สพจ.ชม.ร่วมพิธีเปิดงาน สินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ณ ห้างบิ๊กซี สาขาดอนจั่น จ.เชียงใหม่ 2563”

สพจ.ชม.ร่วมพิธีเปิดงาน สินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ณ ห้างบิ๊กซี สาขาดอนจั่น จ.เชียงใหม่
วันที่ 28 กพ 2563 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเปิดงาน บิ๊กซีธงฟ้า สินค้าราคาประหยัด 2563 ณ ห้างบิ๊กซี สาขาดอนจั่น อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยมีนางภูษณิศ ไชยมณี ผู้แทนพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการเปิดงาน และกล่าวรายงานโดยผู้จัดการบิ๊กซีสาขาดอนจั่น

ภายในงานมีสินค้าธงฟ้าที่นำมาจำหน่ายในราคาพิเศษ จำนวนกว่า 500 รายการ ลดสูงสุดถึง 50% เช่น ไข่ไก่ เนื้อไก่ น้ำตาล กลุ่มน้ำดื่ม กลุ่มข้าวสาร กลุ่มซอสปรุงรส กลุ่มสบู่ก้อน กลุ่มนม กลุ่มน้ำยาซักผ้า และยังมีสินค้าอื่นๆ อีกมากมายมาจำหน่ายในราคาถูกอย่างครบครัน อย่างไรก็ดี ถือเป็นหนึ่งนโยบายในการดูแลค่าครองชีพประชาชนที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ทำให้ประชาชนสามารถลดภาระค่าครองชีพ จับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น และส่งผลให้กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ” งานจัดระหว่างวันที่ 20 กุมภาพันธ์ – 11 มีนาคม 2563 ทุกสาขาในจังหวัดเชียงใหม่

การจัดงาน “บิ๊กซี ธงฟ้า สินค้าราคาประหยัด” จัดจำหน่ายที่บิ๊กซี และมินิบิ๊กซี1,244 สาขา

ทั่วประเทศ ระหว่าง วันที่ 20 กุมภาพันธ์ – 11 มีนาคม 2563.

ไอยรา-กุญชร ท่าช้างเปิดตัวเบียร์น้องใหม่


​ ไอยรา เบียร์ เป็นลาเกอร์เบียร์ ที่มีแอลกอฮอล์เพียง 3.5%
เป็นเบียร์ที่มีส่วนผสมของเลม่อนจากออสเตรเลียเพื่อเพิ่มความสดชื่น ทำให้ได้กลิ่นหอมของเลม่อน ดื่มง่าย คลายร้อน และสดชื่น

กุญชร เบียร์ เป็นวีทเบียร์ ที่ทำจากข้าวสาลี ผสม เปลือกส้ม เป็นเบียร์สีทอง มีกลิ่นหอม สดชื่น ดื่มง่าย ไม่ขม เหมาะกับทั้งหญิงและชาย ที่ชอบดื่มเบียร์เบาๆ ไม่หนักหน่วง

เบียร์ทั้ง 2 แบรนด์นี้ ทางท่าช้างคาเฟ่ได้สั่งผลิตโดยตรงจากโรงงานที่ประเทศออสเตรเลีย นำเข้าและขนส่งมาด้วยตู้คอนเทนเนอร์ที่รักษาความเย็นไว้ตลอดเวลา เพื่อคงคุณภาพเบียร์ให้ดีอยู่เสมอ

UNDERSUPERVISION OF CHANG SIAM KUMPANY
ควบคุมการผลิตและจัดจำหน่ายโดย “ช้างสยามคอมพานี”

 

21-23 กพ.งาน Chiang Mai International AIRSHOW 2020 งานแสดงอากาศยานขนาดเล็กครั้งแรกในภูมิภาค วางเป้าเป็นศูนย์กลางการบินทั่วไปกระตุ้นท่องเที่ยวเชิงอากาศยานรูปธรรม

 


ภาครัฐ-เอกชนเชียงใหม่จับมือเดินหน้าจัดงาน Chiang Mai International AIRSHOW 2020 การแสดงอากาศยานขนาดเล็กครั้งแรกในภูมิภาค ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการบินทั่วไป (General Aviation) สนับสนุนการท่องเที่ยวในพื้นที่ ต่อยอดการเป็นแหล่งประกอบ- ซ่อมบำรุงอากาศยานขนาดเล็ก ประเมินนักท่องเที่ยวเข้าร่วมชมงานมากกว่า 15,000 คน ตลอด 3 วัน ซึ่งคาดว่าเม็ดเงินจะสะพัดในพื้นที่ ไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท พร้อมผลักดันให้จัดต่อเนื่องทุกปีดึงเครื่องบินส่วนตัวทั่วโลกมาร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอากาศยานเติบโต
นายดำรงค์ องอาจ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ทางสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ และสมาคมการบินภาคเหนือ ร่วมกับหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ จะได้จัดงาน “มหกรรม CHIANGMAI AIRSHOW 2020 ครั้งที่ 1” ระหว่างวันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ 2563 ณ สนามบินเชียงใหม่แอร์สปอร์ต หมู่ 2 ตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังฤดูกาลท่องเที่ยว อันจะก่อให้เกิดรายได้แก่ชุมชนและสมาชิกผู้ประกอบการ ทั้งแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการขนส่ง โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวและผู้สนใจเข้าร่วมประมาณ 15,000 คน ตลอดระยะเวลาจัดงาน เป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับอำเภอสันกำแพง และจังหวัดเชียงใหม่ โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 8.00-10.30 น.
นอกจากนี้เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพของพื้นที่ด้านการบินและอากาศยาน รวมถึงการสร้างเครือข่ายด้านธุรกิจการบิน บุคคลที่เกี่ยวข้องในการการเตรียมความพร้อม ในการยกระดับกิจกรรมแสดงอากาศยานในระดับนานาชาติในระดับที่ใหญ่ขึ้นอนาคต อันจะเป็นจุดเริ่มที่สำคัญที่จะส่งเสริมให้เกิดการตื่นตัวด้านธุรกิจการบินในพื้นที่ รวมถึงส่งเสริมให้เชียงใหม่-ภาคเหนือเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตบุคลากร และเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการบินในอนาคตโดยเฉพาะการเป็นแหล่งประกอบ สร้างและซ่อมเครื่องบินขนาดเล็ก เป็นต้น

“การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักสำคัญ 3 ประการคือกระตุ้นเศรษฐกิจหลังฤดูการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดรายได้แก่ชุมชน ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอากาศยาน และการผลักดันให้เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการบินทั่วไปหรือเครื่องบินขนาดเล็ก และอากาศยานอื่น ๆ เป็นต้น”
โดยกิจกรรมตลอดทั้ง 3 วันจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจได้แก่ การ Fly in จากสถาบันการบินต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับมาแล้วมากกว่า 30 ลำ การบินประเภทร่มบิน , พาราเพลน Aero Chute , การแสดงบอลลูน รวมทั้งหมดแล้วมากกว่า 70-80 อากาศยาน โดยจะมีการแสดงการบินเครื่องบินเล็ก การให้ความรู้ด้านการบินและอวกาศจากองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ การสาธิตเครื่องบินบังคับวิทยุ แบบไฮเทคโนโลยี การบินบอลลูน ทไวไลท์ ที่สีสันความสวยงามช่วงค่ำ การออกบู้ธแสดงสินค้า OTOP ของอำเภอสันกำแพง มากกว่า 100 บู้ธเป็นต้น
นายอาคม สุวรรณกันธา รองเลขาธิการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และประธานชมรมกิจกรรมทางอากาศเชียงใหม่ กล่าวว่าการจัดงานเชียงใหม่แอร์โชว์ 2020 ในครั้งนี้ ถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอากาศยาน ที่จะเน้นเครื่องบินการบินทั่วไป (General Aviation) ซึ่งถือว่าเชียงใหม่มีศักยภาพสูงมากเพราะปัจจุบันมีธุรกิจท่องเที่ยวแบบร่มบิน ร่มร่อน รวมถึงบอลลูนจำนวนมาก เป็นกิจกรรมทางอากาศที่สามารถส่งเสริมกระตุ้นการท่องเที่ยวและสร้างแรงบันดาลใจด้านการบินให้เยาวชนและผู้สนใจได้เข้าสู่ธุรกิจและอุตสาหกรรมด้านการบินด้วย และที่สำคัญคือจะเป็นการกระตุ้นส่งเสริมให้เกิดความสนใจในอาชีพด้านการบิน ซึ่งในอนาคตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และลำพูนจะพัฒนาไปสู่เมืองการบินและอากาศยานภาคเหนือ (Northern Aerotropolis) ได้

งานประกวดสุนทรพจน์ภาษาญี่ปุ่นระดับอุดมศึกษาในเขตภาคเหนือ ครั้งที่ 15

 

สถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ร่วมกับสมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุ่น ในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขา ภาคเหนือได้จัดงานประกวดสุนทรพจน์ภาษาญี่ปุ่นระดับอุดมศึกษาในเขตภาคเหนือ ครั้งที่ 15 ขึ้นในวันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 ณ สำนักงานบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

การประกวดสุนทรพจน์ในครั้งนี้ มีผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจากบทสุนทรพจน์จำนวน 20 คน โดยมีการมอบรางวัลแก่ผู้เข้าประกวดการแข่งขันดังนี้ รางวัลชนะเลิศ จะได้เดินทางไปศึกษาต่อ ณ  มหาวิทยาลัยโซเฟียระยะ 1 ปี ได้แก่นางสาวปรวรรณ ชาแจ้ง นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ “ที่อยู่ของฉัน”  และรางวัลรองชนะเลิศ ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เชียงใหม่-กรุงเทพฯ-ญี่ปุ่น 2 ที่นั่งโดยบริษัทเจแปนแอร์ไลน์และบริษัทบางกอกแอร์เวย์สพร้อมเงินรางวัลสนับสนุนการเดินทาง 10,000 บาท จากหอการค้าญี่ปุ่นกรุงเทพฯ ได้แก่นางสาวกัญญาภัค เพ็งทอง นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยนเรศวร รางวัลที่ 3-5 จากชมรมผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นในภาคเหนือ รางวัลคาลบี้ ทัศนศึกษา ณ บริษัทคาลบี้ กรุงเทพ พร้อมค่าใช้จ่าย 3 วัน 2 คืน รางวัลชมเชย สนับสนุนโดยนิธิส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาไทย-ญี่ปุ่น รางวัลความพยายามสนับสนุนโดยชมรมผู้พำนักระยะยาวชาวญี่ปุ่นในจังหวัดเชียงใหม่ และรางวัลพิเศษสนับสนุนโดยมูลนิธิใจบริสุทธิ์

ทั้งนี้ได้มี นายฮิโรชิ มัทสึโมะโตะ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่   ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธีรัช ปัญโญ ประธานสมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุ่นในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขาภาคเหนือ ศาสตราจารย์จุโระ โอทซึกะ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยโซเฟีย  นายคาซึยูกิ ฮิจิโมโต ผู้จัดการภาคพื้นอินโดจีนและเอเชียใต้เจแปนแอร์ไลน์สาขากรุงเทพฯ นายโยชิคัทซึ นาคะยะมะ ประธานชมรมผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นในภาคเหนือ นางสาวรุเนะ อะริมะ ประธานบริษัท คาลบี้ ธนวัฒน์และคณะกรรมการตัดสินเข้าร่วมงาน

ประมูลป้ายเชียงใหม่ วันแรกคึกคัก


8 กุมภาพันธ์ 2563 ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดการประมูลหมายเลขรถ (เลขสวย) ครั้งที่ 25 ของจังหวัดเชียงใหม่ หมวดอักษร ขอ “ขับรถเลขสวย อำนวยโชคลาภ” จำนวน 301 หมายเลข และทะเบียนรถหมวดเสริม อักษร ขค ขง ขจ และ ขฉ จำนวน 140 หมายเลข นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต้อนรับ
ช่วงที่ผ่านมา สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดประมูลหมายเลขทะเบียนรถเลขสวยมาแล้ว จำนวน 24 ครั้ง นำเงินรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายเข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) จำนวนรวมทั้งสิ้น 523,038,811 บาท ทั้งนี้ได้นำรายได้จากการประมูลหมายเลขทะเบียนรถไปใช้ในกิจกรรมด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนทั่วประเทศ ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจาก กปถ. ในโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการมั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS, โครงการจัดซื้อเครื่องมือตรวจจับความเร็วรถ, เครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์, โครงการปลูกฝังเด็กไทย ใส่ใจวินัยจราจร, โครงการนักเรียนรุ่นใหม่มีใบขับขี่, โครงการขนส่งห่วงใยใส่ใจผู้ประสบภัยจากรถโดยมอบอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการจากอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนน, โครงการขนส่งสัญจร สอนน้องใช้รถใช้ถนน, โครงการสื่อประชาสัมพันธ์ข่าวสารและข้อมูลด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมกำกับดูแลสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) เป็นต้น
บรรยากาศในงาน มีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลปีนี้ยังคงคึกคัก มีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลทั้งทางอินเตอร์เนต และ ในงาน จำนวนมาก ซึ่งในปีนี้ป้ายทะเบียน ขอ 9999 เชียงใหม่ มีการประมูล 128 ครั้ง  ผู้ประมูลทางอินเตอร์ชนะการประมูลที่ราคา1,625,000 บาท (หนึ่งล้านหกแสนสองหมื่นห้าพันบาท)

“LIV365” เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับ วัสดุ และของตกแต่งบ้าน

จ.เชียงใหม่ : บริษัท พาณิชย์วิบูลย์ (1975) ผู้บริหารโครงการ LIV365 จัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ “LIV 365 OPENHOUSE” พร้อมนำเสนอจุดเด่นด้านคุณภาพสินค้า และการบริการ ที่ชนะทุกข้อจำกัดด้วยนวัตกรรมด้านสินค้า และการออกแบบที่ทันสมัย บนถนนแก้วนวรัฐ ทางไปจ.เชียงราย ติดกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เพียง 200 เมตร

ภายในงาน “LIV 365 OPENHOUSE” ได้รับเกียรติจาก คุณลักษณา วัชรสุรังค์ รองประธานกรรมการ บริษัท พาณิชย์วิบูลย์ (1975) จำกัด เป็นประธานเปิดงาน โดยมี คุณภากร วัชรสุรังค์ กรรมการผู้จัดการ, คุณรสสุคนธ์ วัชรสุรังค์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน และคุณกันต์ธวัช วัชรสุรังค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซรามิคเอาท์เลท จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยาน

แหล่งรวมไอเดียวัสดุ และของแต่งบ้าน ไม่ว่าจะสไตล์ชิค หรู เก๋ เท่ คิ้วท์ ‍พร้อมสินค้าลดราคาแบบนาทีทอง เพื่อคนรักบ้านในงานนี้โดยเฉพาะ ทั้งนี้ในงาน “OPENHOUSE” เน้นความแตกต่างด้านการพรีเซ็นความเป็นมา ด้วยการเนรมิต 7 เวที จะแสดงความเป็นตัวตนของ “LIV365” อาทิ
– เวทีที่ 1 “LIV the Exclusive” แสดงถึง LIV365 ในการคัดสรร และการส่งมอบสินค้าที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณมากที่สุด ตั้งแต่การสั่งผลิตสินค้าจากโรงงาน ไปจนถึงการออกแบบวัสุดร่วมกับนักออกแบบ รวมไปถึง custom-made สินค้าเพื่อสร้างความพิเศษให้กับพื้นที่ในฝันของคุณ
– เวทีที่ 2 “LIV the Expectation” แสดงถึงความเข้าใจในความต้องการของลูกค้า ที่เป็นสิ่งสำคัญ ทั้งการบริการด้านการออกแบบ, ราคาสินค้าที่เหมาะสมกับงบประมาณ, การบริการจัดส่งสินค้า และการบริการหลังการขาย รวมถึงการรับประกัน
– เวทีที่ 3 “LIV the Luxurious” แสดงถึงความพิเศษของลูกค้าทุกท่าน ด้วยการมีผู้ช่วยในการดูแล และเลือกสรรสิ่งต่างๆ สำหรับลูกค้า
– เวทีที่ 4 “LIV Care” ด้วยความใส่ใจในสุขอนามัย ความปลอดภัยของคุณและทุกคนในครอบครัว ด้วยการคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ห่วงใยคุณ อาทิ กระเบื้อกันลื่น, ก็อกน้ำดื่มปลอดสารตะกั่ว, ถังขยะเปิด-ปิดเอง, กระเบื้องผนังที่ช่วยฟอกอากาศให้้ห้องของคุณ
– เวทีที่ 5 “LIV with Partner” เพราะเราคือเพื่อนของคุณ LIV365 จะคอยให้การ support คุณทั้งด้านสินค้า และการบริการ เพื่อให้การก่อสร้างของคุณราบรื่น
– เวทีที่ 6 “LIV to the Future” ที่ LIV365 เรามีนวัตกรรมที่ทำให้งานของคุณง่ายขึ้น เร็วขึ้น พร้อมชนะทุกข้อจำกัด และอุปสรรคไปกับคุณ
– เวทีที่ 7 “LIV Together” ที่ LIV365 มีบริการช่วยทำการตลาดให้กับทุกโปรเจคของลูกค้า ผ่านการประชาสัมพันธ์, จอ LED ของทางร้าน รวมถึงสื่อ online ต่างๆ ฟรี!! ไม่ว่าจะเป็นลุกค้าบ้านจัดสรรขนาดใหญ่ หรือร้านกาแฟ เพราะที่ LIV365 เราอยากเติบโตไปพร้อมกับลูกค้าทุกท่าน ที่เป็นคนสำคัญที่สุดของเรา

ร่วมเฉลิมฉลองไปกับ “LIV 365 OPENHOUSE” ตั้งแต่วันที่ 6-10 กุมภาพันธ์ 2563 พิเศษ…พบกับสินค้าลดราคาแบบนาทีทอง เพื่อคนรักบ้านในงานนี้โดยเฉพาะ ตั้งแต่เวลา 08.30-11.00 น. สอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 052 243 808, FB – www.facebook.com/LIV365Store/

จัดยิ่งใหญ่!! SMCE ICONIC FAIR แวะชม แวะชิม แวะแชร์ 14-16 ก.พ. ที่ เซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต

กองส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตร ร่วมกับ ศูนย์นวัตกรรมอาหารและบรรจุภัณฑ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดงานแสดงสินค้า “SMCE ICONIC FAIR แวะชม แวะชิม แวะแชร์” ภายใต้โครงการ”พัฒนาผลิตภัณฑ์และมาตรฐานการผลิตสินค้า OTOP เกษตรแปรรูป” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ มีโอกาสร่วมแสดงผลงานผลิตภัณฑ์และบรจุภัณฑ์ใหม่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้น พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ใหม่และผลงานการดำเนินโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และมาตรฐานสินค้า OTOP เกษตรแปรรูป

นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการได้พัฒนาทักษะ การบริหารจัดการ การตลาดสู่การยกระดับสินค้าสร้างรายได้สู่ชุมชนอย่างเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยงานจะจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์นี้ ณ บริเวณชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต
ทั้งนี้ภายในงานจะมีการจัดแสดงสินค้าเกษตรแปรรูป และของดีจากทั่วประเทศไทยกว่า 30 ร้านค้า อาทิ โรตีมะตะบะพายไก่, วาฟเฟิลกรอบกล้วยหอมทอง, น้ำมังคุดบิวติดริ้งค์, ปลาร้าก้อนปรุงรส, มะม่วงเบาผงและเยลลี่มัลเบอรี่พร้อมดื่ม
โดยวันศุกร์ที่ 14 ก.พ. พบการแสดงสุดอลังการ 4 ภาค แดนทิพย์ ครั้งแรกในเชียงใหม่กับ เจนนี่-นฤมล คำพันธ์ รองอันดับ 2 Miss Grand Thailand 2019 ในชุด “The Iconic Chiangmai” และ สนุกสุดมันส์ ไปกับ “Mini Concert จาก แกงส้ม-ธนทัต ชัยอรรถ”
วันเสาร์ที่ 15 ก.พ. “ชิม ช้อป แชร์” กับสาวน้อยสุดสวย ใยไหม-อรชดา ไชยสาร Miss Grand Chiangmai 2018 พร้อมด้วยการแสดงด้วยการแสดงวัฒนธรรม ภาคใต้ ภาคกลาง
และวันสุดท้าย อาทิตย์ที่ 16 ก.พ. อร่อยไปกับเจ้าหญิงแห่งวงการขนมหวาน เดียว-คมสันต์ วงค์ษา มาสเตอร์เชฟ และปิดท้ายงานด้วยการแสดงวัฒนธรรม ภาคเหนือ ภาคอิสาน
สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ FB : www.facebook.com/SMCEIconicFair หรือโทร 053-948-286

สะพานบุญโขกู้โส่ สะพานบุญแห่งแรงศรัทธา อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวธรรมชาติ ของปาย ท่ามกลางหุบเขาล้อมรอบ และสัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรม และ ประเพณีของชาวไทใหญ่ ที่ บ้านแพมบก อ.ปาย 

ประวัติสะพานบุญโขกู้โส
สะพานบุญโขกู้โส่ได้เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 22 เมษายน พศ. 2559 เกิดขึ้นจากพลังศรัทธาของชาวบ้านที่มีต่อ
พระพุทศสนา โดยมี พระอาจารย์สคร สุวเสน เป็นผู้คิดริเริ่มร่วมกับชาวบ้านหมู่บ้านแพมบก ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยโครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริดอยกิ่วลม หน่วยงานราชการของอำเภอปาย และหน่วยงานราชการของจังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมถึงความร่วมมือร่วมใจจากชาวบ้านหมู่บ้านแพมบก หมู่บ้านพื้นที่ใกล้เคียง และพี่น้องชาวอำเภอปาย ร่วมเป็นแรงงานในการก่อสร้าง

วัตถุประสงค์ของการสร้างสะพานโขกู้โส่ เพื่อให้พระภิกษุที่จำพรรประวัติสะพานบุญโขกู้โส
สะพานบุญโขกู้โส่ได้เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 22 เมษายน พศ. 2559 เกิดขึ้นจากพลังศรัทธาของชาวบ้านที่มีต่อ
พระพุทศสนา โดยมี พระอาจารย์สคร สุวเสน เป็นผู้คิดริเริ่มร่วมกับชาวบ้านหมู่บ้านแพมบก ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยโครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริดอยกิ่วลม หน่วยงานราชการของอำเภอปาย และหน่วยงานราชการของจังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมถึงความร่วมมือร่วมใจจากชาวบ้านหมู่บ้านแพมบก หมู่บ้านพื้นที่ใกล้เคียง และพี่น้องชาวอำเภอปาย ร่วมเป็นแรงงานในการก่อสร้าง

คำว่า โข แปลว่า “สะพาน” กู้โส่ แปลว่า “กุศลหรือบุญ” โขกู้โส่จึงหมายถึง “สะพานบุญ” สร้างขึ้นมาด้วยศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวปาย เพื่อให้พระสงฆ์ที่พุทธอุทยานห้วยคายคีรี ใช้เดินลัดทุ่งนาออกมาบิณฑบาตรได้ใกล้กว่าเส้นทางเดิม โดยไม่เหยียบย่ำพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน ขณะเดียวกันก็อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวข้ามไปทำบุญ ไหว้พระ พร้อมชมธรรมชาติสวยๆ ของป่าเขาและนาข้าวระหว่างทางอีกด้วย

วัตถุประสงค์ของการสร้างสะพานโขกู้โส่ เพื่อให้พระภิกษุที่จำพรรษาอยู่ในพุทธอุทยานห้วยคายคีรีได้ใช้เป็นเส้นทางในการเดินทางมาบิณฑบาตรในชุมชน เพื่อส่งเสริมพระพุทธศาสนาและแสดงออกถึงแรงศรัธาของคนในชุมชนที่มีต่อพระพุทธศาสนา

สะพานโขกู้โส่ ใช้ระยะเวลาในการสร้างประมาณ 3 เดือน ความยาวของสะพาน มีระยะทางรวม 813 เมตร น้อมถวายเป็นพุทธบูชา ให้พระภิกษุสงฆ์จากพุทธอุทยานห้วยคายคีรี ได้ใช้เป็นเส้นทางบิณฑบาตรครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2559 เนื่องด้วยพื้นผิวของสะพานสร้งจากไม้ไผ่ ง่ายต่อการชำรุดจึงขอความร่วมมือจากผู้มาเยือนทุกท่าน ดังนี้
1. ได้โปรดงดกระโดด หรือ งดวิ่งบนสะพานโขกู้โล่
2. งดดื่มสุราและของมึนเมาต่างๆ บริเวณสะพานโขกู้โล่
3. งดส่งเสียงดังเมื่อเข้าไปในเขตพุทธอุทยานฯ

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 เร่งยกระดับงานหัตถกรรมเครื่องเขิน สู่อุตสาหกรรม LifeStyle พร้อมจัดประกวดชิงเงินรางวัลกว่า 120,000 บาท

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 เร่งยกระดับงานหัตถกรรมเครื่องเขิน สู่อุตสาหกรรม LifeStyle พร้อมจัดประกวดชิงเงินรางวัลกว่า 120,000 บาท
22 มิ.ย. 62 : นางพรสวรรค์ หมายยอด ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาการส่งเสริมอุตสาหกรรมชุมชน เป็นประธานกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเครื่องเขิน ภายใต้โครงการ ยกระดับหัตกรรมท้องถิ่นสู่อุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์ ประจำปีงบประมาณ 2562 (กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1) “อลังการหัตถศิลป์ ถิ่นล้านนา พร้อมกิจกรรมมากมาย” ที่ห้องนกยูง ชั้น 3 โรงแรมดิเอ็มเพลส อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี ผู้ประกอบการด้านหัตถกรรมเครื่องเขิน กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มผู้ผลิตสินค้าหัตถกรรม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม นักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมในกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
นางพรสวรรค์ หมายยอด ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาการส่งเสริมอุตสาหกรรมชุมชน กล่าวว่า กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประกอบไปด้วย จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดย ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 กำหนดจัดงานงานหัตถกรรมเครื่องเขิน สู่อุตสาหกรรม LifeStyle กิจกรรมทดสอบตลาดเพื่อเชื่อมโยงธุรกิจ (ปลายน้ำ) ระหว่างวันที่ 24 – 25 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ณ ศูนย์การค้า เมญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ จังหวัดเชียงใหม่ และ กิจกรรมสร้าง การรับรู้และแสดงศักยภาพอุตสาหกรรมเครื่องเขินล้านนา วันที่ 6 – 8 เดือนกันยายน พ.ศ. 2562 ณ กรุงเทพมหานคร

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งผลิตสินค้าหัตกรรมที่สำคัญ อีกทั้งยังมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม เป็นแหล่งผลิตสินค้าหัตกรรม ที่มีคุณภาพ ซึ่งสร้างรายได้ต่อปีมูลค่ามหาศาลและส่งผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจของจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1
ดังนั้น ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 เป็นหน่วยงานภาครัฐที่มี หน้าที่ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาอุตสาหกรรมและหัตถกรรมให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลาง และขนาดย่อม (SMEs) และผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน จึงเกิดแนวคิดในการอนุรักษ์และพัฒนา ศิลปหัตถกรรมเครื่องเขิน ให้แก่ผู้ประกอบการที่ทำการผลิตเครื่องเขิน และผู้ที่สนใจ ได้แก่ นักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบน เช่น จังหวัดเชียงใหม่ ให้เกิดการกระตุ้นเพื่อรักษาภูมิปัญญา ประยุกต์ใช้ในการต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องเขิน ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตในปัจจุบัน สามารถตอบสนอง ความต้องการของผู้บริโภคที่มองไม่เห็นหรือยังไม่ได้รับการตอบสนอง (Unmet Needs) ผ่านการคิดค้นการใช้ งานรูปแบบใหม่ ที่ผลิตภัณฑ์เดิมไม่เคยทำได้มาก่อน (New Usage) หรือสร้างคุณค่าใหม่ (New Value) ใน สายตาของกลุ่มลูกค้าในตลาดเป้าหมายที่มีศักยภาพ (Potential Market)
ในวันนี้ จึงได้มีการจัดกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเครื่องเขินภายใต้โครงการยกระดับหัตกรรมท้องถิ่นสู่อุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์ประจำปีงบประมาณ 2562 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 เพื่อเป็นการให้ความรู้กับผู้ที่สนใจทั่วไป และได้รับเกียรติจากวิทยากรที่มีความรู้ ความสามรถ มีชื่อเสียงเสียงเป็นที่ยอมรับ อย่าง ดร.วิถี พานิชพันธ์ กรรมการอำนวยการ สำนักส่งเสริม ศิลปวัฒนธรรม มช. รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม (Creative Center for Ecodesign) ภาควิชานวัตกรรมอาคาร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์หัวหน้าคณะทราปรึกษา ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) และผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของ Osisu (ธุรกิจผลิตภัณฑท์ี่เป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม) และคุณธีรชัย ศุภเมธีกูลวัฒน์ ดีไซน์ไดเรกเตอร์ บริษัท นิวอาไรวา จำกัด
อีกทั้งผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกด้านการออกแบบและพัฒนาหัตถกรรมเครื่องเขินสู่อุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์ และกิจกรรมให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกด้านการออกแบบและพัฒนาหัตถกรรมเครื่องเขินสู่ อุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์ ยังสามารถสมัครคัดเลือกเพื่อส่งผลงานเพื่อเข้าประกวด ในการประกวดแข่งขันชิงเงินรางวัลอีกด้วย แบ่งออกเป็น 5 รางวัล ได้แก่ รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 50,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ1 จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 30,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 20,000 บาท และรางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล มูลค่า 10,000 บาท โดยจะมีการโชว์ผลงานทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และกรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถดาวโหลดใบสมัครและเกณฑ์การประกวดได้ที่ เพจ facebook หัตถกรรมเครื่องเขินสู่อุตสาหกรรม Liftstyle

ลำพูน จัดประกวดการออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้า และการประกวดภาพถ่าย เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมสิ่งทอและแหล่งผลิต

20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 : ที่สถาบันผ้าทอมือหริภุญชัย ตำบลต้นธง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน แถลงข่าวร่วมกับสำนักงานพาณิชย์ จังหวัดลำพูน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดการประกวดการออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้า (Lanna Cath Show : Design Contest) และการประกวดภาพถ่าย (มนต์เสน่ห์เมืองเหนือ ภูมิปัญญาถิ่นผ้าทอ) กิจกรรมประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมสิ่งทอและแหล่งผลิต จังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ภายใต้โครงการพัฒนาผู้ประกอบการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 สู่การเป็นนักการตลาดสากล

นายวรยุทธ เนาวรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้กล่าวถึงบทบาทและแนวทางของจังหวัดลำพูนในโครงการดังกล่าวว่า จังหวัดลำพูน ได้วาง positioning ของจังหวัดในการพัฒนาให้เป็น เมืองหัตถนวัตกรรมสร้างสรรค์ (Creative Craft Innopolis) เป็นศูนย์กลางเรื่องผ้าทอ โดยได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งได้ประกาศเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนพัฒนาดังกล่าว ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1และเราได้ดำเนินการสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้เกิดการขับเคลื่อนและมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนและจากกลุ่มจังหวัดฯ และได้ดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องตามลำดับ

โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จังหวัดลำพูน โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำพูน ได้รับการจัดสรรงบประมาณภายใต้โครงการกลุ่มจังหวัด ในการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการแต่งกายด้วยผลิตภัณฑ์สิ่งทอในท้องถิ่นและนำมาใช้สวมใส่ในชีวิตประจำวัน รวมถึงประชาสัมพันธ์แหล่งผลิตสินค้าหัตถกรรมสิ่งทอและผลิตภัณฑ์

อีกทั้งทางจังหวัดก็มีการเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานในเรื่องของหัตถอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งอยู่ภายใต้แผนปฏิบัติราชการจังหวัดลำพูน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 มีหน่วยงานร่วมดำเนินการหลายหน่วยงานซึ่งเป็นส่วนเสริมที่จะดำเนินงานผลักดันให้เกิดการพัฒนาไปสู่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ได้เป็นอย่างดี คือ โครงการส่งเสริมและพัฒนาหัตถนวัตกรรมสร้างสรรค์ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่สากล มีหลายหน่วยงานร่วมกันทั้งสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดลำพูน/ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำพูน/ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดลำพูน/ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน/ สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร(สท.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)/ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน (สถาบันผ้าทอมือหริภุญชัย)

 

นายเมธี บัวพึ่ง พาณิชย์จังหวัดลำพูน กล่าวถึงรายละเอียดของการประกวดว่า การประกวดออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้า ต้องการให้ประชาชนทั่วไป หรือนักเรียน นักศึกษา รวมกลุ่มทีมละไม่เกิน 3 คน ร่วมกันพัฒนา หาแนวคิดสร้างสรรค์ให้เกิดเป็นรูปธรรมในการส่งผลงานเข้าประกวด โดยต้องมีเอกลักษณ์หรืออัตลักษณ์ของสิ่งทอพื้นถิ่น และใช้วัตถุดิบหลักจากแหล่งผลิตผ้าทอในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 เพื่อออกแบบชุดทำงาน และชุดลำลอง สำหรับชายและหญิง โดยเมื่อผลิตชิ้นงานจริง ต้องสามารถใช้ในชีวิตประจำวัน และตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อได้ ซึ่งผลงานที่ผ่านการคัดเลือกรอบ 4 ทีมสุดท้าย จะถูกนำมาตัดเย็บ และแสดงแฟชั่นโชว์ นอกจากนี้ผู้ออกแบบยังสามารถนำผลงานเหล่านี้ไปผลิตเพื่อจำหน่าย หรือใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ต่อไปได้อีกด้วย

สำหรับการประกวดภาพถ่าย มนต์เสน่ห์แห่งเมืองเหนือ ภูมิปัญญาถิ่นผ้าทอ เปิดโอกาสให้ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ไม่จำกัดอายุ เพศ การศึกษา ได้ส่งผลงานเข้าประกวดภาพที่สื่อความหมายสามารถบอกเล่าประวัติศาสตร์ ประเพณี วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และแหล่งท่องเที่ยว ด้วยความคิดสร้างสรรค์ มุมมองแปลกใหม่ มีองค์ประกอบศิลป์ สวยงาม สามารถสื่อถึงอัตลักษณ์ เอกลักษณ์ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี จูงใจให้อยากใช้สินค้า อยากมาเยี่ยมชม ทั้งนี้ผู้สมัคร 1 ราย สามารถส่ผลงงานได้ไม่เกิน 5 ภาพ และมีสิทธิ์ได้รับรางวัลสูงสุดเพียงรางวัลเดียว

ผู้สนใจส่งผลงานเข้าประกวดการประกวดการออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้า (Lanna Cath Show : Design Contest) และการประกวดภาพถ่าย (มนต์เสน่ห์เมืองเหนือ ภูมิปัญญาถิ่นผ้าทอ) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊ค LannaCathShow หรือสอบถามที่ โทรศัพท์ 093-139-8931 หรือ 082-388-6945