถาวรนพรัฐ เจ้าอาวาสวัดศรีนวรัฐ กล่าวว่า “วัด ประชา รัฐ สร้างสุข กาดก้อม กองเตียว ถนนสายวัฒนธรรม 100 ปี ศรีนวรัฐ” เป็นกิจกรรมแรกที่ทางวัดศรีนวรัฐ ได้ร่วมกับชุมชนบ้านทุ่งเสี้ยว และอ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ที่มองเห็นถึงการอนุรักษ์รักษาศิลปวัฒนธรรมไทยเขินให้สืบไป และเพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน ตลอดจนการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยได้ร่วมกันแต่งชุดพื้นบ้าน(ไทเขิน) และนำอาหารพื้นบ้านพร้อมสินค้าหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล (OTOP) มาวางแผงขาย และจัดการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยไว้ในตลาดประชารัฐแห่งนี้อีกด้วย

รวมทั้งจัดให้มีบ้านพักโฮมสเตย์ไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และจัดรถรางนำนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมคุ้มเจ้าแก้วนวรัฐ, เมืองเก่าเวียงท่ากาน, บ้านไทเขินวัดต้นกอก, ศิลปะการตีมีดที่บ้านร้องตีมีด เรือนไทเขินโบราณ ของชุมชนบ้านทุ่งเสี้ยว บ้านดงก่ำ บ้านป่าสัก บ้านต้นแหนหลวง บ้านต้นแหนน้อย เป็นต้น

 

พระครูถาวรนพรัฐ กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า “วัด ประชา รัฐ สร้างสุข กาดก้อม กองเตียว ถนนสายวัฒนธรรม 100 ปี ศรีนวรัฐ” เป็นกิจกรรมแรกที่ทางวัดศรีนวรัฐ ได้ร่วมกับชุมชนบ้านทุ่งเสี้ยว และอำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ จัดทุกๆ วันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 16.00 – 20.00 น. จึงอยากจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสถนนสายวัฒนธรรมแห่งนี้