ขบวนแห่พระพุทธสิหิงค์มหาสงกรานต์เชียงใหม่

ขบวนแห่พระพุทธรูปสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ในงานสงกรานต์ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมสรงน้ำพระคู่บ้านคู่เมือง จังหวัดเชียงใหม่

โดยเมื่อช่วงเช้าได้มีพิธีอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ จากวิหารลายคำ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ประดิษฐานบนรถบุษบก นำแห่รอบเมือง เพื่อเข้าร่วมพิธีสรงน้ำพระ

ซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญในช่วงเทศกาล สงกรานต์จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนช่วงบ่าย มีชุมชนต่างๆ ร่วมจัดขบวนแห่แบบล้านนา มีการประดับตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม พร้อมอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญจากหัววัดต่างๆ กว่า 60 วัด เข้าร่วมขบวน ทั้งพระพุทธสิหิงค์ จากวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร พระเสตังคมณี หรือพระแก้วขาว พระเจ้าฝนแสนห่า ที่มีความเชื่อกันว่าจะทำให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ร่วมในขบวน

 

โดยเริ่มต้นขบวนที่บริเวณสี่แยกสันป่าข่อย สิ้นสุดที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยมี นายศุภชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายวิรุฬ พรรณเทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมในขบวน มีพี่น้องชาวเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นำน้ำขมิ้นส้มป่อยร่วมสรงน้ำ และสักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในวันสงกรานต์กันอย่างเนืองแน่น

สงกรานต์เชียงใหม่ เย็นชุ่มฉ่ำทั่วเมือง ชาลานัมเบอร์ซิก แจกน้ำฟรีนักท่องเที่ยว

บรรยายกาศสงกรานต์เชียงใหม่ในช่วงเช้า ได้เริ่มสาดน้ำกันแล้วตามถนนสายต่างๆในปีนี้ถึงแม้นักท่องเที่ยวจะบางตา แต่บรรยากาศสงกรานต์ในตัวเมืองเชียงใหม่ก็ยังมีมนต์เสน่ห์นักท่องเที่ยวยังเดินออกมาร่วมเล่นสงกรานต์ โดยเฉพาะบรรยากาศ ที่โรงแรมชาลานัมเบอร์ซิก อ.เมืองเชียงใหม่ได้ติดตั้ง ร่มกระดาษหลากสีสันหน้าโรงแรมและติดเครื่องพ่นละอองน้ำ เพื่อช่วยลดหมอกควัน พ่นน้ำในช่วงบ่ายตลอด และให้พนักงานแต่งชุดล้านนา มาเล่นน้ำสงกรานต์และ แจกน้ำดื่ม หน้าโรงแรมให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมาฟรี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 11-15 เม.ย. 62 เพื่อเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวช่วยกันฟื้นฟูการท่องเที่ยวหลังจากที่เกิด วิกฤตหมอกควันทำให้การทอ่งเที่ยวซบเซาลง

นายณกรณ์ กรณ์หิรัญ ประธานกรรมการบริหารของโรงแรมได้เปิดเผยว่า เราได้ทำการติดเครื่องพ่นละอองน้ำบริเวณด้านหน้าร้านกาแฟ ออเวย์ และบริเวณทางเข้าโรงแรมและภัตตาคารของโรงแรม พร้อมทั้งนำร่มกระดาษหลากสี มาตบแต่งหน้าโรงแรมห้อยเป็นสีสัน เพื่อส่งเสริมเทศกาลสงกรานต์เชียงใหม่ และช่วยลดปัญหาหมอกควันด้วย และยังได้ให้พนักงานแต่งชุดล้านนตามายื่นแจกน้ำดื่มฟรี ให้กับนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปผ่านมา และสาดน้ำสงกรานต์หน้าโรงแรม ในช่วงวิกฤตหมอกควันแบบนี้ เราต้องช่วยกันเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวหลังจากที่ วิกฤตหมอกควันทำให้การทอ่งเที่ยวซบเซา

สำหรับในช่วงบ่่ายวันที่ 12 เมษายน บรรยกาศสงกรานต์เมืองเชียงใหม่ ถนนหลายสายยังคงเงียบมีคนออกมาเล่นน้ำสงกรานต์ประปราย จะมีคึกคัดก็บริเวณถนนลอยเคราะห์ ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่มีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปออกมาเล่นสาดน้ำกันตลอดทั้งสายบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน

แต่สิ่งที่หายไปก็จะเป็นนักท่องเที่ยวจีนปกติจะมีมาก แต่ในครั้งนี้น้อยผิดคาด จะเป็นเพราะยังผวาเรื่องอากาศร้อยและกลัวเรื่องปัญหาหมอกควัน แต่ในตอนบ่ายท้องฟ้าใสหมอกควันเบาบางมาก และบริเวณรอบคูเมืองก็ยังไม่มีนักเล่นสงกรานต์ออกมาเลย ทำให้บรรยายกาศในปีนี้ดูจะเงียบเหงากว่าทุกๆปีที่ผ่านมา

รองเลขาธิการ ป.ป.ส. คุมเข้มสงกรานต์กลับบ้านปลอดภัยไร้ยาเสพติด และแอลกอฮอล์ประจำปี 2562

เมื่อเย็นวันที่ 11 เมษายน.นี้ นายวิชัย ไชยมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการสงกรานต์กลับบ้านปลอดภัยไร้ยาเสพติด และแอลกอฮอล์ประจำปี 2562 ร่วมด้วย นายพรพัฒน์ สุวรรณภูมิ ผอ.ปปส.ภาค 5 ได้ลงพื้นที่ สถานีขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ อาเขต แห่งที่ 3 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจเยี่ยมและดูการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ที่มาคุมเข้มในเรื่องยาเสพติดในห้วงเทศกาลสงกรานต์ ที่กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดมักจะอาศัยในช่วงเทศกาลต่างๆทำการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าไปในภาคกลาง

โดยมีการปฎิบัติร่วมกันฝ่ายตำรวจ ทหาร ตชด.และเจ้าหน้าขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกันนี้ได้พบปะประชาชน และแจกสื่อรณรงค์ป้องกันยาเสพติด พร้อมมอบของที่ระลึกและอวยพรให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย

นายวิชัย ไชยมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้เผยว่าในการเดินทางมาในครั้งนี้เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ และรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดของผู้ขับขี่และประชาชน ที่เดินทางในช่วงเทศกาลไม่รับฝากสิ่งของจากบุคคล ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าว เป็นการบูรณาการทำงานร่วมกับ สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ตำรวจภูธรภาค 5 วิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่พร้อมกันนี้ได้พบปะประชาชน และแจกสื่อรณรงค์ป้องกันยาเสพติด

7 วันอันตรายและปล่อยแถวคาราวาน ขับขี่ปลอดภัย ม่วนใจ๋ แอ่วปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่

เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 11 เมษายน.นี้ ที่ข่วงประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.พรหมธร ภาคอัต ผู้ช่วย ผบ.ตร. เดินทางมาเป็นประธานในพิธีโครงการ 7 วันอันตรายและปล่อยแถวคาราวาน ขับขี่ปลอดภัย ม่วนใจ๋ แอ่วปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ ประจำปี 2562พร้อมทั้งกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบ

โดย พล.ต.ท.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ นำกำลังตำรวจ และทหารรวมทั้งอาสา ฝ่ายปกครอง และปปส.กว่า 500 นายร่วมในพิธี ท่ามกลางความสนใจของนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่มาร่วมชม

พล.ต.ท.พรหมธร ภาคอัต ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้เผยว่าในการโครงการ 7 วันอันตรายและปล่อยแถวคาราวาน ขับขี่ปลอดภัย ม่วนใจ๋ แอ่วปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ ประจำปี 2562พร้อมเน้นด้านการกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบ และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และการเดินทางอย่างปลอดภัย ในห้วงวันที่ 11-17 เม.ย.นี้จะมีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม และมีความห่วงใยเรื่องความมั่นคง ที่เน้นมากที่สุดเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางของพี่น้องประชาชน

โดยเฉพาะเชียงใหม่เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศจึงจะต้องมีการระมัดระวังเป็นพิเศษ เชื่อว่าพี่น้องประชาชนจะเดินทางมาเล่นสงกรานต์ที่เชียงใหม่อย่างมีความสุขและปลอดภัย ส่วนเรื่องการเมาแล้วขับเรื่องนี้ทางตำรวจมีความห่วงใยมากตลอดจนเรื่องการขับรถเร็ว

ในเรื่องนี้หากมีการกระทำที่ผิดเมาแล้วขับแล้วเกิดอุบัติเหตุก็จะได้รับโทษอย่างสูงสุด จึงเน้นเป็นพิเศษเรื่องเมาแล้ว ขับ และขับรถเร็ว และไม่สวมหมวกันน็อคจึงขอเตือนในเรื่องนี้

บางกอกแอร์เวย์ส ได้เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เชียงใหม่-หลวงพระบาง

เมื่อวันที่ 2 เมษายน.นี้ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ได้เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เชียงใหม่-หลวงพระบาง บินตรงใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเป็นเชื่อมวัฒนธรรมของพี่น้องสองชาติที่วิถีชีวิตใกล้เคียงกันในด้านวัฒนธรรมประเพณี จนมีคนกล่าวว่า หากอยากจะเห็นเชียงใหม่เมื่อ 40 ปีในอดีต ก็ต้องมาชมหลวงพระบาง ประเทศสาสธารณรัฐประชาชนลาว(สปป.ลาว) ซึ่งทางสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส จึงได้จัดเที่ยวบินตรงเชียงใหม่-หลวงพระบาง


วันที่เดินทาง เที่ยวปฐมฤกษ์ เชียงใหม่ -หลวงพระบาง มีนายวรงค์ อิศรเสนา ณ อยุธยา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ส่วนขาย สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ออกเดินทางจากเชียงใหม่ เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.ด้วยเครื่องบินแบบ เอทีอาร์ 72-600 ขนาด 70 ที่นั่งโดยเที่ยวบินขาไป PG983 ออกจากเชียงใหม่(สนามบินนานาชาติเชียงใหม่) บิน ถึงหลวงพระบาง (สปป.ลาว)เมื่อ เวลา17.45น. โดยมี ดร.สุดาพอน คมทาวง รองหัวหน้าแผนกแถลงข่าว วัฒนธรรมและท่องเที่ยว แขวงหลวงพระบาง, นายเวียระสัก วันนะจิด รองผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานหลวงพระบาง และมร.แอนดริว แจนสัน ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมอวานี พลัส หลวงพระบาง ให้การต้อนรับ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบาง (สปป.ลาว)

โดยมีพิธีต้อนรับอย่างวัฒนธรรมบ้านพี่เมืองน้อง แม่ญิงลาวแสนสวยมาคล้องมาลัยดอกไม้ ทันทีที่เดินทางมาถึง และมีการแสดงทางวัฒนธรรมเพื่อต้อนรับแขกเมืองหรือนักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนถิ่นมรดกโลกการเปิดเส้นทางบินเชียงใหม่ – หลวงพระบาง (สปป.ลาว) ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การขยายเครือข่ายเส้นทางบินของบางกอกแอร์เวย์สให้ครอบคลุมประเทศในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม) โดยใช้เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการบินทางภาคเหนือ สำหรับเมืองหลวงพระบาง (สปป.ลาว) เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ชื่นชอบด้านวัฒนธรรม ต้องการความเงียบสงบ วิถีชีวิตเรียบง่ายเลือกเดินทางมาพักผ่อน ซึ่งองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เมืองหลวงพระบาง (สปป.ลาว) เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม

การเปิดเส้นทางบินระหว่างเชียงใหม่ – หลวงพระบาง (สปป.ลาว)จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในการเดินทางเชื่อมต่อไปยังเมืองมรดกโลกแห่งนี้โดยไม่ต้องเดินทางกลับไปต่อเครื่องที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะชาวเชียงใหม่ได้มาเที่ยวชมหลวงพระบาง เหมือนย้อนอดีตชมเชียงใหม่เมื่อ 40 ปี เพราะหลวงพระบางอนุรักษ์เมืองไว้แบบอดีตไม่มีเปลี่ยนแปลง


นอกจากจะได้ชมความงดงามของบ้านเมืองและวัดวาอารามที่เป็นมนต์เสน่ห์ของหลวงพระบางแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติน้ำตกดาตกวางสีและล่องเรือชมแม่น้ำโขงยามพระอาทิตย์ตกดินงดงามยิ่งนัก หลวงพระบางทั้งเมืองล้วนแต่มีพลังอานุภาพกลิ่นไอยแห่งวัฒนธรรมประเพณี และรูปแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิม แม้จะเสริมแต่งขึ้นมาบ้างแต่ก็กลมกลืนเค้าเหง้าแห่งวัฒนธรรมเหนียวแน่นสมควรอย่างยิ่งที่ได้เป็นเมืองมรดกโลก

สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส สายการบินฯ จึงให้บริการแบบเต็มรูปแบบภายใต้สโลแกน “เอเชีย บูทีค แอร์ไลน์ส” หรือ ความประทับใจแห่งเอเชีย เปิดให้บริการเส้นทางบินตรงระหว่าง เชียงใหม่ –หลวงพระบาง (สปป.ลาว) (ไป –กลับ) โดยให้บริการสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน (อังคาร พฤหัสบดี และเสาร์) ด้วยเครื่องบินแบบ เอทีอาร์ 72-600 ขนาด 70 ที่นั่งโดยเที่ยวบินขาไป PG983 ออกจากเชียงใหม่(สนามบินนานาชาติเชียงใหม่) เวลา 16.30 น. ถึงหลวงพระบาง (สปป.ลาว) เวลา17.45น. เที่ยวบินขากลับ PG984 ออกจากหลวงพระบาง (สปป.ลาว) เวลา 18.30 น. ถึงเชียงใหม่ (สนามบินนานาชาติเชียงใหม่) เวลา 19.45 น.

ผู้โดยสารที่สนใจสามารถสำรองที่นั่งได้ที่ศูนย์ให้บริการข้อมูลลูกค้า(CallCenter) โทร. 1771 ตลอด 24 ชั่วโมง ค่าบริการครั้งละ 3 บาททั่วไทย (เฉพาะโทรศัพท์พื้นฐาน) หรือที่เว็บไซต์ www.bangkokair.com

บางกอกแอร์เวย์ส เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เส้นทางบินใหม่ เชียงใหม่-กระบี่ ผู้โดยสารเต็มลำ

บางกอกแอร์เวย์ส เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เส้นทางบินใหม่ เชียงใหม่-กระบี่ ผู้โดยสารเต็มลำ เหตุคนเลี่ยงหมอกควันเที่ยวทะเล

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ให้บริการเส้นทางบินใหม่ บินตรงเชียงใหม่-กระบี่ (ขาไปเที่ยวเดียว) โดยเริ่มให้บริการสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน (อาทิตย์ อังคาร และพฤหัสบดี) ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม และจะปรับเป็นให้บริการทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน ตั้งแต่วันที่ 31เมษายน 2562 เป็นต้นไป ด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส A319 ขนาด 144 ที่นั่ง โดยเที่ยวบิน PG 246 ออกจากเชียงใหม่ เวลา 12.00 น. ถึงกระบี่ เวลา 13.55 น.

สำหรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์นี้ มีผู้โดยสารเดินทางไปเต็มที่นั่ง เนื่องจากเป็นช่วงฤดูร้อนและปิดเทอม คนภาคเหนือหลีกหนีสถานการณ์หมอกควัน พาครอบครัวไปพักร้อน สูดอากาศบริสุทธิ์ ที่ทะเล ซึ่งจังหวัดกระบี่นั้น เป็นเมืองทะเลที่เดินทางได้สะดวกสบาย ค่าครองชีพไม่สูงนัก และมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามน่าประทับใจ โดยเฉพาะชายหาดและเกาะของจังหวัดกระบี่มีความงามมาก อีกทั้งยังมีแหล่งดำน้ำดำปะการังที่สวยจนติดอันดับโลก ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเยือนจังหวัดกระบี่ปีละหลายล้านคน สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดกระบี่ อาทิเช่น อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา, เกาะพีพี, อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา, เกาะลันตา, เขาขนาบน้ำ, หาดไร่เลย์, เกาะปอดะ, อ่าวนาง, เกาะไหง, อ่าวมาหยา, ท่าปอมคลองสองน้ำ, สระมรกต, น้ำตกร้อนคลองท่อม ฯลฯ

นายต่อตระกูล สมากุล ผู้อำนวยการฝ่ายขายบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คาดการณ์ว่าตลอดทั้งปีเที่ยวบินเชียงใหม่-กระบี่ จะมีอัตราการเดินทางของผู้โดยสารตลอดทั้งปีราว 70% ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศ และยังมีนักท่องเที่ยวคนไทยจากเชียงใหม่ ที่จองเข้ามามาก คิดว่าจะมีลูกค้าตลอดทั้งปีเพราะคนเชียงใหม่ก็ชอบเที่ยวทะเล ในวันนี้มี ผู้โดยสารเดินทางมา 123 คน ซึ่งเกือบเต็มลำ และมียอดจองล่วงหน้าทั้งเดือนเมษายนนี้ เข้ามาแล้ว 100กว่าที่นั่ง

ขณะนี้บางกอกแอร์เวย์ส มีเที่ยวบินจากเชียงใหม่ บินตรงไปยังภูเก็ต สมุย และกระบี่ พบเส้นทางการบินได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีโดยมียอดจองมากกว่า 70% ขึ้นไป ถือเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวที่คนจะเดินทางมาท่องเที่ยวภาคเหนือต่อไปทะเลแล้วจบที่กรุงเทพฯ

เยี่ยมผู้เสียสละเข้าดับไฟป่าจนได้รับบาดเจ็บกล้าหาญน่าชื่นชมยิ่ง

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 28 มี.ค.นี้ ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณจังหวัดเชียงใหม่ และนายสุเจตน์ มงคลไชยสิทธิ์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สบอ.16 (เชียงใหม่) เป็นตัวแทนจาก นายธัญญา เนติธรรมกุลอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายสมหวัง เรืองนิวัติศัยผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่เข้าเยี่ยมนำเงินในเบื้องต้น10,000บาทพร้อมกระเช้ามามอบเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่นายสมยศ ภูมิมาลา อายุ 47 ปี ตำแหน่งพนักงานราชการ(เจ้าหน้าที่ตรวจป่า)ประจำหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม 14 (แม่ขาน) อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ซึ่งได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่ดับไฟป่าในเขตพื้นที่อำเภอสะเมิง เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา โดยชายโครงหัก 2 ซี่ และแผลที่มือทั้งสองข้างซึ่งเกิดจากไฟไหม้และผลัดตกจากเนินเขาทำให้ลำตัวกระแทกหินได้รับบาดเจ็บขณะปฎิบัติหน้าที่ดับไฟป่า ซึ่ง แพทย์รักษาอาการจะดีขึ้นตามลำดับ ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่


นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวชื่นชมการทำหน้าที่ของนายสมยศ ภูมิมาลา ที่เข้าปฎิบัติหน้าที่ดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ เป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเข้าไปดับไฟป่าจนตัวเองได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้

“Maehia Model โครงการนำร่องผู้สูงอายุทางอากาศ”เทศบาลเมืองแม่เหียะสุดยอด

วันที่ 28 มี.ค.62 ณ ห้องประชุม 80 พรรษารวมใจ เทศบาลเมืองแม่เหียะ มีพิธีมอบประกาศนียบัตร นักเรียนโรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลเมืองแม่เหียะ ที่สำเร็จการศึกษา ในหลักสูตร โรงเรียนผู้สูงอายุทางอากาศ “Maehia Model โครงการนำร่องผู้สูงอายุทางอากาศ” โดยความร่วมมือระหว่าง เทศบาลเมืองแม่เหียะ กรมกิจการผู้สูงอายุ และ สถานีวิทยุ มก. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หลังจากมีการเรียนการสอน ผ่านสถานีวิทยุ ม.ก. AM 612 kHz. เมื่อจบหลักสูตรมีการสอบวัดผล และมอบประกาศนียบัตรให้กับนักเรียนผู้จบหลักสูตร โดยได้รับเกียรติจาก นายอนุสันต์ เทียนทอง รองประธานกรรมการมูลนิธิบ้านบางแค อดีตอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ เป็นประธานในการปิดโครงการ ซึ่งนับว่าเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ที่มีการเรียนการสอนผ่านสื่อวิทยุของโรงเรียนผู้สูงอายุ รวมถึงมีการวัดผลการเรียนของนักเรียนผู้สูงอายุ อีกด้วย

นายธนวัฒน์ ยอดใจ นายกเทศมนตรีเมืองแม่เหียะ กล่าวว่า หลังจากที่มีการเรียนการสอน ผ่านวิทยุ ของโรงเรียนผู้สูงอายุ จำนวน 25 หลักสูตร ให้กลุ่มผู้สูงอายุที่ร่วมโครงการ 100 คน ได้รับฟังและประเมินผลความเข้าใจ ผ่านแบบประเมินจากทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีการสอบวัดผลการเรียนการสอน อย่างเป็นระบบ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านต่างๆ ตามหลักสูตรที่กำหนดไว้ โดยใช้เวลาเรียนทั้งสิ้น 9 สัปดาห์ เริ่มออกอากาศวันที่ 10 ม.ค. 62 และมีการสอบวัดผลนักเรียนผู้สูงอายุ เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 62 ปรากฏว่ามีนักเรียนผู้สูงอายุสามารถผ่านโครงการทั้งสิ้น 96 คน จึงได้มีการมอบใบประกาศนียบัตรจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้กับนักเรียนผู้สูงอายุที่จบหลักสูตร จำนวน 96 ท่าน และนักเรียนที่สอบได้คะแนนสูงสุดจำนวน 4 ท่าน เพื่อเป็นการส่งเสริมคุณค่าของผู้สูงอายุ เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงวัยอย่างต่อเนื่อง ทั้ง 4 ด้าน ประกอบด้วย กาย อารมณ์ จิต สังคม อีกทั้งยังส่งเสริมคุณค่าภูมิปัญญาของผู้สูงอายุ อันเป็นอัตลักษณ์ให้คงอยู่คู่ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ อย่างยั่งยืน

สำหรับแม่เหียะโมเดล โครงการนำ ร่อง โรงเรียนผู้สูงอายุทางอากาศ เทศบาลเมืองแม่เหียะ นี้ถือเป็นอีกพันธกิจหนึ่งที่จะร่วมกันสืบสานพระราชปณิธาน และพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่เทศบาลเมืองแม่เหียะ และสถานีวิทยุ ม.ก.ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนพันธกิจที่เป็นการให้บริการสาธารณะ เพื่อส่งเสริมความพร้อมของท้องถิ่นรองรับกับสังคมผู้สูงอายุเพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงวัยอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ในการส่งเสริม และสืบสานศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาของท้องถิ่น ให้คงอยู่คู่สังคมไทยด้วย

โดยหลักสูตรการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ของแม่เหียะโมเดล โครงการนำร่อง โรงเรียนผู้สูงอายุทางอากาศ เทศบาลเมืองแม่เหียะ นี้เป็นหนึ่งในความร่วมมือ ภายใต้การขับเคลื่อน พัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ได้นำร่องโครงการ เพื่อรองรับกับสังคมผู้สูงวัย ทั้งนี้ถือเป็นโครงการแรก ของประเทศ โดยเป็นต้นแบบของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในการกำหนดหลักสูตรและขยายผลสู่ภูมิภาคอื่น ต่อไป

เชียงใหม่เพื่อไทยยังผงาด แต่อนาคตใหม่สร้างปรากฎการณ์ใหม่ของพลังหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่

สิ้นสุดกันไปแล้ว การเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ เพื่อนำประเทศชาติไปสู่ประชาธิปไตยให้เต็มรูปแบบ โดยเสียงประชาชนเป็นพลังยิ่งใหญ่ที่จะตัดสินชะตากรรมของประเทศชาติว่าจะไปอยู่ยังจุดไหน แต่สิ่งที่เป็นปรากฎการณ์ทีเพิ่่งเคยเห็นในการเลือกตั้งครั้งนี้ที่ดูเหมือนว่าพรรคใหญ่ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ และน้องใหม่ไฟแรงขอคนหนุ่มสาว พรรคอนาคตใหม่ รวมถึงพรรคเสรีรวมไทย ที่ก่อนการเลือกตั้งมีแต่คนคาดคิดว่าสองพรรคใหญ่อย่างพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐ จะแย่งชิงเก้าอื้อย่างถึงพริกถึงขิง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วอย่างบันทึกเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองไทย ที่พลังวัยหนุ่มสาวจะมีพลังมากมายมหาศาล แต่แต่ลละเขตทั่วประเทศจะต้องจารึกชื่อของพรรคอนาคตใหม่ ที่ชูประเด็นต่างๆได้เข้าถึงหัวอกหัวใจวัยหนุ่มสาวทั้งนักศึกษาและวัยทำงาน ที่ออกใช้สิทธิ์และเลือกพรรคอนาคตใหม่ จนแทบจะเบียดทุกเขตในหลายจังหวัด ได้ แต่ขาดเพียงประสบการณ์ในการต่อสู่ของคู่ต่อสู้ที่มากประสบการณ์และเก๋าเกมส์ อย่างพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะที่เชียงใหม่ พรรคอนาคตใหม่ได้ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของคนรุ่นใหม่ว่ามหาศาลเพียงไหน และจะเป็นบทเรียนใหม่ว่าเขตไหนทิ้งห่างประชาชน เขตไหนยังตรึงใจประชาชน

สำหรับผลการเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ทั้ง 9 เขตของเชียงใหม่ ทางพรรคเพื่อไทย ยังเอาตัวรอดสามารถพากันยกเขตเข้ามาทั้ง 9 เขตโดยเมื่อเวลา09.30 น.วันที่ 25 มี.ค.นี้ นายเกรียงไกร พานดอกไม้ ผู้อำนวยการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานผลล่าสุด พรรคเพื่อไทยคะแนนยังนำทุกเขต แต่ยังรอผลคะแนน เขต 1 ,เขต 5,เขต 6 ที่ยังไม่ครบ

 


พื้นที่ เขต 1. น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่พรรคเพื่อไทย เขต 1 เบอร์ 6 คะแนน 42,303 คะแนนตามด้วยหมายเลข 9 นางสาวศุภรี ฉัตรกันยารัตน์ หมายเลข 9 พรรคอนาคตใหม่ คะแนน41,435

เขต 2 นายนพคุณ รัฐผไท อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เบอร์ 6 คะแนน 48,498 คะแนน ตามด้วยนางสาวพรรคอนาคตใหม่ ณัชชา โปทายี่ เบอร์ 2 คะแนน 31,602 คะแนน


ที่เขต 3 นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม พรรคเพื่อไทย เบอร์ 13 คะแนน 63,404 คะแนน พันเอกศรัณย์ แสนพรหม พรรคอนาคตใหม่คะแนน 28,374 คะแนน

เขต4 นายวิทยา ทรงคำ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เบอร์ 4 คะแนน 37,454 คะแนน ตามด้วย นายชลิต ชนินทร์อารักษ์ พรรคอนาคตใหม่ คะแนน 35,576 คะแนน


เขต5 นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีต สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย หมายเลข 14 คะแนน 40,061 คะแนน ตามด้วย น.ส.เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ พรรคพลังประชารัฐ 28,014 คะแนนเบอร์ 17

เขต 6 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ พรรคเพื่อไทยเบอร์ 1 คะแนน 23,535 คะแนน นายธีรพันธ์ สุริวรรณ พรรคอนาคตใหม่ เบอร์10 คะแนน17,342 คะแนน

 


เขต 7 ประสิทธิ์ วุฒินันชัย พรรคเพื่อไทย เบอร์12 คะแนน27,477 คะแนน นายนราสิญจน์ ปัญญาศิลปวิทยา หมายเลข 16 คะแนน 19,729 คะแนน

เขต 8 นายสุรพล เกียรติไชยากร พรรคเพื่อไทย เบอร์ 8 คะแนน 49,200 คะแนนนายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ พรรคพลังประชารัฐ เบอร์4 คะแนน 37,854 คะแนน

เขต 9 นายศรีเรศ โกฎคำลือพรรคเพื่อไทย เบอร์9 คะแนน 39,234 คะแนน ตามด้วยนายนรพล ตันติมนตรี พรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 10 คะแนน 32,201 คะแนน

สรุปคะแนนเพื่อไทยนำทุกเขต คะแนนมาประมาณ 81.91 เปอร์เซ็นอย่างไม่เป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม เขตที่ ส.ส.เพื่อไทย คะแนนนำโด่ง เขต 8 นายสุรพล เกียรติไชยากร ส.ส. 8 สมัยของเชียงใหม่ ที่ทราบผลแน่ชัดแล้ว ชาวบ้านก็พากันมาแสดงความยินดี กับผู้ชนะการเลือกตั้ง และทาง ผู้สมัคร ส.ส.พรรคต่างๆทั้งสมหวังและผิดหวังก็ทยอยกันออกมขอบคุณชาวบ้านที่ให้การสนับสนุน ทั้งออกตระเวณนั่งรถขอบคุฯและส่งทางโชเชียลไลน์ เฟสบุ๊คกัน

โรงเก็บสารลำไยระเบิด บ้านพัง 8 หลังเจ็บ 2 ที่จอมทอง

เมื่อเวลา 14.35 น. วันที่ 20 มีนาคม 2562 ร.ต.อ.สง่า ยานะโส รอง สว.สอบสวน สภ.จอมทอง จ.เชียงใหม่รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 296 หมู่ 5 บ้านโรงวัว ต.แม่สอย อ.จอมทอง มีบ้านเรือนเสียหายและผู้บาดเจ็บจำนวน 2 ราย จึงรายงานให้ พ.ต.อ.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมประสานงานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบว่าบ้านที่เกิดเหตุ เป็นบ้านชั้นเดียวสร้างด้วยปูน โดยได้ถูกแรงระเบิดอัดจนทำให้บ้านเสียหายทั้งหลัง และมีบ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหายอีก 9 หลัง นอกจากนี้จากการตรวจสอบแล้วพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 คน ทราบชื่อคือ นางสอน จีนาคำ อายุ 68 ปี บาดเจ็บเล็กน้อย และ นางสาวพิชญา บังคมเนตร อายุ 15 ปี บาดเจ็บเล็กน้อย ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งให้การช่วยเหลือนำส่งรักษาต่อยังโรงพยาบาลจอมทอง


พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เผยว่าจากการสอบถามทราบว่านายวิทยา ต้อติดวงค์ อายุ 32 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวมีอาชีพทำสวนลำไย และได้มีการซื้อสารลำไยโซเดียมคลอเรทมาเก็บไว้จำนวน 10 ถุงเพื่อใส่สารลำไยโดยเก็บไว้ในโรงเก็บอย่างดี ถึงที่ผ่านมาก็ไม่เกิดเหตุการณ์อะไร แต่อากาศอาจจะร้อนจัด จนกระทั่งในช่วงบ่าย ได้เกิดระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวว่าบ้านหลังดังกล่าวและบ้านเรือนที่อยู่ติดกันได้ถูกแรงอัดของระเบิดพังเสียหายหลายหลังเจ้าหน้าที่เข้ามาให้การช่วยเหลือชาวบ้านและให้สำรวจความเสียหายและสาเหตุที่เกิดขึ้น


พล.ต.ต.พิเชษฐ ได้สรุปรายงานเหตุการณ์และความเสียหายจากสภ.จอมทอง ขอรายงานเหตุ สารเร่งดอกลำไยระเบิด มีผู้ได้รับบาดเจ็บมีพฤติการดังนี้ เมื่อวันที่ 20 มีนาคมนี้ เวลาประมาณ 14.20น. ร.ต.อ.สง่า ยานะโส รอง สว.(สอบสวน)สภ.จอมทอง ได้รับแจ้งเหตุสารสำหรับเร่งดอกลำไยระเบิด ทรัพย์สินเสียหาย มีผู้บาดเจ็บ เหตุเกิดโกดังหลังบ้านเลขที่ 296หมู่ที่ 5 ต.แม่สอย อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันนี้ เวลาประมาณ 14.00 น. หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาเบื้องต้นทราบ หลังจากนั้น พ.ต.อ.ดำเนิน กันอ่อง ผกก.สภ.จอมทอง พร้อมกับพวก จึงเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ. จากการตรวจที่เกิดเหตุพบบ้านที่เกิดเหตุพังเสียหาย มี นายวิทยา ต้อติดวงค์ อายุ 32 ปี ที่อยู่ 32หมู่ที่ 5 ต.แม่สอย อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ แสดงตนเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ จึงได้สอบปากคำ นายวิทยาฯ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้นำเคมีภัณท์ จำนวน 3รายการ คือ 1.สารโซเดียมครอเรท น้ำหนัก 25 กก.จำนวน 8 กระสอบ 2 .ไทโอยูเรีย น้ำหนัก 25 กก.จำนวน 2 กระสอบ และ ยาฆ่าหญ้าไกรโฟรเสท จำนวน2 กล่องๆ 5 แกลลอน ไว้รวมกันในโกดังหลังบ้านที่เกิดเหตุ ตามวันเวลาเกิดเหตุอากาศร้อนแดดจร้า จึงเกิดระเบิดขึ้น จึงตรวจที่เกิดเหตุพบความเสียหาย คือ 1. โกดังที่เกิดเหตุ เสียหายประมาณ200,000 บาท บ้านอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ เสียหาย ( จากการตรวจสอบเบื้องต้นได้ จำนวน8 หลังคาเรือน ) ความเสียหายอยู่ระหว่างประเมิน มีผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ จำนวน3 คน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจอมทอง ทราบชื่อ 1.น.ส.นันท์ริยา ปังเนตร อายุ 15 ปี 2.นางกลม ไม่ทราบนามสกุล อายุ 27 ปี สัญชาติไทย ส่วนอีก 1 คน ไม่ทราบชื่อและได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่ประสงค์ที่จะมารักษาตัวที่โรงพยาบาลจอมทอง จึงได้ตรวจที่เกิดเหตุและจะได้ประสานวิทยาการมาตรวจเพื่อหาสาเหตุโดยละเอียดต่อไป

ต่อมานายสมพล แสนคำ เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนางปฤษณา บรรพโต เกษตรอำเภอจอมทอง ได้รับรายงานสารโพแทสเซียมคลอเรตระเบิดที่อำเภอจอมทอง และได้เข้าติดตามสถานการณ์พบว่า ที่เกิดเหตุเป็นอาคารเก็บของ ของบ้านเลขที่ 296 หมู่ 5 บ้านโรงวัว ต.แม่สอย อ.จอมทองตัวอาคารได้รับความเสียหายไฟไหม้ทั้งหลัง ซึ่งเก็บสารโพแทสเซียมคลอเรต จำนวน 10กระสอบๆละ 25 กก. และได้ผสมเพื่อเตรียมไว้สำหรับพ่นและราดที่สวนลำไยของตนเอง คาดว่าอาจเกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนทำให้เกิดปฏิกิริยาแล้วเกิดการระเบิดขึ้น สร้างความเสียหายต่อตัวอาคาร และบ้านเรือนรอบพื้นที่ จำนวน 9 หลังคาเรือน

(ขอบคุณภาพจากตำรวจและกู้ภัย และเกษตรจังหวัดเชียงใหม่)